มีดที่แม่ทำครัวก็ไม่ต่างกับมีดที่มาตรกรฆ่าคน

จั่วหัวแบบนี้ อาจะแปลก ๆ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องการใช้เทคโนโลยีไปในทางที่ผิด แต่ที่ผิดมากกว่าคือมาตรการการจำกัดสิทธิ ที่เหมือนกับการห้ามขายมีด เพราะมีมาตรกรบางคนไปฆ่าคน แล้วเหมือนกับโยนความผิดไปให้มีด ทั้ง ๆ ที่มีดมันก็แค่อุปกรณ์ แต่สิ่งที่ทำให้มันเป็นขาวหรือดำ คือ "มนุษย์" จริง ๆ ใน blog ผมก็พูดหลาย ๆ เรื่องที่เกี่ยวกับ "มนุษย์" ที่ทำให้มันไม่ดีเองอย่าง เกมส์ฆ่าคุณได้ ? เป็นต้น ซึ่ง ผมว่ามันก็ไม่ต่างกัน การป้องกันที่ดีมันต้องไปแก้ที่คน จะบอกว่ามันยากที่จะเยียวยา ผมมองว่าถ้าเราไม่เริ่มแก้ แล้วปลายทางมันควรจะอยู่ตรงไหน เหมือนกับเรื่องคลิปวีดีโอฉาว ต่าง ๆ ก็ไม่ต่างกัน จะให้เลิกขายโทรศัพท์ที่ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอไปเลยไหม หรือว่าเลือกขายกล้องถ่ายวีดิโอไปเลย -_-‘ ตรรกะมันก็ไม่ต่างกัน แต่เหมือนกับเลือกปฎิบัติอ่ะ แถมการประโคมข่าวก็ยังช่วยโปรโมตรอีกต่างหาก คราวนี้คนไม่รู้ได้รู้กันทั่วหน้า เฮ้อ ….. เซง ตรรกะแบบสองมาตรฐานจริง ๆ

แล้วในกรณีที่โด่งดังอย่าง Camfrog นี่ การไล่จับเจ้าของ Server นี่มันก็ไม่ใช่ที่ เพราะใครจะมานั่งดูว่ามีใครโชว์ ถึงแม้ว่าไอ้เจ้าของห้อง หรือเจ้าของ Server มันจะเชียร์ให้ถอด กันทุก ๆ 5 นาที หรือ 10 วิ ก็ตาม แต่ถ้าคนมันไม่ถอดอ่ะ มันก็ทำอะไรไม่ได้ เรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องสมยอมทั้งผู้ดูและผู้โชว์ ถึงแม้มันจะเข้าจ่ายอนาจารในที่ชุมชน -_-‘ (หรือเปล่า) ซึ่งชุมชนในที่นี้คือชุมชนในอินเตอร์เน็ต ที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับที่แน่นอน แต่อาจจะโดยเรื่องแพร่กระจายสื่อลามก ก็ว่ากันไป แต่ปัญหาก็คือควรจะไปเอาผิดคนโชว์ ไม่ใช่เจ้าของ เหมือนกับกรณีรูปหลุดที่อื้อฉาวของดาราบางคน ที่ดันไปโพสในเว็บ Pantip.com ซึ่งความซวยก็มาเยือนเจ้าของเว็บอย่างไม่ได้ตั้งใจโดยสมาชิกเอามาโพส ซึ่งอยู่ดี ๆ เจ้าของเว็บก็ต้องมาเสียเงินจ้างทนายให้เสียเงินซะงั้น โดยในกรณีต่าง ๆ นี้ส่วนใหญ่เจ้าของก็มักจะพยายามจบและห้ามปรามอยู่ก่อนแล้วด้วยซ้ำ แล้วกรณีแบบนี้ควรมีกฎหมายรองรับ และน่าจะดูความผิดที่ตัวบุคคลที่จำเพาะผู้กระทำ ไม่ใช่ผู้ให้บริการ ซึ่งผมมองว่าต่อไปถ้ามีคนฟ้อง ISP ฐานที่ร่วมเผยแพร่เว็บลามก หล่ะจะทำไง ก็ในเมื่อมันเข้าได้จาก ISP นั้น ๆ นิ จริงแมะ …..

อย่างที่บอกนั้นแหละ ผมว่าแก้ปัญหา และการเอาผิดควรทำให้มันเข้าถึงคนผิดจริง ๆ ไม่ใช่หาแพะมารับผิดหรือโดยกล่าวหา แบบว่า หน้าคนโดนกล่าวหายัง งงๆ ว่า "ผิดด้วยเหรอ" -_-‘ เฮ้อ …

มีเงินเท่านั้นถึงจะเรียนได้หรือไงฟร่ะ !!!

“วิจิตร” ลุยดัน ม.ออกนอกระบบต่อ ชง “มช.-ลาดกระบัง-นเรศวร” เข้า ครม.อังคารนี้ โดย ผู้จัดการออนไลน์
26 พฤศจิกายน 2549 15:54 น.

       รมว.ศึกษาธิการเดินทางดันมหาวิทยาลัยออกนอกระบบต่อ เผยอังคารนี้นำเข้า ครม.อีก 3 แห่งคือ “มช.-ลาดกระบัง-นเรศวร” เผยยึดความสมัครใจมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ระบุหากใครค้านไม่เห็นด้วยให้ไปคุยกันในสภามหาวิทยาลัย ขณะที่ ก.พ.อ.เห็นชอบต่ออายุราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัยอีก 5 ปี โดยยึดตอบสนองความต้องการของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ทุกคนมีสิทธิ
       
       ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า มหาวิทยาลัยของรัฐที่ออกนอกระบบไปแล้ว 6 แห่ง ยังไม่เคยขึ้นค่าเล่าเรียน อย่างไรก็ตาม ตนยังยืนยันว่า การออกนอกระบบเป็นความสมัครใจ ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ต้องออกเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ขึ้นอยู่กับการตัดสินของสภามหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ถ้าผู้ที่คัดค้านไม่เห็นด้วยควรจะไปพูดกับสภามหาวิทยาลัย ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยใดคนส่วนใหญ่ต้องการออกนอกระบบ และสภามหาวิทยาลัยเห็นด้วย ศธ.ก็ดำเนินการให้ ถ้าที่ใดไม่พร้อมก็ไม่ต้องออกนอกระบบ และในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 28 พ.ย.นี้จะพิจารณาการออกนอกระบบของ 3 มหาวิทยาลัย คือ ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยนเรศวร และร่าง พ.ร.บ.สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง
       
       ศ.ดร.วิจิตร กล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการต่อเวลาราชการของข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา สำหรับข้าราชการที่เกษียณอายุราชการครบ 60 ปี แต่ยังมีศักยภาพที่จะปฏิบัติราชการต่อไป ให้สามารถปฏิบัติราชการต่อไปได้ถึงอายุ 65 ปี แต่ที่ประชุมได้วางหลักเกณฑ์ให้ชัดขึ้นว่า เจตนารมณ์ของการต่ออายุราชการเพื่อตอบสนองความต้องการของมหาวิทยาลัย ที่ต้องการให้มีคณาจารย์ที่มีประสบการณ์และมีผลงานทำงานต่อเนื่องไปได้ แต่ไม่ใช่เป็นสิทธิของผู้ขอต่อเวลาราชการ ดังนั้น เมื่อจะยึดความต้องการของมหาวิทยาลัยเป็นหลัก จึงต้องเปลี่ยนวิธีการ
       
       “คือแทนที่จะให้แต่ละคนสมัคร ก็จะกลายเป็นว่ามหาวิทยาลัยต้องทำแผนความต้องการอัตรากำลังคน มีการประเมินแต่ละปีว่าความต้องการเป็นอย่างไร จากนั้นจึงทำการคัดเลือกคณาจารย์ตามเกณฑ์ และดำเนินการต่อเวลา โดยวิธีนี้จะทำให้ได้คณาจารย์ตรงตามความต้องการ และหลีกเลี่ยงเรื่องที่เคยเป็นปัญหาหรือฟ้องร้องศาลปกครองมาก่อน อย่างไรก็ตาม ได้มอบให้ ศ.เทียนฉาย กีระนันทน์ ไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไขตามข้อสังเกตจากที่ประชุม ซึ่งคาดว่าจะประกาศหลักเกณฑ์นี้ได้ภายในเดือน พ.ย.นี้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว

จากคำพูดที่ว่า "ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า มหาวิทยาลัยของรัฐที่ออกนอกระบบไปแล้ว 6 แห่ง ยังไม่เคยขึ้นค่าเล่าเรียน" โห……. อมพระมาพูดตรูก็ไม่เชื่อโว้ยยยยยย เพราะมหาวิทยาลัยผมที่คุณบางคนก็รู้ว่าอยู่ไหน และมีชื่ออยู่ในข่าวนี้ ออกนอกระบบปั้บ ปีแรกค่าเทอมขึ้นเกือบเท่าตัว มาโกหกคำโตได้หน้าตาเฉยเลยนะ อย่างเพื่อนผมเรียนคณะวิศวฯ เสียค่าเทอม 8,000 กว่าบาท แต่ปีรุ่นพี่มันเสียแค่ 5,000 กว่าๆ เอง พอรู้น้องปีต่อมาเข้ามาซัดไป 12,000 กว่าบาทได้มั้ง ถามหน่อยว่ามันขึ้นทุกปีเนี่ย มันมาจากอะไร อย่างบอกนะว่าน้ำมักแพง เงินเฟ้อสูง หรือค่าครองชีพมาก แถมบางสาขาวิชามีจ่ายแบบเหมาจ่ายด้วย มันก็แพงขึ้นไปอีก หลัก 15,000 – 25,000 บาทโดยประมาณ ใครไม่มีเงินก็ต้องกู้เงินเรียนเอา เฮ้อ …. คิดกันได้นะ

อ่านแล้วอารมณ์ขึ้นเลย ……..

ภาพริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่นครสวรรค์

ไม่อธิบายอะไรมาก ดูภาพน่าจะอธิบายได้เยอะครับ แต่ที่แน่ๆ ตอนไปดูนี่ระดับน้ำนี่ ถ้าท่วมคงจะประมาณ 1 เมตรครึ่งแน่ ๆ หรืออาจจะ 2 เมตรได้ และตอนไปดูระดับน้ำมันเหลืออีกแค่ 5 – 10 เซ็นติเมตรเท่านั้น แค่เรือข้ามฟากเทียบท่าเรือน้ำก็ล้นข้ามกำแพงกั้นน้ำแล้ว -_-‘

ป้องกันยังไงก็ไม่รอด ฮ่า ……..

จาก DRM คำตอบของสื่อออนไลน์ หรือสร้างปัญหากับผู้ซื้อ ? วันนี้ไปซื้อ CD เพลง Paradox อัลบั้มใหม่ ด้วยว่าเป็นแฟนเพลงของกลุ่มศิลปินกลุ่มนี้มานานแล้ว เลยซื้อซะเลย กลับมาบ้านเลยว่าจะ Rip ลง iPod แต่ มัน Rip ไม่ได้ อ้าววว กรำ แล้ว แล้วจะฟังยังไงหล่ะเนี่ย เฮ้อ …… ซื้อของจริงมายังต้องยุ่งยากในการฟังอีก

เลยต้องใช้ไม้ตาย หาโปรแกรมแครกการป้องกันนี้มาใช้ ผมไม่บอกแล้วกันว่าใช้ตัวไหน อยากได้เมลมาแล้วกัน ซึ่งก็ยุ่งยากเล็กน้อย และต้องแปลงไฟล์ 2 รอบเท่านั้นก็เอามาฟังได้ แต่พวก Track info อาจจะต้องมาสั่งใส่เอาแทน ซึ่งในตัวแผ่น CD เพลงนี่ถ้าแกะดีๆ จะมี Album Artwork (รูปปกอัลบั้ม) และ Lyrics (คำร้อง) อยู่ภายในอาจจะต้องใช้กำลังภายในเล็กน้อยในการดึงมันออกมา ซึ่งมีไฟล์ xml ที่เป็นฐานข้อมูลพวก Track info อยู่ภายในด้วย อาจจะเอาแก้นิดหน่อยก็สามารถใช้งานได้ครับ

โดยการดึงออกมานั้นก่อนใส่แผ่นแนะนำว่าให้ Disable ตัว Autorun ของตัว CD/DVD Drive ก่อนเพื่อป้องกันตัวโปรแกรมบางอย่าง ที่อาจจะมีการทำลายหรือทำให้ระบบปฎิบัติการของเราเสียหายได้

ซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ กัน มันป้องกันไม่ได้หรอก แค่ชะรอไม่ให้มัน Rip ได้เร็วก็เท่านั้น แต่หลังจากนั้นมันก็เหมือนเดิม ผมใช้เวลาในการ Extract และ Convert ไฟล์ Track เพียง 20 นาทีผมก็ได้ mp3 หรือไฟล์รูปแบบอื่น ๆ ที่มี bit rate ขนาดใดก็ได้ บนเครื่องคอมฯ ขนาดความเร็ว CPU  667Mhz Ram 512 เท่านั้นเอง

แต่ตอนนี้ผมคิดซะว่าเราอุดหนุ่นศิลปินของที่เราชอบแล้วกันครับ ผลงานดีๆ ผมก็อุดหนุ่น ส่วนห่วยๆ ก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่ได้ฟังอยู่แล้ว ฮ่า …. ส่วนค่ายเพลงนี่ผมไม่ปลิ้มกับการทำแบบนี้ จบ …… !!!

Update เพียบบบบบบบบ

วันนี้กลับมาบ้านที่นครสวรรค์ เนื่องจากว่าที่นี่น้ำท่วม เลยคงต้องไปช่วยญาติในเมืองขนของเล็กน้อย เพราะจริง ๆ แล้วขนของก่อนหน้านี้มาพอสมควรแล้ว (จากบทเรียนในปี 38 ที่ไม่ยอมขนเพราะเชื่อว่าน้ำจะไม่ท่วม) พอกลับมาที่บ้าน จริง ๆ เครื่องที่บ้านที่เอาไว้ทำ Home Server นั้นต้องเปิดอยู่ แต่ตอนกลับบ้านมามันปิด ด้วยเหตุที่ว่าน้ำมันเข้าบ้านเมือง  2 วันก่อนเพราะฝนตกแบบไม่หยุด แล้วน้ำในเมืองมันระบายออกแม่น้ำเจ้าพระยาไม่ทัน มันเลยเข้าบ้าน ทำให้น้ำมันเข้าบ้านเต็มเลย เลยจำเป็นต้องปิด UPS ก่อนที่น้ำมันจะทำให้ UPS พัง -_-‘ เลยต้อง remote เข้ามา shutdown เครื่อง เล่นเอาใจหายเลย พอกลับมาเลยเปิดเครื่องเช็คความเสียหาย ทุกอย่างไม่มีปัญหา ระบบไฟฟ้าที่ต่อไว้ในส่วนของ Home Server ปกติดีทั้งหมด เลยเปิดแล้วเข้าเว็บ Microsoft Update เพื่อ Update ประจำเดือน วันนี้กะว่าคงไม่มีอะไร update หรอก แต่มาวันนี้มันมาเพียบเลย 7 ตัว และที่ตัวเครื่อง Laptop อีก 16 ตัว (รวมตัว Office 2003 ด้วย) ซึ่งกว่าจะลงเสร็จทั้ง 2 เครื่องก็ซัด Data Tranfer ไปเยอะเลย แต่ช่างมันเหอะ ถือว่าเป็นการป้องกันระบบไปในตัว

พูดถึงตรงนี่ หลายคนไม่ค่อยทำการ update ระบบ Operating System Software เท่าไหร่ จริง ๆ แล้วผมถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก นี่ยังไม่รับรวมการ update Application Software ที่ยุ่งยากและน่าปวดหัวกว่าพอสมควรนะ เพราะการ update ดังกล่าวนี้จะนำมาซึ่งการปรับปรุงการทำงานที่ไม่ดี หรือข้อจำกัดบางอย่างในการใช้งานต่าง ๆ ให้หมดไป ซึ่งในปัจจุบันนั้นมักจะมุ่งไปในด้านความปลอดภัยเสียมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะข้อมูลของเรามีค่ามากกว่าระบบใด ๆ เสียอีก ซึ่งการไม่ update ระบบนั้นนำมาซึ่งความเสียหายในบางส่วนในเวลาที่เราจำเป็นต้องใช้งานคุณสมบัติบางอย่าง ที่มันมีข้อผิดพลาดอยู่ แต่ถ้าได้รับการ update แล้วข้อผิดพลาดนั้นจะไม่มี ถ้าเราดันไปใช้ตอนที่เราไม่ได้ update แล้วเนี่ย เราก็จะสูญเสียความคล่องตัวในการทำงานได้ นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเล็กเท่านั้น ยังไม่รวมเรื่องของความปลอดภัยที่น่าจะเป็นเรื่องแรก ๆ ที่เราต้องใส่ใจในการใช้งานระบบไอทีในปัจจุบันด้วย