7 สิ่งมหัศจรรย์ แห่ง 7 – ตอนที่ 1 สิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่ 1-3

พอดีว่า @ipats ตั้ง entry ใน blog ของเค้าที่ http://ipats.exteen.com/20090928/entry เลยคิดว่าน่าจะมา tag กันคงสนุกดี หัวข้อง่ายๆ “7 สิ่งมหัศจรรย์ แห่ง 7” คนที่โดน tag ต่อไปคือ @9aum ครับ ;P

ผมเริ่มเลยแล้วกันนะ ;) ผมไม่ได้เรียงตามความสำคัญหรือความชอบนะครับ

1. Libraries

เป็นคุณสมบัติที่ชอบมากตัวหนึ่งครับ ผมมองว่ามันคือ Virtual Folder ครับ ลองคิดดูนะ ผมมี H/D อยู่ 5 ตัว ซึ่งมี Internal H/D อยู่ 2 ตัวตัวหลักแบ่ง Partition เป็น C และ D ตัวที่ Ultrabay เป็น E ส่วน External HDD อีก 3 ตัวต่อผ่าน USB ทุกๆ Drive นั้นมีไฟล์ข้อมูลที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน เช่นรูปภาพ เพลง หรือวิดีโอ

2009-09-28_212900

ตัวอย่างคือไฟล์รูปภาพของผมนั้นผมใส่ไว้ที่ Drive D: และ G: โดย D นี่เป็น Drive Internal ครับ ผมจะพกไปไหนมาไหนตลอด และ Drive G: นั้นเป็นไฟล์ที่ผมไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่นัก เลยแบ่งออกมาจะได้ไม่ต้องแบกไฟล์เยอะๆ ไปไหนมาไหนให้เสียพื้นที่
ผมเลยเอามารวมกันใน Libraries ซะเลยในชื่อ Photo Albums

2009-09-28_212259

วิธีการคือทำการ Include a folder เข้าไปใน Libraries ที่เราตั้งไว้ ซึ่งเราตั้ง default ได้ด้วยว่าจะให้ Folder ไหนเป็นตัวหลักของ Library นี้ ทำให้ Folder ต่างๆ ที่เรา include เข้ามานั้นมากองรวมกันใน Library ทั้งหมดนั้นเอง

ซึ่งถ้าเป็นไปได้ควรตั้ง Optimize ให้เข้ากับรูปแบบที่จัดเก็บ เพราะมันเกี่ยวกับการ Sorting และการทำ Index ของ Desktop Search ของ Windows ครับ

2009-09-28_212346

ตัวอย่างถ้าเราทำ “Optimize this library for” แล้วตั้งเป็น Picture ใน Libraries ที่ใช้จัดเก็บไฟล์รูป เราสามารถทำ Arrange by ตาม Month, Day, Rating และ Tag ได้ ทำให้เราค้นหาได้ง่ายมากขึ้น

2009-09-28_213742

แต่ถ้าเป็นไฟล์เพลงก็จะไล่ลำดับตาม Album หรือ Artist อะไรพวกนี้ได้เช่นกัน แถมด้วย Artwrk ของเพลงในตัวเลยทีเดียว ทำให้เราค้นหาได้ง่ายมากขึ้น

2009-09-28_213812

ซึ่งการเอามากองรวมๆ กันแบบนี้เหมาะสมมากครับ สำหรับคนที่ต้องการรวบรวมไฟล์จากที่ต่างๆ มารวมกัน แต่ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง โยกย้ายที่ที่จัดเก็บไฟล์นั้นๆ ทำให้

2. Superbar

ระบบ Taskbar แบบใหม่ที่ไม่มีการตัวอักษรในการบอกชื่อโปรแกรมแต่ใช้สัญลักษณ์ในการสื่อว่าคือโปรแกรมอะไรแทนนั้นเอง

image

สิ่งที่ Superbar ให้กับเรานั้นคือสัญลักษณ์ของโปรแกรมที่ใหญ่มากขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานกับระบบ Touch Screen ได้ทันทีไม่ต้องมาตั้งค่าให้สัญลักษณ์นั้นใหญ่และเพียงพอต่อการให้นิ้วมือของเรานั้นสัมผัสได้ และสิ่งที่ผมคิดว่าควรจะมีตั้งนานแล้วคือการ Sort ตัว Object บน Taskbar ซึ่งใน Superbar นี้เราสามารถทำการ sort สัญลักษณ์ต่างๆ ได้แล้ว แถมทำได้ง่ายเพียงแค่ drag-drop เท่านั้นแถมดูดีด้วย และที่มาพร้อมกับ Superbar ก็คือ Thumbnail Preview, Jumplist, Pinning และ Aero Peak ด้วย เมื่อนำมารวมกันทำให้การใช้ Superbar นั้นทำงานได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น

3. Thumbnail Preview และ Aero Peak

เป็นลักษณะของการนำเอา Mouse ไปคลิ้กบนสัญลักษณ์บน Superbar ในกรณีที่มีหลายๆ หน้าต่างเปิดพร้อมๆ กันในกลุ่มโปรแกรมเดียวกับ เจ้าตัว Thumbnail Preview จะขึ้นมา เมื่อเอา Mouse ไป ที่ตัว Thumbnail จะทำการ Preview หน้าต่างนั้นๆ ในแบบ Aero Peak ขึ้นมา ทำให้เราเลือกหน้าต่างได้ตรงตามที่เราต้องการมากขึ้น และอาจจะเอา Moouse ไป over บน Superbar เฉยๆ ก็ได้เหมือนกันนะ อันนี้ลองเล่นกันดูครับ

image

Windows 7 Blogger Day – วันที่ 26 ก.ย. 52

เป็นงานที่ได้รับเชิญจาก Microsoft Thailand ให้ไปนำเสนอ Feature ที่คิดว่าเด็ดและน่าสนใจ Windows 7 ซึ่งเป็นงานที่ชื่อว่า Windows 7 Blogger Day จัดเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2552 เวลา 13:00 น. – 16:00 น. สถานที่ Microsoft Thailand ห้อง Auditorium ชั้น 38 ตึก CRC, All Season Place ถ.วิทยุ ครับ

DSC_7275DSC_7277

สำนักงานของ Microsoft ในประเทศไทยนักดูสวยงามครับ ไปกี่ครั้งก็ดูสวยงามทุกๆ ครั้งครับ

DSC_7269

ไปถึงก็มีโต๊ะ TwitterWall มีรูปเพื่อนๆ ใน Twitter ครับ

DSC_7339

แล้วตอนจะกลับก็มาเขียนกันว่าใครเป็นใครครับ

DSC_7340

แต่พอดีว่าผมมีรูปเยอะมากๆ –_-‘ กลายเป็นโดนแซวว่าซื้อพื้นที่สื่อซะงั้น T_T

แล้วผมก็ขอตัวน้องเมย์มาถ่ายรูปคู่กับป้าย Windows 7 สักหน่อยครับ ;P

DSC_7270DSC_7279

บรรยากาศภายในงั้นตอนเริ่มต้นนั้นดูเงียบๆ ครับ ทุกคนคงเกร็งๆ กันหมด เพราะส่วนใหญ่คงเพิ่งเคยมา Microsoft Thailand ครั้งแรก ในงานนี้ทาง Microsoft สั่งพิชซ่า และน้ำมาให้กินกันเยอะมากครับ

 DSC_7271 

เปิดงานกับพี่จีระวัฒน์ และพี่ฟูเกียรติ มากล่าวเปิดงานแนะนำ 7 Feature แรกที่ทาง Microsoft ขอนำเสนอก่อนทาง Blooger ท่านอื่นๆ เลยครับ

โดยมามุกว่าชาว Microsoft ต้องรู้ว่า Windows 7 เนี่ยมีความสามารถอะไรใหม่ ๆ บาง และพนักงานต้องรู้กันทุกๆ คนก็ได้แก่

  1. ตัว Thumbnail Preview ที่ Superbar
  2. Pinning การปักหมุดตัว icon ของโปรแกรมต่างๆ บน SuperBar
  3. ตัว Jump List ที่จะทำให้เราคลิกขวาที่ icon บน Superbar แล้วจะมี shortcut ของ App นั้นๆ
  4. ตัวปุ่ม Show Desktop จะเป็นเป็นแถบเล็กๆ แนวตั้งซึ่งอยู่ที่มุมขวาล่างทำให้เลื่อนเมาส์ไปได้โดยไม่ต้องมอง ซึ่งAero Peek เป็น feature ที่ต่อเนื่องจาก Show Desktop ที่ถ้าเราไม่กดปุ่ม Show Desktop แต่เอาเมาส์ไปวาง ก็จะทำให้หน้าต่างทั้งหมดโปร่งใสเพื่อดูพื้นหลัง
  5. Magnifier กดปุ่ม Windows ตามด้วย + หรือ – เพื่อทำการ Zom-in/out ตัวหน้าจอได้เหมาะกับการไป Present ตามงานต่างๆ มาก
  6. การทำ Snap เป็นลักษณะในการที่นำหน้าต่างไปเกาะที่ขอบด้านซ้ายหรือขวา แล้วจะปรับหน้าต่างให้ใช้ครึ่งหนึ่งของหน้าต่างหน้านั้น ทำให้เราสามารถดูเอกสารได้พร้อมๆ กัน 2 หน้าต่างพร้อมกัน หรือจะดันไปด้านบนเพื่อขยายหน้าต่างก็ได้เช่นกัน (เขย่าหน้าต่างก็เป็นการให้หน้าต่างตัวอื่นๆ ย่อลงไปทั้งหมด)
  7. Projector Mode เป็น App เล็ก ๆ เพื่อใช้สำหรับตั้งค่าการปล่อยสัญญาจากเครื่องเราไปยัง Projector ได้ง่ายมากขึ้นด้วยการกดปุ่ม Windows และกด P

DSC_7280

DSC_7281

DSC_7283

โดยที่คุณศิริพร จาก Microsoft Thailand ได้บอกกับเราชาว Blogger ว่าทีมที่ทำ Windows 7 นั้นมีคนไทยเข้าไปร่วมพัฒนาอยู่ด้วยกันกว่า 30 คน โดยมีคนไทยในประเทศไทยช่วยทดสอบหลายกลุ่ม และสำหรับ Windows 7 Thai นั้นก็มีทั้งหมด 13 คน ซึ่งผมก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย แต่ผมไม่ได้ส่ง report –_-‘ ได้แต่คุยๆ กับพี่ @markpeak นิดๆ หน่อย ในเรื่องคำแปล เลยแก้ตัวเรื่องอื่นๆ แทน –/\- และใน Windows 7 นั้นก็ยังมี Wallpaper ที่มาจากฝีมือคนไทยโดยคุณป้อมจันทร์ โดยจะอยู่ใน Windows 7 ที่จะว่างจำหน่ายทั่วโลกอีกด้วยครับ

DSC_7284 DSC_7285 DSC_7289 DSC_7290

แล้วในวันนี้ก็ได้เชิญ Blogger หลายๆ ท่านมาพูดในงานได้แก่

  1. DirectX11 จาก Monavista
  2. Paint & Wordpad จาก Blognone (@markpeak)
  3. PowerShell จาก Blognone (@lewcpe)
  4. Wallpaper Feed จาก ThaiThinkPad (ผมเอง)
  5. สั่งให้ IE6,  IE7 และ IE8 ให้ทำงานได้บน Windows 7 ได้ทั้ง 3 ตัว จาก ThaiThinkPad (@9aum)

จริงๆ พี่ @9aum บอกว่า “ไมไม่มีใครพูดถึง libraries วะ” เออ จริงของพี่นะ ผมก็จะเลือก แต่คิดว่าคงมีคนพูดแล้ว แต่ไม่มี ! … มันเป็น killer feature เลยนะไอ้เจ้าตัวนี้เนี่ย …

สำหรับ Wallpaper Feed หรือผมเรียกในงานว่า “Wallpapercast” นั้นผมจะเขียนแยกไปอีก entry นึงเลยแล้วกันนะครับ ;)

งานนี้ถ้าใครได้ตามผมใน Twitter และในเว็บ ThaiThinkPad คงทราบดีว่าผมไปงาน Windows 7 Blogger Day Insider ผมพูดถึงน้องเมย์ ET สาวจาก Microsoft ครับ ;P รอบนี้น้องเค้ามาถ่ายรูปตอนผมได้รับรางวัลขวัญใจ commentator ด้วย ;P

(สองภาพด้านล่างต้องขอบคุณ @nuboat ที่ถ่ายภาพให้)

งานนี้ผมโดนเผาเต็มที่ตั้งแต่คุณ @lewcpe เรื่องดูรูปภาพที่ผมถ่ายรูปจาก twitpic จนจบงานเลยทีเดียว –_-‘ แต่ว่าคุณ @lewcpe อยากได้ภาพบอกผมได้ครับ เดี่ยว upload ให้เฉพาะเลย ไม่ต้องเขียน shell script มาดูดรูปใน twitpic ผมหรอกครับ ;P

DSC_7293

DSC_7294

หลังจากจบ Session ของ Blogger ไปแล้วก็มาถึงของทาง Microsoft บ้างครับ งานนี้เหมือนกับเค้าแบ่งกันได้ลงตัวดีครับ ให้ Blogger พูดกันคนละ 5 – 10 นาที รวมๆ กันแล้ว ชั่วโมงกว่าๆ แล้วก็พัก break กันแป็บนึง รอบนี้ทาง Microsoft สั่งไก่ KFC มา break มาเสริมให้พิชซ่าที่คาดว่าจะหมดแน่ๆ ;P

พอกลับมาจาก break ก็มาถึงเรื่องระบบ VHD (Virtual Hard Drive) ครับ เดี่ยวผมจะมาเล่าละเอียดๆ อีกทีน่าจะดีกว่า แถมต่อด้วยสาธิต Multi-Touch บน Windows 7 ผ่านเครื่อง HP ครับ น่าสนใจมาก ทาง Microsoft บอกว่า Windows 7 รองรับ Multi-Touch ได้มากกว่า 2 จุด และขึ้นอยู่กับ H/W ไม่ใช่ตัว Windows เอง (เห็น Windows 7 จะรองรับได้ 50 กว่าจุดมั้งถ้าจำไม่ผิด เท่าๆ กับ Microsoft Surface นั้นแหละ) และยังบอกอีกว่า App จะรองรับ Multi-Touch หรือไม่ขึ้นอยู่กับพัฒนาให้รองรับหรือเปล่าด้วยครับ โดยทาง Microsoft ยังกระซิบบอกมาอีกว่า ในอนาคตจะมีแผ่นฟิมพ์ติดหน้าจอที่ทำให้เราสามารถใช้จอภาพเดิมๆ ของเราใช้งาน Multi-Touch โดยติดแผ่นฟิมพ์นี้ลงไปแล้วต่อผ่าน USB Port แทน ซึ่งน่าสนใจมากๆ ต้องติดตามข่าวกันต่อไปครับ

และต่อมาก็เป็นเรื่องของฝั่ง Enterprise อย่าง Windows 2008 R2, Exchange Server 2010 ฯลฯ ครับ

DSC_7298 DSC_7304 

DSC_7297 DSC_7315 

พี่หลามแห่งรายการแบไต๋, พี่ฟูเกียรติ และพี่จีระวัฒน์

 DSC_7334 DSC_7336 DSC_7337

งานนี้เพื่อนๆ พี่ๆ สมาชิกจาก ThaiThinkPad ครับ จริงๆ มามากกว่านี้แต่มาให้ถ่ายรูปแค่นี่อ่ะ T_T

DSC_7333

แต่ที่แน่ ๆ ผมชอบภาพนี้มากๆ ;P …… Windows 7 on Macbook Pro

DSC_7323

ปิดท้ายด้วยรูป @joyz กับเสื้อ ThaiThinkPad ที่เอาไปให้เพื่อนๆ สมาชิกในงานด้วยครับ ;P

ตอนหน้าเจอกันใหม่กับ Wallpaper Feed, Backup/Restore และ VHD ครับผม ;)

DSC_7354

จัดไปกับ Microsoft Arc™ Mouse

วันนี้ผมไปรับ Mouse ตัวเก่า Logitech V270 Bluetooth, HD Optical ตัวเก่าที่เอาไปเคลมได้กลับมาเป็น V320 Wireless RF, HD Optical แล้วทีนี้เลยกะว่าจะเอาตัวที่เคลมได้ขายแล้วซื้อตัวใหม่ซึ่งก้คือ Microsoft Arc™ Mouse ตัวนี้นี่เองครับ วันนี้ผมมาเป็นเซลล์ขายของอีกแล้ว ;P แต่ถ้าอยากอ่านเต็ม ๆ แนะนำไปอ่านที่นี่ดีกว่าครับ Reviews "ARC Mouse" จาก ไมโครซอฟท์ เพราะว่าเค้า review ละเอียดดีมาก ๆ ;)

IMAG0752

กางออกมุนด้านหลัง

IMAG0753

มุมด้านหน้า ตัว scroll ได้แค่ขึ้นและลง โยงไปซ้ายและขวาไม่ได้

IMAG0754 IMAG0755

ที่เก็บ Snap-in Transceiver แปะไว้ด้านล่าง เป็นแม่เหล็กดูดติดกับตัว Mouse เลย

IMAG0758

ขนาดตัว Snap-in Transceiver ก็ไม่ใหญ่มากครับ

ราคาค่าตัว 2,150 บาทครับ จากร้าน P & Y ที่ Pantip ครับ

image

image

ขนาดตามมาตรฐานของมือเราพอดีครับ ไม่เล็กไป (ภาพจากเว็บ Microsoft)

  • 2.4 GHz – 30 ft. Wireless Range

    The 2.4 GHz wireless USB micro-transceiver connects wirelessly right out of the box with virtually no interference and has up to a 30 foot wireless range

  • Folds For Portability

    Mouse folds to 60% of its fully expanded size using the strong metal hinge. Folding the mouse closed automatically turns it off.

  • Scroll Wheel

    Save time and effort with the scroll wheel—navigate documents and Web pages without using the on-screen scroll bar.

  • Battery Status Indicator

    You won’t get caught with a dead battery—the Battery Status LED Indicator glows red when the battery is running low.

  • Snap-in Transceiver

    Micro-Transceiver snaps into the bottom of the mouse.

  • One-touch access to Windows Flip 3D*

    Allows you to flip through open windows in a stack and quickly switch between applications for added productivity.

  • Customizable Buttons

    Get quick access to the media, programs, and files you use most often with customizable buttons.

  • Comfort for Either Hand

    Use your mouse with your left or right hand—ambidextrous design makes it comfortable either way.

  • Ergonomic Design

    Point and click in comfort—ergonomic design helps you work longer without discomfort.

  • Designed for Notebook PCs

    Compact and comfortable, our handy notebook and laptop products are designed for convenience and mobility.

  • Snap-in Receiver

    Plug in the snap-in receiver when you’re ready to work, then snap it into your mouse when you travel, preserving battery life.

  • Laser Technology

    Microsoft Laser Mouse products are more precise, more responsive, and deliver smoother tracking.

  • 6+ Months Battery Life

    Work with less interruption with longer battery life.

  • 3-Year Limited Hardware Warranty

    Ref : Microsoft Hardware : Arc™ Mouse

  • มีลิขสิทธิ์แบบ Get Genuine Ket ของ Windows Vista ด้วยนะ

    จาก ไปเจอ Microsoft Windows XP Professional SP2 – GGK (Get Genuine Kit) มา แล้วตอนท้ายผมได้บอกไปว่าไม่มีส่วนของ Windows Vista วันนี้คุณต้น (Platform Strategy Manager, Microsoft (Thailand) Limited) โทรมาบอกผม แล้วบอกว่า Windows Vista แบบ GGK แล้วนะ โดยพี่เค้าจะส่งอีเมลให้ข้อมูลให้อีกทีเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องอีกทีนึงครับ

    โดยข้อมูลที่ส่งมาเป็นเอกสารที่ได้รับการปรับปรุงแล้วจาก Microsoft Thailand ครับ

    GGWA_Summary

    Download Document

    แล้วในอีเมลที่ส่งมาก็มีรายละเอียดของ Software Assurance (SA) ด้วย จริง ๆ ตัว SA มันเป็นลักษณะของการคุ้มครองการซื้อซอฟต์แวร์ว่าจะได้รับการคุ้มครองให้สามารถได้รับซอฟต์แวร์ที่เป็นรุ่นล่าสุดอยู่เสมอ ส่วนรายละเอียดก็อ่านตามลิงคืนะครับ แต่ว่าเป็นส่วนของ Volume Licensing ครับ เผื่อใครจะเอาไปเสนอตามองค์กรตัวเองให้มาใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์กันครับ

    Microsoft ทำ Windows ดีและแย่สลับกันจริงเหรอ ?

    ผมลองสรุปไล่ส่วนของ Windows เล่น ๆ ดู เอาเท่าที่ผมเคยใช้มาในอดีตแล้วกันนะครับ แต่ว่าผลจะเป็นยังไง ลองนึก ๆ ดูว่าจริงอย่างที่ผมว่าไว้หรือเปล่า สรุปกันเองครับ ;)

    (จะไล่จาก DOS ก็ยังไงอยู่ เพราะไม่เคยเจอมันค้างหรือแฮง ;P)

    • Windows 3.11 กับ Windows 3.11 for Workgroups
      อันนี้ไม่นับ ;P เพราะมันเป็น Operating Environments ที่เค้าสร้างตัว GUI มาครอบ DOS เอาไว้
    • Windows 95
      รู้สึกต่างจาก Windows 3.11 เยอะมาก ๆ (ก็เล่นเปลี่ยน GUI ใหม่นิ) โดยรวมถือว่าทำได้ดี ไม่มีลูกเล่นอะไรเท่าไหร่ แต่มีความเป็น OS สูงดี ไม่มีอะไรมาก อยากได้ต้องลงเองเกือบหมด (รวมถึง Driver ด้วย ;P)
    • Windows NT 4.0
      เป็น 32bit OS ตัวแรกของ Microsoft ที่ได้จับ (first fully 32-bit version of Windows) Windows 2000 เป็นต้นมา(ก่อนหน้านี้ 3.1 ไม่ได้จับเลย) ด้วยความที่ Windows NT version เป็น Kernel ตัวใหม่ที่ชื่อ NT Kernel ทำให้กินเสปคเครื่องมหาศาลมาก (ในตอนนั้น) และ boot ช้ามาก แต่ว่าเค้าจับตลาด Workstation กับ Server เลยไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่ และ Microsoft ตั้งธงว่าเป็น Kernel ในอนาคต และก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ใน Windows 2000 และ XP โดยใน Windows NT version ต่าง ๆ นี้ ก็โดนด่ายับไปตามระเบียบ ซึ่งก็คงคล้าย ๆ กับ Vista ในตอนนี้แหละ (มั้ง) แถมตอนแรกหา Driver ยากมาก (ปัญหาเดียวกับ Vista ในตอนนี้ เกือบทุกอย่าง ยกเว้นการ copy ไฟล์ช้า ;P)
    • Windows 98
      อันนี้โดนด่ายับว่ายังไม่ดีพอที่จะซื้อ คือเหตุผลในความต่างจาก Windows 95 มันไม่มีเท่าไหร่ จนมาถึง Windows 98 SE ถึงได้รับความนิยมกว้างขึ้น เพราะได้ใส่ Internet Explorer เข้ามา และหลาย ๆ อย่างที่การ setup ทำได้ง่ายขึ้น ทำให้เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว setup พวก driver อีกไม่มาก ก็ใช้ได้แล้ว (สำหรับตอนนี้ซึ้งเป็นยุค ADSL ก็ถือว่ายากกว่าเยอะอยู่ดี) และถึงยุคของ Windows XP ก็ยังได้รับความนิยมสูงอยู่พักใหญ่ ๆ (หลังจาก Windows XP ออกได้ปีกว่า ๆ) จึงลดความนิยมลงเพราะเกมส์เริ่มสนับสนุน Windows XP มากขึ้น และซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่ก็สนับสนุนไปเยอะแล้ว
    • Windows 2000
      เป็น OS ที่มีความเข้าใจทับซ้อนกับ Windows ME และเป็น Windows ที่เสถียรภาพสูงตัวหนึ่ง แต่ก็ยังใช้เสปคเครื่องสูงอยู่ในเวลานั้น (แต่ก็ยังดีกว่า Windows NT 4.0 อยู่มาก) และทำให้รู้ว่าผมไม่ต้องกลัวการใช้ Windows แล้ว Resource หมดแล้วต้อง restart ทุก ๆ ครึ่งวันมันเป็นยังไง ซึ่งตัว Windows 2000 มีระบบจัดการ Memory และ Process ที่ดีมาก ๆ ผิดกับ Windows 9x ที่ถ้ามีโปรแกรมใดแฮงไปสักตัวสองตัว อีกไม่นานก็จะเริ่มเอ๋อ ๆ และจำเป็นต้อง restart แล้ว แล้วผมเคยใช้ Windows 2000 โดยไม่ได้ restart หรือ standby เลยเป็นเวลากว่า 14 วัน และสุดท้ายเมื่อต้อง update Patch ก็ต้อง restart จนได้ ทำให้ไม่กลับไปใช้ Windows 98 อีกเลย
    • Windows ME
      หลาย ๆ อย่างได้รับการปรับปรุงดีขึ้น แต่ว่า error หลายๆ อย่างก็ตามด้วยเช่นกัน แถมมี error แปลก ๆ ให้ชวนปวดหัว (ทำให้ผม format เครื่องได้ทุกอาทิตย์เป็นเรื่องปรกติ) ไม่รู้จะพูดยังไงดี –_-‘
    • Windows XP
      อันนี้ไม่ต้องบอกอะไรมากมั้งครับ ;P ซึ่งหลังจาก Service Pack 1 ออกมา ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ upgrade อีกต่อไป และได้รับความนิยมสูงสุดใน Service Pack 2 แถมได้ชื่อว่าเป็น Operating System ที่มีอายุมากที่สุดของ Microsoft แล้วเช่นกัน
    • Windows Vista
      โดยรวมเป็นการพลัดใบของ Arhictecture ใน NT Kernel ใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนชื่อ API และระบบภายในเยอะมาก ๆ โละ Win32 และหลาย ๆ อย่างทิ้งไป และใส่ .NET Framework มาใน OS เลย (แต่ก็ต้อง update บ้างอยู่ดี) อันนี้ก็ไม่ต้องบอกอีกเช่นกัน แต่คนส่วนใหญ่บอกไว้ว่ามันยังไม่ที่สุดอยู่ดี ซึ่งผมมองว่ามันคงคล้าย ๆ กับการเปลี่ยนแปลงตอน Windows NT 4.0 และ Windows 2000 (NT Kernel 5.0) และทุกคนก็คาดหวังว่า Windows 7 จะมาช่วยให้อะไร ๆ มันดีขึ้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจาก Windows 9x มา Windows NT Kernel ใช้เวลาเกือบ 10 ปีกว่าจะเข้าที่ นับจากเปิดตัว NT Kernel 3.1 ใน Windows NT 3.1 ในปี 1993 และมาในปี 2000 ที่เกือบดีแล้วใน Windows 2000 (NT Kernel 5.0) และประสบความสำเร็จในร่างของ Windows XP (NT Kernel 5.1) ถือว่าใช้เวลาอยู่พอสมควร และในครั้งนี้ Windows Vista (NT Kernel 6.0) ผมก็คงคาดการณ์ไว้ว่า Windows 7 (NT Kernel 6.1) จะกลับมาประสบความสำเร็จเช่นเดิมครับ

    Windows_Family_Tree

    รูปจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Microsoft_Windows

    อ้างอิงจาก

    ผิดพลาดตรงไหนก็ comment ไว้นะครับ อาจจะตกหล่นไปบ้าง เพราะเขียนแบบเร็ว ๆ สรุปตามที่นึกออก

    [update]

    Windows NT 3.1 และ Windows 2003 Server Family ผมไม่ได้จับมันเลย ผมเลยไม่รู้จะบอกความรู้สึกและประสบการณ์มันยังไง ขอข้ามไปแล้วกันครับ