ข้อแตกต่างระหว่าง SkyDrive และ SkyDrive Pro

ข้อมูลล่าสุด (27/8/2013) – SkyDrive Pro increases storage and ease of sharing

SkyDrive เป็นบริการจัดเก็บไฟล์สำหรับใช้งานส่วนตัวผ่านระบบ Cloud Storage ของ Microsoft เพียงอย่างเดียว โดยสามารถเชื่อมต่อและใช้งานร่วมกับ Office 365 Home Premium และบริการ Office Web Apps ได้ ซึ่งถ้าใช้งานร่วมกับ Office 365 Home Premium จะให้พื้นที่เพิ่มเป็น 20GB เพื่อใช้ในการจัดเก็บไฟล์ ซึ่งจะมากกว่าพื้นที่พื้นฐานที่ให้เพียง 7GB เท่านั้น

โดยใน SkyDrive นั้นจะสามารถซื้อพื้นที่สำหรับจัดเก็บไฟล์เพิ่มเติมได้มากถึง 100GB โดยไม่มีการจำกัดประเภทของไฟล์ (file types) ในการจัดเก็บบน SkyDrive

ข้อจำกัดของ SkyDrive คือ

  • สามารถอัพโหลดไฟล์ได้สูงสุดที่ 2GB ต่อไฟล์
  • สามารถซื้อพื้นที่เพิ่มได้ไม่เกิน 100GB (ไม่รวมพื้นที่อีก 7GB ที่ได้มาในตอนแรก)
  • ไม่มีระบบจัดการการเข้าถึงไฟล์แบบกลุ่ม หรือรองรับการใช้งานกลุ่มธุรกิจ

SkyDrive Pro เป็นบริการจัดเก็บไฟล์สำหรับองค์กรที่มีความสามารถในการแชร์ และประสานงานภายในองค์กร บนบริการ Office 365 สำหรับใช้งานในกลุ่มธุรกิจ โดยให้พื้นที่ 25 GB และสามารถซื้อเพิ่มได้เป็น 50 หรือ 100GB และยังสามารถซื้อเพิ่มเติมอีก เพียง 7GB และไม่สามารถซื้อเพิ่มเติมได้ โดย SkyDrive Pro นั้นเปลี่ยนชื่อมาจาก SharePoint Workspace (ชื่อโฟลเดอร์เก่าชื่อ SharePoint Libraries) ซึ่งใช้งานได้บน Office 365 Small Business, Office 365 Enterprise และ SharePoint แบบที่เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายภายในองค์กร (on-premises SharePoint services) โดยความสามารถเด่นคือสามารถกำหนดการแชร์ระหว่างกลุ่มภายในองค์กรได้ผ่าน Exchange Online และ SharePoint Online

ข้อจำกัดของ SkyDrive Pro คือ

  • ใน SkyDrive Pro library หรือ SharePoint library สามารถอัพโหลดและดาวน์โหลดไฟล์ได้สูงสุดที่ 2GB ต่อไฟล์
  • Sync ไฟล์และโฟลเดอร์ใน SkyDrive Pro library ได้ 20,000 รายการ (นับรวมทั้งไฟล์และโฟลเดอร์)
  • Sync ไฟล์และโฟลเดอร์ใน SharePoint library ได้ 5,000 รายการ (นับรวมทั้งไฟล์และโฟลเดอร์)
  • ให้พื้นที่ 25 GB และสามารถซื้อเพิ่มได้เป็น 50 หรือ 100GB โดยยังสามารถซื้อเพิ่มเติมจากนี้ได้อีกที่ 0.20USD/GB ต่อเดือนอีกด้วย เพียง 7GB และไม่สามารถซื้อเพิ่มเติมได้
  • ไฟล์ที่สามารถใช้งานบน SkyDrive Pro ต้องไม่ใช่ไฟล์ในตาราง “File types blocked by default” บน SharePoint 2013
    (ดูตารางนี้ได้ที่ Manage blocked file types in SharePoint 2013)

อ้างอิง

Microsoft Surface ถึงมาช้า แต่ก็ยังมา!

Microsoft Surface ในไทยเปิดตัวช้ากว่า US ประมาณ 6 เดือน ซึ่งอาจทำให้หลายคนผิดหวังเพราะซื้อมาแล้วบ้าง หรือไม่ก็ไปใช้ยี่ห้ออื่นแล้ว (หรือซื้อ sub notebook ไปแล้วแบบผม) โดยส่วนตัวมองว่า นี่เป็นก้าวสำคัญที่ Microsoft Thailand จะถูกจัดอยู่ในประเทศที่มีการเปิดตัว Hardware ระดับบนของ Microsoft ที่เปิดตัวใน US และปรกติมักจะขายแต่ใน Microsoft Store มาขายได้ ซึ่งการเปิดตัวในไทยครั้งนี้ เรายังเป็นประเทศ 1 ใน 29 ประเทศจาก 130 ประเทศที่ Microsoft ทำตลาด Software และได้สิทธิ์ในการขาย Surface โดยที่เรายังได้สิทธิ์ในการซื้อได้ทั้ง Surface RT และ Surface Pro โดยไม่ต้องรอคิวเปิดตัว Surface Pro แบบบางประเทศ

แน่นอนว่าเปิดตัวช้า แถมเปิดตัวตอน Intel เพิ่งออก 4th Gen Core รหัส Haswell ด้วยแล้วยิ่งตัดสินใจยาก (แบบผม) แต่ถ้ามองในแง่ดี ผมว่าเป็นการลองกระแสและซ้อมการขาย Hardware ระดับบนในรูปแบบที่ Microsoft ประเทศไทยไม่เคยทำเท่าไหร่นัก (นอกจากเมาส์ คีย์บอร์ด กล้องเว็บแคม มี Xbox 360 มาโผล่แป็บๆ) แต่ใน Surface 2 ที่ผมคิดว่าคงมีในปลายปีนี้ ผมเชื่อว่า Microsoft Thailand คงได้สิทธิ์ในการขายมาเร็วขึ้น ถ้ากระแสและผลการตอบรับในครั้งนี้ดี และนั้นหมายถึงความพร้อมที่มากขึ้นจากตอนนี้และช่องทางขายที่ถูกรองรับได้อย่างแน่นอน คือให้ผมเดาว่าในอนาคตเราอาจได้ใช้ Xbox One ตามหลังจาก US เปิดตัวในเวลาไม่นานนัก (แบบไม่ต้องเครื่องหิ้ว) เพราะมีช่องทางจัดจำหน่ายที่ชัดเจนมากขึ้น แต่นั้นคงหมายถึงกระแส Surface ต้องแรง และเนื้อหาที่ใช้งานร่วมกับ Xbox One พร้อมจริงๆ

เรื่องวิเคราะห์คาดเดาก็ผ่านไปแล้ว มาเข้าเรื่องของงานเปิดตัวและพาดูเครื่อง Surface RT และ Surface Pro กันสักหน่อย

ตัวเครื่อง Surface RT และ Surface Pro นั้นรูปลักษณ์ด้านนอกนั้นดูแทบจะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่น้ำหนักนั้นต่างกันพอสมควร แต่ความหนานั้นยังไม่ค่อยเห็นเด่นชัดเท่ากับน้ำหนัก อยากทราบข้อแตกต่างอ่านต่อที่ ข้อควรทราบก่อนซื้อ Surface RT และ Surface Pro นะครับ

ขอพาไปดูตัวเครื่องจริงๆ ที่ถ่ายรูปมาจากในงานเปิดตัวสักหน่อย

ในงานนั้นตัว Surface RT และ Surface Pro ถูกนำเสนอพร้อมกับ Touch Covers และ Type Covers

WP_20130605_040 

WP_20130605_031

WP_20130605_043

ตัวเครื่องมีขาตั้งหรือ Microsoft เรียกว่า Kick-stand ซึ่งถูกออกแบบมาให้อยู่กับตัวเครื่องและไม่สามารถถอดออกมาได้ ประโยชน์ของมันคือใช้เป็นขาตั้งและวางบนตักทำงานได้ ถ้ามี Touch Covers หรือ Type Covers ก็กลายเป็น Notebook กลายๆ เลยทีเดียว

(การออกแบบ Kick-stand นั้น ทาง Microsoft แจ้งว่าทำมุม 22 องศา ซึ่งเป็นมุมที่ทำวิจัยมาแล้วว่าเหมาะสมต่อการใช้งานมากที่สุด)

ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Port USB 2.0 (RT) หรือ USB 3.0 (Pro) เชื่อมต่อได้สบายๆ อยากรู้ว่ามี port อะไรบ้าง อ่าน ข้อควรทราบก่อนซื้อ Surface RT และ Surface Pro 

WP_20130605_032

เหตุผลที่ Surface Pro หนาเพราะต้องทำส่วนของระบายความร้อนให้กับ CPU อย่าง Intel Core i5 ให้มันด้วย ซึ่งจากที่ใช้งานตอนรัน Benchmark แล้วนั้นถือว่าร้อนใช้ได้เลยเมื่อเอามือไว้วางที่ด้านหลังเครื่องส่วนที่คาดว่าจะเป็น CPU อยู่

WP_20130605_051

ผล Benchmark ของ Surface Pro

WP_20130605_044

ผล Benchmark ของ Surface RT

WP_20130605_053

สุดท้ายผมนำภาพบางส่วนจากงานเปิดตัว Microsoft Surface ในประเทศไทยมาฝากสักเล็กน้อยครับ

WP_20130605_005

WP_20130605_018

WP_20130605_019

WP_20130605_030

WP_20130605_036

ข้อควรทราบก่อนซื้อ Surface RT และ Surface Pro

ในวันที่ 5 มิถุนายน 56 นี้ประเทศไทยเราคงได้สัมผัสกับ Surface อย่างเป็นทางการเสียที ส่วนตัวเลยอยากเขียนสรุปอีกสักรอบ จะได้เลือกได้ตามความต้องการและทราบถึงข้อมูลที่จำเป็นก่อนไปเลือกหาซื้อ Surface ทั้ง RT และ Surface Pro มาใช้ตรงตามความต้องการกันได้

surface-url

โดยต้องเกรินสักหน่อยว่า Surface RT และ Surface Pro นั้นรูปร่างหน้าตาแม้จะคล้ายๆ กัน แต่คุณสมบัติภายในนั้นต่างกัน และบางอย่างก็ต่างกันคนละเรื่องเลยทีเดียวครับ

ผมขอทำรายการเป็นข้อๆ สรุปดังนี้

  • Surface RT ไม่ได้ใช้ Microsoft Windows แบบที่เราคุ้นเคยกันโดยทั่วไป แต่เป็น Windows RT ที่เป็นรุ่นย่อส่วนจาก Windows 8 มาอีกทีหนึ่ง โดยใช้งานได้เพียงส่วนของ Windows 8 App ใน Modern UI เท่านั้น ไม่สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เราคุ้นเคยโดยทั่วไปได้
  • Surface RT ใช้ CPU (NVIDIA Tegra 3 quad core 1.4GHz) โครงสร้างการออกแบบเครื่องแบบเดียวกับ Android หรือ iPad ที่อยู่ในตลาด นั้นคือเหตุผลว่าทำไมมันถึงไม่สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็น Desktop Application ที่เคยทำงานใน Windows XP, Vista, 7 และแม้แต่ 8 ได้ โดยการติดตั้ง App ต้องทำผ่าน Windows Store เท่านั้น
  • Surface Pro ใช้ CPU (Intel Core i5 dual core 1.7GHz) โครงสร้างการออกแบบภายในคล้ายกับ Intel Ultrabook ที่ย่อส่วนมาในรูปแบบของ Tablet ที่ไร้คีย์บอร์ดโดยพื้นฐาน ทำให้มันถูกติดตั้งมาพร้อมกับ Windows 8 ตัวเต็มที่สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็น Desktop Application ที่เคยทำงานใน Windows XP, Vista, 7 และแม้แต่ 8 ได้สบายๆ แต่ในส่วนของ App ที่เป็น Windows 8 App (Modern UI) ยังต้องติดตั้งผ่าน Windows Store แบบเดียวกับ Surface RT เหมือนเดิม (Windows 8 เป็น OS ที่มีส่วนประกอบมากกว่า Windows RT ทำให้รองรับ Desktop Application แบบดั่งเดิมได้ด้วย)
  • Surface RT มี RAM น้อยกว่า Surface Pro (2GB VS 4GB)
  • ทั้ง Surface RT และ Surface Pro นั้น พื้นที่ที่แสดงข้างกล่องไม่ได้หมายถึงพื้นที่สามารถใช้งานได้เต็มพื้นที่ทั้งหมด แต่เป็นพื้นที่ที่รวมกับระบบ Windows ด้วย ทำให้เมื่อเปิดใช้งานจะได้พื้นที่น้อยกว่าความเป็นจริง “มาก”
    – Surface RT 32GB ให้พื้นที่ใช้งานได้จริงที่ 15GB
    – Surface RT 64GB ให้พื้นที่ใช้งานได้จริงที่ 45GB
    – Surface Pro 64GB ให้พื้นที่ใช้งานได้จริงที่ 28GB
    – Surface Pro 128GB ให้พื้นที่ใช้งานได้จริงที่ 85GB
  • Surface RT และ Surface Pro ให้ขนาดหน้าจอ 10.6” แต่ความละเอียดไม่เท่ากัน
    – Surface RT ให้ความละเอียด  1366×768 pixel (HD) 5-point multi-touch screen
    – Surface Pro ให้ความละเอียด 1920×1080 pixel (Full HD) 10-point multi-touch screen
  • Surface RT เบากว่า Surface Pro ในอัตราส่วน 2 ต่อ 3 เลยทีเดียว (680g VS 900g)
  • Surface RT บางกว่า Surface Pro (9.3mm VS 13.5mm)
  • Surface RT เชื่อมต่อด้วย USB 2.0 และ micro HDMI สำหรับ Surface Pro ใช้ USB 3.0 และ Mini DisplayPort
  • ทั้งสองรุ่นให้ Microsoft Office มาในตัวเครื่อง
    – Surface RT ให้ Microsoft Office Home & Student 2013 RT Preview
    – Surface Pro ให้ Microsoft Office 365 1-month trial
  • Surface ทั้งสองรุ่นมี microSDXC card slot มาให้
  • Surface ทั้งสองรุ่น ไม่มี 3G มาให้ ใช้ได้เพียง Wi-Fi เท่านั้น (2.4GHz/5GHz)
  • Surface ทั้งสองรุ่นให้กล้องทั้งหน้าและหลังมีความละเอียด 1MPx
  • Surface ทั้งสองรุ่นใช้วัสดุที่ชื่อว่า VaporMg ที่เป็นวัสดุที่ผลิตจาก Magnesium อีกทีหนึ่ง
  • Touch Covers เป็นคีย์บอร์ดแบบสัมผัสและเป็นฝาปิดหน้าจอได้ในตัว
  • Type Covers เป็นคีย์บอร์ดแบบปุ่มทั่วไปแต่บางพิเศษและเป็นฝาปิดหน้าจอได้ในตัว

สุดท้ายขอเอา Keynote งานเปิดตัว Surface ที่ US และ Infographic ของ Surface ภาษาไทยมาลงสักหน่อย หวังว่างานเปิดตัวพรุ่งนี้จะคูลแบบที่ US นะ

 

surface1

Surface2_edit2

Google ยกเลิกการสนับสนุน XMPP API

น่าจะเป็นการต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายของ Google ที่จะกีดกัน Microsoft อย่างชัดเจนอีกครั้ง เพราะ Microsoft ซื้อ Skype และควบรวม Messenger ของตัวเองเข้า Skype เพื่อเสริมแรงให้ตัวเอง และป้องกันการมาของ Google Talk และ Hangouts ที่อยู่ใน Google+ และ Gmail ที่ Google สนับสนุนบริการคล้ายๆ กัน

แน่นอนว่าตลาด Skype ที่รวมเอา Messenger เข้ามาด้วยนั้นใหญ่กว่า Google Talk และ Hangouts มาก อีกทั้งโฆษณาว่า Outlook.com ดีกว่า Gmail ก็มาตีคู่อยู่ตลอด Google พยายามดันให้ Hangouts กำลังเข้ามาแบ่งชิ้นเค้กของ Skype ที่เสริมทัพด้วย Messenger เดิมของตนทำให้ Google ต้องรีบดัน Hangouts ที่รวมเอาทุกๆ อย่างที่เดียวกับ IM ของตัวเองออกมา ซึ่งต้องยอมรับว่าบริการ Chat ของ Google นั้นกระจัดกระจายมาก

แต่เมื่อไม่นานมานี้ Microsoft เอา Outlook.com เชื่อมต่อกับ Google Talk ผ่าน XMPP API ตีคืน Hangouts ที่กำลังจะเกิด ทำให้ Outlook.com ติดต่อได้ทั้ง Skype, Outlook.com, Hotmail.com, Live.com, Passport.net, Facebook และ Google Talk ในหน้าเดียว และในอนาคตทั้ง Windows 8, Windows phone 8 และบริการอย่าง Skype คงตามมาแน่ๆ ทำให้ Microsoft ได้เปรียบในตลาดนี้เข้าไปอีก

มาวันนี้ Google กำลังยกเลิกการสนับสนุน  XMPP API (Google Drops XMPP Support – Slashdot) ซึ่งมามุขเดียวกับพอ Microsoft จะสนับสนุน CalDAV แต่ Google ก็ผลักผู้ใช้ไปใช้ Google Calendar API แทนต่อไป หาอ่านได้จากรายงานเก่าของผมที่ชื่อ สำหรับ Google แล้วผู้ใช้งานเป็นเพียงตัวประกันและลูกบอล?

สรุปสั้นๆ ว่าผู้ใช้งานก็ซวยไปอีกรอบครับ ><”

[Official Press Release] ไมโครซอฟท์ เดินหน้าขยายตลาด Surface ทั่วโลก สุดยอดแท็บเล็ต Surface ทั้งรุ่น RT และ รุ่น Pro กำลังมาถึงประเทศไทยแล้ว!

ได้รับอีเมลจากทาง PR ของ Microsoft ประเทศไทย เลยเอามาโพสแบ่งปันครับ

ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศจำหน่าย Surface รุ่น RT และ รุ่น Pro ในประเทศไทย ในเดือนมิถุนายนนี้ อย่างเป็นทางการ http://blog.surface.com/b/surface/archive

/2013/04/23/expanding-surface-pro-and-surface-rt-availability.aspx

KL_003951_70B3E0A3

“ไมโครซอฟท์รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ผู้บริโภคและลูกค้ากลุ่มธุรกิจในอีกหลายประเทศจะมีโอกาสสัมผัสกับสุดยอดอุปกรณ์แท็บเล็ตรุ่นใหม่นี้” พาโนส พานาย รองประธานกรรมการ Microsoft Surface กล่าว “Surface คือ แท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุด”

Surface เป็นอุปกรณ์ที่จะต่อยอดประสบการณ์การใช้งานวินโดวส์ ซึ่งผู้ใช้สามารถทำงาน เล่น (Work and Play) และเชื่อมต่อกับเพื่อนๆ ไปพร้อมกัน Surface จึงเป็นอุปกรณ์ที่รวบรวมความบันเทิง และการสร้างสรรค์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง Surface ออกแบบด้วยดีไซน์ทันสมัย บางเบา ตัวเครื่องคงทน ที่มาพร้อมกับ ขาตั้งภายในตัว และ ฝาปิด ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะอยู่ที่ใด นอกจากนี้ Surface ยังมาพร้อมกับช่องเสียบ USB และ ช่อง microSDXC สำหรับหน่วยความจำเสริม อีกทั้งจอแสดงผลความละเอียดแบบ 16:9 Widescreen ไฮเดฟฟินิชั่น ทื่ทำให้การชมภาพและการส่งข้อมูลเป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

Surface RT เป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อมกับความสามารถของแล็ปท็อป ซึ่งประสานการทำงานและความคล่องตัวในการพกพาได้อย่างลงตัว ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มองหาแท็บเล็ตที่สามารถให้ประสบการณ์ความบันเทิงชั้นยอดและการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ทั้งวัน (ใช้งานได้มาถึง 8 ชั่วโมง) ส่วน Surface Pro เปรียบได้กับแล็ปท็อปวินโดวส์ ที่คงคุณสมบัติของแท็บเล็ตไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้บริโภคสามารถใช้งานอุปกรณ์ที่อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติและฟีเจอร์ของคอมพิวเตอร์ แต่มีลักษณะและความรู้สึกในการใช้งานเหมือนแท็บเล็ต ซึ่งผู้บริโภคสามารถทำทุกอย่างที่เคยทำบนคอมพิวเตอร์ได้บน Surface Pro ตั้งแต่การใช้งานแอพพลิเคชั่นเดสก์ทอป ไปจนถึงความอุ่นใจของการรักษาความปลอดภัยจากซอฟต์แวร์ระดับโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Surface สามารถค้าหาได้ที่ http://www.Surface.com , Surface Blog , Facebook และ Twitter สำหรับอัพเดตต่างๆ