ATM vs End of Life ของ Windows XP แล้วไงต่อ?

มันเป็นเรื่องน่าเศร้า ปนน่าเบื่อมากๆ ที่โลกไอทียังคงเกิดปัญหาเดิมๆ ในด้านการสนับสนุน ปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงระบบ ให้ระบบต่างๆ นั้น ยังคงทำงาน และใช้งานได้อย่างราบรื่น บนพื้นฐานด้าน เสถียรภาพ ความปลอดภัย และไร้ซึ่งข้อผิดพลาด อยู่เสมอๆ

จากข่าว End of Life ของ Windows XP ที่นำมาให้อ่านกันบางส่วนนี้

จะเห็นได้ว่า ในวงการที่มุ่งเน้นความปลอดภัยสูงอย่าง ธนาคาร หรือสถาบันการเงิน นำเอา Windows XP ไปใช้งานนั้นในระบบตัวเอง กลับเชื่องช้าต่อการเปลี่ยนแปลง และไม่พร้อมต่อเหตุการณ์ End of Life ของ Windows XP เท่าใดนัก แม้ Microsoft จะประกาศมานานแล้วเรื่อง End of Life ของตัวซอฟต์แวร์อย่างเปิดเผยมานานแล้ว

แน่นอนว่าแม้จะมีกระแสข่าวว่า ระบบปฏิบัติการภายในระบบตู้ ATM ในอนาคตบางส่วนจะย้ายไปใช้ Linux อยู่บ้าง แต่ก็ยังมีข่าวอีกสายที่จะอัพเกรดไปใช้ Windows 7 หรือ 8 ต่อไป แต่โดยส่วนใหญ่ในตอนนี้คงไม่ทันต่อ End of Life ในอีกไม่ถึงเดือนนี้แน่ๆ และการหาทางออกด้วยการจ่ายค่าสนับสนุนให้กับ Microsoft เพิ่มเติมเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวระบบปฏิบัติการณ์ต่อไปในอีกสักระยะหนึ่งนั้น เป็นมาตราการเฉพาะหน้า ซึ่งรวมไปถึงลงทุนกับระบบป้องกันอื่นๆ ที่ล้อมกรอบตัวเครือข่าย ATM ที่ยังใช้ระบบปฎิบัติการณ์ที่หมดอายุตัวนี้ให้อยู่ในโซนที่เข้าถึงได้ยาก และมีระบบแจ้งเตือนการบุกรุกที่รัดกุมมากกว่าเดิมไปก่อน ทั้งในระดับเครือข่าย และระดับตัวเครื่องตามสถานที่ต่างๆ เพราะในระดับตัวเครื่องถอนเงินปรกตินั้น ถ้าบุกรุกเข้าสู่ภายในเครื่องถอนเงินได้แล้ว Windows XP จะเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงในระดับ administrator account ได้ง่ายมากจากช่องโหว่ และ crack tools ต่างๆที่มีอยู่ทั่วไปอย่างมาก ส่วนตู้ ATM บางส่วนที่เป็น Windows XP Embedded จะยังสนับสนุนต่อไปถึงมกราคม 2016 แต่ก็ไม่เยอะมาก เมื่อเทียบกับตลาดทั้งหมดอยู่ดี (แต่ก็คงไม่รอดพ้นการบุกรุกด้วย crack tools แต่อย่างใด)

โดยส่วนตัวนั้นเชื่อว่า ปัญหาเดิมๆ ก็ยังคงอยู่ต่อไปในอนาคตอีกแน่ แม้ว่าจะย้ายไปใช้ Linux หรืออัพเกรดไปใช้ Windows รุ่นที่ใหม่กว่าก็ตาม เพราะถ้าผู้มีอำนาจในการปรับเปลี่ยนเหล่านั้นยังคงแนวคิดว่า “มันยังใช้งานได้อย่างเพิ่งไปเปลี่ยน” แล้วยังคงใช้งานมันต่อไป โดยยังมุ่งใช้ library, framework, run time แบบเดิมๆ ที่ถูกรายงานอยู่เรื่อยๆ ว่ามี bug เพียบ รูโหว่มากมาย แล้วมานั่งแก้ไขเอาแบบลูบหน้าปะจมูกอยู่เนืองๆ และยังคงมุ่งใช้งานโดยให้ผู้ใช้งานเสี่ยงกับระบบเดิมๆ รอจนมันไม่ไหวแล้วจึงย้าย ซึ่งมันจะไม่ต่างจากเหตุการณ์ End of Life ของ Windows XP ในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้เลย นี่ยังไม่รวมไปถึงซอฟต์แวร์ที่ในสถาบันการเงินใช้งาน ซึ่งหลายๆ ตัวก็ End of Life ไปแล้ว แต่สถาบันการเงินก็ทำตัวนิ่งๆ ไม่พูดถึงอีกหลายตัวที่ยังคงใช้งานอยู่ โดยไม่มีรายงานออกมาให้ลูกค้าอย่างเราๆ ได้ทราบเท่านั้นเอง และจริงๆ ผมว่าเค้าเข้าใจปัญหามานานแล้ว แต่ไม่ทำมากกว่า เพราะเป็นค่าใช้จ่ายทั้งนั้น และมั่นใจว่าระบบรักษาความปลอดภัยจำพวก Firewall หรือการทำ DMZ จะช่วยได้ แต่มันก็แค่การแก้ปัญหาที่ไม่ยั้งยืนสักเท่าไหร่

ก็หวังว่าปัญหา End of Life ของ Windows XP ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ จะทำให้ภาคธุรกิจด้านธนาคาร และสถาบันการเงินนั้นตระหนักถึงความเสี่ยง และเข้าใจถึงผลกระทบที่มีต่อลูกค้าตนเอง เมื่อระบบที่ตนเองให้บริการต่อลูกค้าอยู่นั้นมีความเสี่ยงต่อการถูกจู่โจมจากผู้ไม่ประสงค์ดี อันเนื่องจากการหยุดสนับสนุนของผู้ผลิตเจ้าหลักในอุตสาหกรม

ไปเจอ Microsoft Windows XP Professional SP2 – GGK (Get Genuine Kit) มา

Microsoft Windows XP Professional SP2 – GGK (Get Genuine Kit) เป็น Windows XP Professional เพื่อใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดวส์ที่ยังไม่มีลิขสิทธิ์ที่ถูกต้องบนเครื่องพีซีและใช้งานซอฟต์แวร์ที่เป็นของแท้ โดยลูกค้าสามารถซื้อ GGK ได้จากผู้แทนจำหน่ายประเภท OEM โดยจะได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนการใช้งานซอฟต์แวร์จากไมโครซอฟท์ทุกประการ

ข้อมูลจาก http://forum.selectmore.com/Default.aspx?g=posts&m=1&

และอ่านข้อมูลเพิ่มเติมต่อได้ที่ วิธีการเลือกซื้อสิทธิการใช้งานที่เหมาะสมกับคุณ

ปล. ทั้ง GGWA และ GGK เป็นการจำหน่าย Windows XP Professional license เท่านั้น ซึ่งยังไม่มีจำหน่ายสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows Vista ที่จะต้องจำหน่ายผ่านทาง OEM หรือผลิตภัณฑ์แบบกล่อง (Retail Pack หรือ FPP) อย่างไรก็ตาม คุณสามารถซื้อ Software Assurance (SA) พร้อมกับ GGWA ภายใน 90 วัน เพื่อขออัพเกรดเป็น Windows Vista โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

IMAG0666

สงครามเริ่มแล้ว (Mozilla Firefox 2.0 VS Microsoft Internet Explorer 7.0)

ขอพักเรื่อง SCJP จากตอนที่แล้วไว้ก่อน วันนี้เรื่องด่วนกว่าคือสงครามแห่ง major upgrade ของทั้งสองค่ายจากทั้งสองฝั่งนั้นคือฝั่ง Microsoft ผู้มีสายป่านที่มากและอิทธิพลต่อคนทั่วโลกแห่ง IT มากที่สุด ที่ถอยเอา Internet Explorer 7.0 ที่ปล่อย Release ออกมาตัดหน้าก่อน กับ Mozilla ผู้พัฒนา Mozilla Suite และอดีตอันรุ่งเรืองจาก Netscape ที่ถอยเอา Mozilla Firefox น้องของ Mozilla Suite ออกมาสู้ในตลาด Web Browser ที่ใหญ่โต นี่อาจเป็นการสู้กันด้วยมาตรฐานกลางและมาตรฐานตัวเองอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2006 ที่ผ่านมานี้ Microsoft ได้ปล่อย Internet Explorer 7.0 (IE) ออกมาก่อนที่ Mozilla Corporation จะปล่อย Firefox 2.0 (FF) ออกมาเพียง 5 วันเท่านั้น

แต่สิ่งที่ระวังอย่างนึงคือสำหรับผู้ใช้ Windows XP ที่จะลงต้องเป็น CD-Key แท้เท่านั้นถึงจะทำการติดตั้งได้

โดยที่หลังจากที่ทดสอบ IE 7.0 มา 5 วันก่อนที่ FF 2.0 จะออกนั้นในด้านความเร็วต่าง ๆ ในการโหลดตัว Application นั้นทำได้อย่างรวดเร็วและมี Feature ใหม่ ๆ ที่ built-in เข้ามาเยอะมาก แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือตัว User Interface (UI) ที่เปลี่ยนแปลงใหม่หมดจาก IE 6.0 มาก (ไม่นับ RC Version หรือ Beta Version เพราะไม่ใช่ Version เต็มเอามาเทียบไม่ได้) สิ่งที่น่าจะเป็นตัวทำให้ IE กลับมาทำได้ดีน่าจะเรื่องของความปลอดภัยที่มีการตั้งค่าต่าง ๆ ด้านความปลอดภัยมากมาย แต่ไม่แน่ใจว่าตัว IE 7.0 จะยังคงเป็น Built-in Web Browser ทั้งหมดหรือเปล่า แต่จากการทดสอบนั้นเมื่อลง IE 7.0 แล้ว เมื่อเราพิมพ์ URL ที่ Address Bar ที่ Windows Explorer (ตัวจัดการไฟล์ใน Windows) มันจะทำการ pop-up หรือ send URL ไปยัง Web Browser ตัวมาตรฐานของ Windows ทันที อย่างเช่นในเครื่องผมใช้ Firefox เป็น Web Browser มาตรฐาน มันก็จะเรียก Firefox มาเรียกเว็บนั้นแทน จากที่เมื่อก่อนถ้าพิมพ์แล้วมันก็จะ switch ตัว Windows Explorer เป็น IE ทันทีแล้วเข้า Internet ได้เลยในหน้าต่างเดียวกันนั้นเอง ซึ่งจากที่ผมวิเคราะห์แล้วเนี่ย IE 7.0 น่าจะเป็น Standalone Application เต็มตัวแบบเดียวกับ FF ไปแล้ว (หรือถ้าไม่เป็นทั้งหมด แต่ก็น่าจะเกือบ 80%) ซึ่งมันทำให้ดีขึ้นในด้านความปลอดภัยในเรื่องของ Spyware ที่จะมาโจมตี Windows ผ่าน Web Browser อย่าง IE รุ่นก่อน ๆ นั้นเอง (แค่หวังว่ามันจะดีขึ้นนะ) ส่วนในด้านของ Feed นั้น ในเรื่องความสะดวกก็คงเหมือน ๆ กับ FF หรือ Safari ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ ส่วนอื่น ๆ ก็มีพวกระบบ Tab ที่น่าจะได้เล่นกันมาบ้างแล้วจะ MSN Toolbars หรือ Windows Live Toolbars ซึ่งก็คล้ายๆ กัน ส่วนอื่น ๆ ที่มีการเพิ่มเติม ก็มีดังนี้

  • Built-in RSS Feeds
  • Microsoft Phishing Filter
  • Vista Protected Mode
  • Microsoft ActiveX Opt-In
  • Cascading Style Sheets (CSS) Updates รองรับ CSS Level 2 (CSS2)
  • Portable Network Graphics (PNG) support (Alpha Channel Transparency)
  • XML HTTP Native support
  • Internationalized Domain Name (IDN) support
  • Tabbed Browsing
  • HTML 4.0.1 Support

สิ่งที่น่าดีใจที่สุดใน IE 7.0 คือมันสนับสนุน Alpha Channel Transparency ใน PNG (RGBA) ที่ทำให้สามารถใช้รูป format PNG พื้นหลังโปร่งแสงได้แล้ว (หลังจากที่ชาวบ้านเค้าสนับสนุนกันมาหลายปีแล้ว)

ต่อมาขอพูดถึง FF 2.0 บ้าง ในด้านของ UI นั้นมีการเปลี่ยนแปลง Theme หลักที่เปลี่ยนใหม่ให้ดูเข้ากับยุดสมัย ที่การออกแบบจะออกมาโทนแบบนี้ทั้งนั้น ส่วนที่เปลี่ยนแปลง นี่มีเยอะกว่า IE 7.0 เสียอีก ลองไล่ดูกันเลยครับ

  • A new theme that updates Firefox’s familiar interface อันนี้เปลี่ยนแปลง Theme ใหม่อย่างที่บอกไว้ข้างต้น
  • Built in Phishing Protection มีระบบป้องกันการปลอมแปลง URL เพื่อหวังผลทางด้านข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ
  • Enhanced search engine management and search suggestions for Google, Yahoo! and Answers.com ระบบจัดการ การใช้งาน search (ด้านบนขวา) แบบใหม่ และมีการตรวจสอบคำผิดสำหรับ Google, Yahoo และ Answers.com
  • Improvements to tabbed browsing, including the ability to re-open recently closed tabs ปรับปรุงระบบ Tab และเพิ่มความสามารถด้านการเปิด Tab ที่เปิดค้างอยู่จากการปิดใช้ครั้งล่าสุด
  • Firefox will resume from where you left off after a system crash or browser restart มีระบบกู้คืนการใช้งานครั้งล่าสุดจากการที่ OS crash หรือ browser restart
  • Better support for previewing and subscribing to Web feeds ระบบ preview และสมัครการรับข้อมูลจาก Feed แบบใหม่
  • Inline spell checking in Web forms มีระบบตรวจสอบคำผิดจาก web form โดยตรวจสอบเฉพาะภาษาอังกฤษเสียส่วนใหญ่ ซึ่งไม่มีภาษาไทยแน่นอน
  • The ability to create bookmarks with Live Titles for Web sites that offer microsummaries
  • New Add-ons manager that simplifies management of extensions and themes. ระบบจัดการ Extension และ Theme ใหม่ โดยนำทั้งสองตัวมารวมกันในชื่อ Add-on
  • Support for JavaScript 1.7
  • Extended search plugin format รองรับระบบ search plugin แบบใหม่
  • Updates to the extension system to provide enhanced security and to allow for easier localization of extensions
  • Support for client-side session and persistent storage
  • Support for SVG text using svg:textPath
  • New Windows installer based on Nullsoft Scriptable Install System ระบบการติดตั้งแบบใหม่

โดยรวมแล้วทั้ง IE 7.0 และ FF 2.0 นั้นมีการสนับสนุนในมาตรฐานใหม่ ๆ มากขึ้น และใน Feature ต่าง ๆ นั้นมีให้ใช้ไม่แตกต่างกัน แต่ดู ๆ แล้ว FF 2.0 น่าจะดีกว่าในแง่ของ Add-on เสริมที่มีเยอะมาก และในตอนนี้ Add-on ส่วนใหญ่กว่า 80% ก็ใช้กับ FF 2.0 ได้แล้วด้วย แล้วอีกอย่างคือการใช้งานหน่วยความจำน้อยลงบ้างเล็กน้อย

อ้างอิงจาก

Downloads

การตั้งค่าการใช้ภาษาไทย ใช้แบบเดียวกับ version 1.5 ครับ ซึ่งไม่แตกต่างกันในตำแหน่ง แต่แตกต่างกันที่คำที่ใช้ในปุ่มนิดหน่อยครับ อ่านได้ที่ ปรับแต่งให้ Mozilla Firefox 1.5 ใช้ภาษาไทยอย่างสมบูรณ์

Update ตัวแก้ปัญหาการใช้พลังงานจาก Battery สำหรับ Laptop ที่ใช้ Windows XP SP2

จาก Knowledge Base Article : KB918005 : Battery power may drain more quickly than you expect on a Windows XP SP2-based portable computer

Download the Update for Windows XP (KB918005) package now.

เป็นปัญหาที่ Windows XP SP2 ควบคุมการใช้พลังงานจาก Battery ผิดพลาดนั้นเอง

  • The portable computer cannot enter the deeper Advanced Configuration and Power Interface (ACPI) processor idle sleep states.

    This occurs when the USB 2.0 driver leaves the asynchronous scheduler component running continuously. This prevents the processor from entering the deeper ACPI processor idle sleep states, or C-states. C-states save power when the processor is not busy. These states range from C0 to C3 or C4. Typically, an idle portable computer uses the C3 and C4 states to preserve battery power. If an idle portable computer cannot enter or maintain the C3 or C4 states, the battery power drains more quickly. This problem is fixed by installing the download that is available in this article.

  • The USB host controller is unable to turn off.

    This typically occurs when devices are removed from a nested USB hub that is attached to the host controller. The host controller does not recognize the device removal. Therefore, the controller is never turned off. This prevents the processor from entering the ACPI processor idle sleep states. This problem is not fixed by installing the download that is available in this article.

  • The USB host controller uses the periodic scheduler for USB 2.0 devices.

    This typically occurs when devices that rely on the periodic scheduler are attached to the host controller. These may be isochronous (Isoch) devices such as audio devices. Alternatively, they may be interrupt devices such as mouse or keyboard. This problem is not fixed by installing the download that is available in this article.

ท่าทางจะต้องซื้อ Windows ซะแล้ว ……

วันนี้ไปอ่านข่าวจากเว็บผู้จัดการมาก เรื่อง …..

ไมโครซอฟท์เผยดีเดย์กลางปี จำกัดทางอัปเดทวินโดวส์เถื่อน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 มกราคม 2548 09:57 น.

ไมโครซอฟท์กำหนดใช้ Windows Genuine Advantage กลางปีนี้ หลังทดสอบระบบมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2004 เพื่อจำกัดทางดาวน์โหลดข้อมูลจากเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ของผู้ที่ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน ซึ่งมีผลโดยตรงกับ Windows Updates แบบแมนนวล ส่วนฟังก์ชั่น Windows Automatic Updates จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ผู้ผลิตซอฟต์แวร์อันดับ 1 ของโลก เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ 26 มกราคม 2005 ว่า ไมโครซอฟท์มีกำหนดเริ่มใช้ Windows Genuine Advantage เทคโนโลยีเพื่อการตรวจสอบลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ในกลางปีนี้ หลังจากที่ได้ทดสอบระบบมาได้ระยะหนึ่ง

ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ถ้า Windows ที่ใช้เป็นซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ คุณก็สามารถดาวน์โหลดซีเคียวริตี้แพ็ตช์และซอฟต์แวร์อัพเดทจากเว็บไซต์ 2 แห่ง ได้แก่ Download Center และ Windows Update ของไมโครซอฟท์ได้แบบไม่มีปัญหา แต่ถ้าระบบปฏิบัติการที่คุณใช้เป็นซอฟต์แวร์เถื่อน ระบบจะแจ้งให้คุณทราบว่าซอฟต์แวร์ที่คุณกำลังใช้อยู่นั้นผิดกฎหมาย ก่อนจะเปิดโอกาสให้คุณดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ได้บ้าง เฉพาะบางตัว ตามการเปิดเผยของไมโครซอฟท์

อย่างไรก็ตาม สำหรับฟังก์ชั่น Windows Automatic Updates จะยังไม่ได้รับผลกระทบ และยังสามารถดาวน์โหลดได้ตามปกติ เดวิด ลาซาร์ (David Lazar) ผู้อำนวยการฝ่ายวินโดว์สไคลเอนต์ บริษัทไมโครซอฟท์ กล่าว

วัตถุประสงค์เพื่อลดหรือจำกัดปัญหาซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ของ Windows Genuine Advantag มีแนวทางปฏิบัติก็คือ ผู้ที่ใช้ซอฟต์แวร์ถูกกฎหมายจะได้รับบริการที่ดีกว่า ลาซาร์กล่าวว่าสิ่งที่ไมโครซอฟท์ต้องการคือการเพิ่มค่าให้กับวินโดวส์ถูกลิขสิทธิ์ สร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น โดยจะเพิ่มในส่วนของซีเคียวริตี้ที่จะสามารถเชื่อถือได้มากกว่า

“เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายป้องกันและกำจัดการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ เป้าหมายคือให้ลูกค้ารับทราบข้อมูลที่แท้จริงและชอบซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์มากกว่า” เขากล่าวและว่า “สำหรับผู้ใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ พวกเขาจะเข้าถึงทรัพยากรต่างๆของไมโครซอฟท์ได้มากกว่าและคุ้มค่ากว่า ส่วนผู้ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนจะถูกจำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึงทรัพยากรบางอย่าง”

Windows Genuine Advantage ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไมโครซอฟท์พยายามตรวจสอบ Windows ว่าแท้หรือไม่ ระบบแบบนี้มีอยู่แล้วใน Windows Update ที่จะมีการตรวจสอบโวลุ่มไลเซนส์ก่อนเพื่อให้รู้ว่าเป็นซอฟต์แวร์เถื่อนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม “Windows Genuine Advantage จะมีการตรวจสอบในรายละเอียดที่มากกว่า … แม้ไลเซนส์คีย์ที่คุณใช้จะเป็นของแท้ แต่หากไลเซนส์ดังกล่าวถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายแล้ว ระบบจะถือว่านั่นเป็นซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์” ลาซาร์กล่าว

สำหรับผู้ที่ใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนอยู่แล้วต้องการเปลี่ยนมาใช้ของแท้ ทางไมโครซอฟท์มีโครงการสนับสนุนให้สามารถซื้อซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ได้ในราคาลดพิเศษ แต่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าถูกหลอก ไม่ใช่เต็มใจใช้ของเถื่อน เช่น แจ้งแหล่งที่ได้มา หรือมีหลักฐานการได้มา เป็นต้น

ซอฟต์แวร์เถื่อนเป็นปัญหาใหญ่ของไมโครซอฟท์ เฉพาะในสหรัฐอเมริกา 23% เป็น Windows เถื่อน แต่ปัญหาที่มากกว่าก็คือ ผู้ใช้หลายคนไม่รู้ว่าตัวเองใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนอยู่

“23% ของผู้ใช้ในสหรัฐฯใช้ซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย และส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าซอฟต์แวร์ที่ตัวเองใช้ผิดกฎหมาย สิ่งที่เราต้องการคือบอกคนเหล่านี้ให้รู้ว่าเขากำลังใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนอยู่ อธิบายว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และเสนอแนะแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้ได้ลิขสิทธิ์ที่ถูกต้อง”

ไมโครซอฟท์ยอมรับว่า Windows XP Starter Edition หรือ Windows เวอร์ชั่นราคาประหยัด ที่มีวางจำหน่ายในบางประเทศแถบเอเชียนั้น เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายป้องกันและกำจัดซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ นอกจากนี้แล้ว ไมโครซอฟท์ยังได้ร่วมมือกับฝ่ายบังคับใช้กฎหมายในแต่ละประเทศ เพื่อเร่งรัดกำจัดขบวนการผลิตและจำหน่ายซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย

นักวิเคราะห์ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของไมโครซอฟท์จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเรื่อง ปัญหาความปลอดภัยบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในภาพรวม เพราะเป็นธรรมดาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งมีปัญหาความปลอดภัยจะติดเชื้อ แล้วจะกลายเป็นตัวแพร่เชื้อไปยังเครื่องอื่นๆ

ขณะที่ไมโครซอฟท์ออกมาปฏิเสธ “ในส่วนที่มองว่าแนวคิดนี้อาจจะเพิ่มความเสี่ยงด้านซีเคียวริตี้ ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่ไมโครซอฟท์ต้องการนั้น เป็นเพราะวินโดวส์ผิดกฎหมายนั้นเป็นความเสี่ยงเรื่องซีเคียวริตี้อยู่แล้ว” ลาซาร์กล่าว

“ที่สุดแล้วไมโครซอฟท์จะยุติความช่วยเหลือด้านการอัปเดทซีเคียวริตี้ในวินโดวส์เถื่อนทั้งหลาย ไมโครซอฟท์อาจจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เหลือทางเลือกมากมายนักในการยุติปัญหา การละเมิดลิขสิทธิ์อย่างเห็นผลเท่ากับวิธีนี้” รัสส์ คูเปอร์ (Russ Cooper) นักวิทยาศาสตร์อาวุโสของบริษัทไซเบอร์ทรัสต์ (Cybertrust Inc.) กล่าว

อ่านแล้วก็ อืม ……. ท่าทางคงต้องซื้อมาใช้ใน Desktop ที่บ้านซะแล้ว ส่วน Notebook คงไม่มีปัญหา เพราะว่ามีอยู่แล้ว หุๆๆ แต่ว่าราคานี่ดิ คงต้องหาเงินมาจ่ายอีกหลาย T_T แย่จัง ….. แต่ก็สมควรหล่ะ เพราะว่าคงซื้อของขายไม่ได้ไปขโมยใครมาขาย ซื้อก็ซื้อฟร่ะ สำนึกในการใช้โปรแกรมลิขสิทธิ์ 555555