สรุป Timeline ย้ายค่าย LINE Mobile และความคิดเห็นหลังจากย้ายมาใช้ 20 วัน

จาก blog ก่อนหน้านี้ที่ ลองสมัครย้ายค่าย LINE Mobile

ก็สรุปลำดับการย้ายค่ายคือ

  • Oct 30, 2017 – แจ้งย้ายค่าย Truemove H ไป LINE Mobile ผ่าน *151*
  • Oct 30, 2017 – Truemove H โทรมาตรวจสอบและยืนยันการย้ายค่าย
  • Nov 1, 2017 – ได้รับ SIM จาก LINE Mobile ผ่าน Kerry Express
  • Nov 2, 2017 – ได้รับใบเสร็จรับเงินค่าบริการเดือนแรกของ LINE Mobile ผ่านทางจดหมาย
  • Nov 7, 2017 – ใช้งานได้
  • Nov 7-28, 2017 – ใช้งานมาแล้วประมาณ 20 วัน

ความคิดเห็นหลังจากย้ายมาใช้ LINE Mobile โดยวัดจากมือถือที่ใช้งานเป็นระบบ dual SIM โดยเครือข่ายที่เอามาเปรียบเทียบคือ AIS ใช้ data plan ที่ 20GB พื้นที่ทดสอบก็บริเวณ สยาม ถ.พระราม 3 และแถวๆ ถนนเจริญกรุง และลองไปใช้ในงานที่มีคนเยอะๆ มารวมตัวอยู่ด้วยกันมาก อย่าง CAT Expo 4 วันที่ 25 และงานรับปริญญาธรรมศาสตร์วันที่ 26 ที่ผ่านมา

พบว่าเครือข่าย DTN ที่ LINE Mobile ใช้นั้น มีปัญหามาก คุณภาพไม่คงที่ แม้ว่าในหลายพื้นที่ AIS จะช้ากว่า DTN แต่ความเสถียรในการรับ-ส่งข้อมูลกลับนิ่ง-ราบรื่นกว่า ผิดกับ DTN ที่แม้จะได้ความเร็วที่ดีกว่า แต่ความเสถียรกลับน้อยกว่า “มาก” สัญญาณแกว่งมาก ดูวิดีโอ หรือโหลดข้อมูลที่ต้องการความต่อเนื่องจะเห็นชัดเจนมาก (speed test ค่าย AIS ได้ 8-12Mpbs ส่วน DTN วิ่งไป 5-20Mbps)

จากปัญหาสัญญาณแกว่งของ DTN ทำให้ data ของ AIS ที่มีจำนวนเท่ากันที่ 20GB หมดก่อน ส่วนของ DTN ยังเหลือออยู่ 13GB ทั้งๆ ที่ปรับเอา DTN มาใช้เป็นเครือข่ายหลักแล้ว แต่หลายๆ จุดหลายๆ ที่ไม่สามารถตอบสนองการใช้งานได้ ต้องย้ายมาใช้ AIS อยู่เยอะมาก จนน่ารำคาญ

สรุปสั้นๆ ถ้าไม่ลดราคา 50% ลงมาที่ 300 บาท ได้ data 20GB แนะนำให้ย้ายออก หากยังไม่ปรับปรุงคุณภาพให้ดีกว่านี้ (ผมคิดว่าจะใช้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดโปร 50%)

ลองทดสอบใช้ AIS WiFi Calling บน iPhone 6

เมื่อวานช่วงกลางคืน (คืนวันที่ 17 มิ.ย. 59) เจอข้อความใน timeline บน Twitter แจ้งว่า AIS เปิดให้ใช้ AIS WiFi Calling ได้แล้วเลยลองทดสอบดู

โดยวิธีการเปิดใช้งานบน iPhone

  1. ให้อัดเดท Carrier เป็น AIS ตัว 24.2 (ดูได้ที่ Settings ตามด้วย General และ About)
  2. กดขอใช้บริการ AIS WiFi Call ผ่านเบอร์ *399*1# แล้วรอสักครู่
  3. เปิดใช้งานบนเครื่อง ให้ไปที่ Settings ตามด้วย Phone และ Wi-Fi Calling
  4. เปิดตัวเลือก WiFi Calling on This iPhone ขึ้นมา
  5. ลองกด Airplane Mode แล้วเปิดรับสัญญาณ WiFi อย่างเดียว ก็จะขึ้น AIS WiFi Call ด้านซ้ายมือบน

จากการทดสอบในการโทรศัพท์ ให้เสียงโอเค การตอบรับทำได้เร็วมาก โดยได้รับสัญญาเรียกทันที

ส่วนที่หลายคนกังวลเรื่องการรับ-ส่ง SMS ได้ทดสอบแล้วใช้งานได้ปรกติ ทั้งจากการรับ-ส่งระหว่างเครื่องโทรศัพท์ หรือการรับจากบริการที่ส่งหมายเลข OTP ทั้งไทยและต่างประเทศ

ข้อดีของการใช้ WiFi Calling คือช่วยให้การรับบริการในบางพื้นที่ที่เป็นจุดอับสัญญาณ ยังสามารถใช้งานโทรศัพท์ได้อย่างทั่วถึง ตัวอย่างเช่นในคอนโด หรืออาคารที่ cell site ส่งสัญญาณเข้าไปได้ยาก พบว่าสัญญาณอ่อน หรือไม่มีสัญญาณ ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากความสามารถนี้อย่างมาก

ส่วนราคาในการคิดค่าใช้บริการบน WiFi Calling แทนสัญญาณโทรศัพท์ปรกตินั้น ยังไม่มีข้อกำหนดอะไรออกมาอย่างชัดเจน แต่จากการคาดเดา คิดว่าคงอ้างอิงตามราคาปรกติบนแพ็คเกจปรกติที่ผูกกับเบอร์ของเรา ส่วนว่าหากไปต่างประเทศแล้วค่าบริการจะอ้างอิงยังไงบ้าง อาจจะต้องรอข้อกำหนดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แต่อีกค่ายที่เปิดบริการไปก่อนหน้านี้อ้างอิงราคาตามปรกติหากโทรหาเบอร์ภายในประเทศไทย

ณ ตอนที่ทดสอบยังไม่มีความสามารถ Calls on Other Devices และ Update Emergency Address แต่อย่างใด

13475057_10154196757430275_328057689083887579_o

หากคิดจะใช้ AIS mPay Rabbit SIM ควรทราบข้อกำหนดการ “การขอคืนมูลค่า” เสียก่อน

ส่วนตัวใช้ AIS mPay Rabbit SIM ซึ่งสนับสนุนมือถือ Android อยู่ แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนมาใช้ iPhone ซึ่ง SIM ดังกล่าวไม่สนับสนุน นั้นหมายความว่า หากจะเปลี่ยน SIM จะทำให้เงินและจำนวนเที่ยวภายใน SIM นั้นหายไปทันที 

แม้ว่าจะมีทางแก้ไขในส่วนของเงินที่อยู่ใน SIM โดยทำเรื่องขอคืนเงินได้ที่ ศ. Rabbit เสียก่อน แล้วจึงเปลี่ยน SIM ดังกล่าว แต่มีค่าธรรมเนียม 50 บาท และจำนวนเที่ยวที่อยู่ใน SIM จะไม่สามารถดึงออกมาได้ทำให้สูญเงินไปทั้งสองทาง ฉะนั้น หากอ้างอิงตาม FAQ แล้วนั้น

การขอคืนมูลค่าของ AIS mPay Rabbit SIM ไม่รวมถึงจำนวนเที่ยว แต่มีความหมายแค่จำนวนเงินเท่านั้น

2015-08-05_114747

ทั้งนี้ AIS mPay Rabbit เล่นคำว่า “การขอคืนมูลค่าคงเหลือ” เพื่อให้เราในฐานะผู้ใช้บริการเข้าใจผิดว่า “การขอคืนมูลค่า” หมายถึง “ทั้งจำนวนเงินและจำนวนเที่ยว” ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ ซึ่งเลวร้ายมาก

แน่นอนว่า ส่วนตัวผม ณ ตอนนี้คือทำ spare SIM โดย SIM หลักคือ iPhone ที่เป็น SIM ปรกติ ส่วน SIM สำรองคือเครื่อง Android ที่เป็น Rabbit SIM เพื่อให้ใช้งานบริการของ Rabbit ไปได้ก่อน โดยเสียเงิน 29 บาทต่อเดือน ซึ่งก็ยังถูกกว่าค่าธรรมเนียน 50 บาท และสูญจำนวนเที่ยวทั้งหมดกว่า 30 เที่ยวไป รวมแล้วเสียเงินเกือบพันบาทไปเสียเปล่าเปล่าๆ

น่าเสียดายบริการนี้ที่กลับมีข้อกำหนดที่กำกวมแบบนี้

ลาก่อน AIS ผมกลับบ้านเก่า dtac แหละ

จากลา dtac ไป AIS มาได้สักเกือบๆ 2 ปี จาก blog entry ด้านล่างที่เขียนฝากไว้ก่อนจาก

มาวันนี้ผมขอเล่าปัญหาของ AIS บ้าง ว่าทำไมผมถึงย้ายกลับมา dtac เป็นข้อมูลที่เจอมาเกือบ 2 ปีก็แล้วกัน เพราะช่วงแรกที่ย้ายมาใช้ AIS นั้นมีความสุขมาก เพราะใช้งานได้ดีมากๆ แต่แล้วมาระยะประมาณ 6-8 เดือนที่ผ่านมา ผมกะๆ ไว้ประมาณช่วงตั้งแต่หลังปีใหม่ 2555 เป็นต้นมาก็เริ่มมีปัญหาต่อไปนี้

  • พื้นที่ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ปรกติ 2G บริเวณหมู่บ้านกลางเมืองมอนติคาร์โล ซึ่งเป็นแถวๆ ที่ทำงานเก่าของผม สัญญาณเข้าไม่ถึงภายในบ้าน คือรับสาย-โทรออกต้องเดินออกมาคุยนอกบ้านตลอด อนาถมาก T_T
  • พื้นที่ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ปรกติ 2G ภายในตึกสำนักงานบางที่บริเวณเพลินจิตสัญญาณมาๆ หายๆ ต้องไปยืนคุยแถวริมหน้าต่าง ถึงจะคุยโทรศัพท์ได้ แต่มักจะหลุดก่อนได้คุย ต้องโทรกลับหาคนโทรเข้ามาเสมอๆ เป็นบ่อยมาก
  • สัญญาณโทรศัพท์ปรกติ 2G อยากจะหลุดก็หลุดไปเฉยๆ แบบวูบดับไปดื้อๆ ยิ่งใช้ยิ่งเป็น แล้วนับวันยิ่งเป็นบ่อยมาก โทรศัพท์คุยเรื่องงานการสำคัญๆ ลำบากมาก
  • ตลอดระยะทางรถไฟฟ้า BTS ตั้งแต่อุดุมสุขถึงหมอชิตส่วนใหญ่ใช้งาน 3G/Edge ได้เป็นระยะๆ ต้องใช้ TOT 3G ต่อผ่าน MiFI จึงใช้งานระหว่างการเดินทางบน BTS ได้ราบรื่นขึ้น ><“
  • สัญญาณ 3G และ Edge ไม่ได้แรงสมราคาคุย “เครือข่ายที่ดีที่สุด” ดั่งที่โฆษณาไว้ ข้อมูลรับและส่งมาๆ หายๆ ตอนยังไม่เปิด AIS 3G ตัว Edge ก็ทำงานได้เร็วดี (ผมถือว่าไม่ด้อยกว่า dtac) ทำให้ตอนช่วงน้ำท่วมผมถือว่าไว้ใจได้เลย แต่ดูเหมือนหลังน้ำท่วมปี 2554 และเปิด 3G ขึ้นมาให้ใช้ก็รู้สึกว่าห่วยลงเยอะมากจนทำงานและติดต่อสื่อสารลำบากมาก
  • พื้นที่ให้บริการ 3G ส่วนใหญ่ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง ขึ้นต่อ 3G แต่ไม่มีข้อมูลส่งเข้า-ออกมาให้ เปิดไปเสียดายพลังงานแบตฯ เลยเปิดและใช้ Edge ก็พอใช้งานไปได้ แต่ผมจ่ายเงินเพื่อ 3G เดือนเกือบ 1,000 บาทนะครับ!!

ด้วยคุณภาพด้านบนที่กล่าวมาในระยะหลังๆ ค่าโทรศัพท์ AIS นั้นมีค่าใช้จ่ายแพงมากจนน่าตกใจ บางเดือนผมต้องจ่ายเกือบ 3,000 บาท กับคุณภาพที่มาๆ หายๆ หลุดแล้วหลุดอีก (ผมเป็น Serenade Gold ตามเงื่อนไขระยะเวลา 6 เดือนชำระขั้นต่ำ 1,500 บาท ตั้งแต่ 6 เดือนแรก)

ได้ข้อสรุปต่างๆ แล้วผมจึงสอบถามน้องที่ทำงานอยู่ dtac คนนึง (ขอไม่ออกชื่อ) ให้เค้าลองทดสอบเรื่อง 3G/Edge และสัญญาณโทรศัพท์ให้หน่อยว่าโอเคขึ้นกว่าเดิมที่เคยบ่นๆ ด่าๆ ไปเมื่อเกือบ 2 ปีก่อนไหม น้องเค้าก็ทดสอบให้ แถมรับรองว่าพี่ย้ายมาเลย Engineer เค้าเฟิร์มสัญญาในในกรุงเทพฯ แรงมาก แล้วเค้าทดสอบส่ง Speedtest กับลองโทรศัพท์ไปพร้อมๆ เล่น 3G/Edge ให้ว่ามันทำงานได้ดีขึ้นหลังจากเกือบ 2 ปีก่อน เพราะสำคัญมาก เนื่องจากเมื่อก่อน dtac ไม่ใช่ Edge+ ทำให้ถ้าใช้ Alway Connect ของมือถือทำให้โทรเข้าไม่ได้แต่ตอนนี้ทดสอบแล้วโอเคแล้ว

เมื่อน้องเค้าทดสอบให้เห็นผลชัดว่าดีขึ้น ก็เลยสบายใจว่าโอเคขึ้น ทำเรื่องย้ายเลย!!

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2555 ก็ได้เวลาจากลา AIS เสียที เพราะรับไม่ไหวกับคุณภาพที่ตกลงอย่างน่าใจหายจนไม่น่าให้อภัย และคิดว่าคุณภาพตกลงหลังจากเปิด AIS 3G เป็นต้นมาเลยทีเดียว

ผมเลยทำเรื่องย้ายค่ายเบอร์เดิม (Mobile Number Portability) กลับเช่นเดิม

ผมขอนำ Quote เก่าตอนลาจาก dtac มาใช้กับ AIS บ้าง

ไม่อยากให้ AIS สร้างมาตราฐานที่เรียกว่าระบบใช้งานไม่ได้นี้คือบริการที่ลูกค้าต้องทำใจและ ปลง และคำขอโทษไม่ได้ทำให้ระบบดีขึ้นพรุ่งนี้ครับ

หลังจากทำเรื่องย้ายได้วันเดียว dtac ล่ม!!! ><“

น้องที่ทดสอบให้ผม ก็มาขอโทษผมใหญ่เลย ผมก็บอกว่า sim ของ dtac ยังไม่ activate ยังใช้ AIS อยู่ น้องเค้าเลยโล่งใจไป

แต่มันโจ้กที่ว่าวันที่ผมย้ายหุ้น AIS ตก และ วันต่อมา dtac ล่ม อืมม ฉลองกันใช่ไหม T_T

ปล. แต่ไม่ได้เจอเหตุการณ์ เหตุเกิด ณ. ดีแทค สาขาพารากอน แบบเดิม แม้จะย้ายที่ dtac สาขาพารากอนที่เดิม แต่น้องคนที่มาย้ายเบอร์ให้ผมก็น่ารักไม่แพ้กัน (อุ่ยยยย!!!)

จากกันอย่างสมบูรณ์กับ dtac และได้เวลาของ AIS เสียที

image

จากเรื่องราวที่เล่าไว้ใน ลาก่อน dtac !!! จนมาถึง DTAC จะยื้อไปไหนครับ!?!? แน่นอนเป็นบันทึกที่ผมเขียนไว้เพื่อเผยแพร่ และเตือนตัวเองในอนาคต

เมื่อวานตอนทุ่มนึงผมก็ได้รับ sms แจ้งว่าการย้ายค่ายของผมเสร็จสิ้น ทุกอย่างสมบูรณ์ (สักที)

photo

ไม่รอช้า ผมโทรเข้า CC ของ AIS เพื่อสอบถามว่าผมจะเปิดใช้ BIS ได้เมื่อไหร่หลังจากสัญญาณของ AIS ใช้ได้ สรุปคือหลังจากเวลาที่กำหนดไว้ 2-3 ชั่วโมง

ผมเสียบ sim ของเก่าจาก dtac ไว้ใน BB ของผม และของใหม่ที่ AIS ให้ไว้ใน HTC (เครื่องเก่า) ตอนเช้าตื่นมา HTC สัญญาณยังไม่ activate แต่เครื่อง BB ยังได้รับสัญญาณเต็มของ dtac อยู่ โอเค ผมปิด BB แล้วลองเปิด-ปิดสัญญาณของ HTC ใหม่ สุดท้าย HTC ผมก็รับสัญญาณ AIS ได้ทันที

การย้ายค่ายในด้านโทรศัพท์ของผมเสร็จสิ้น การโทรเข้าและออกทำงานได้ปรกติแล้ว มาถึงด้านการส่งข้อมูล Internet บ้าง

ผมลองเข้า dtac.blackberry.com เพื่อเช็คว่า account ใน BIS ของ dtac ผมยังทำงานอยู่หรือไม่ สรุปยังทำงาน แต่ว่าแน่นอนเพราะผมยังไม่ได้ย้ายเครื่องเลย โอเค ผมรอต่อไป …

พอประมาณ 10 โมงเช้าของวันนี้ ก็ลองเข้า eServices ของ AIS เพื่อสมัคร package ต่างๆ กรอกหมายเลขโทรศัพท์ รอรับรหัสผ่านแบบ OTP แล้วเข้าใช้งานได้เลย ซึ่งผมลองดูว่าจะทำอะไรกับระบบนี้ได้บ้าง ออกแนวไม่อยากโทรเข้า CC จะลองดูว่าจะทำได้ไหม

ผมเข้า eServices ของ AIS เพื่อเปิด BIS ฯลฯ แน่นอน BIS ทำงานได้เกือบจะทันทีที่ผมคลิ้ก submit สมัครเข้าไป ระบบส่งผลการสมัครของ BIS กลับมา และ BIS ของผมที่จะทำงานกับ AIS ก็ใช้งานได้ ผมไม่รอช้า เข้าไปสมัคร account BIS บน ais.blackberry.com เพื่อเปิดใช้ push mail และ contact/calendar sync ของ E-Mail ที่ผมใช้ Google Apps Premium Account ของผม เมื่อ add account ตัว E-Mail เสร็จ ทำการ Activate Security ครบ ทำการ restart เครื่อง BB อีกครั้ง ทุกอย่างก็ทำงานได้ครบทั้งหมด แน่นอน BBM ของผม contact อยู่ปรกติ การ notify ต่างๆ ของ push mail ทำงานได้เหมือนเดิม ส่วน facebook และระบบที่ผูกกับ BIS ต้องทำการ login/authen ใหม่ทุกตัวอีกรอบ

ตอนนี้ทุกอย่างบน BB ผมทำงานผ่าน BIS ของ AIS ได้โอเค สำหรับเรื่อง edge plus ต้องรอดูกันยาวๆ ^^