ความคิดเห็นส่วนตัวกับ Android Camera

จากข่าว ผู้บริหารกูเกิลสัญญา รอพบกับ Nexus พร้อมกล้องคุณภาพเยี่ยม  ส่วนตัวจากที่ได้ลองจับ Android Camera มาแล้วนั้น Android Camera มีปัญหากับการจัดการพลังงานสูงมาก กล้อง DSLR ถ่ายรูป 1,000 shot ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียวเป็นเรื่องปรกติไปแล้ว แต่ Android Camera ที่มีขายในตอนนี้แค่ 200-300 รูปก็หืดจับแล้ว คือด้วยความที่ Android Camera มันไม่ได้ถูกปรับแต่งให้ใช้งานกล้องอย่างเดียว ตอนที่ใช้ถ่ายรูปจริงๆ แต่ดัานหลังของระบบภายในของมันมีอะไรอีกเพียบที่ทำงานอยู่ และทำให้กินแบตตลอดเวลา ถ้า Android ไม่ปิดระบบพวกที่ว่าได้สมบูรณ์และมุ่งไปที่กล้องและเปิดระบบพวกนี้เฉพาะเวลาที่ใช้จริงๆ มันก็จะมีปัญหาเรื่องนี้อยู่ตลอด และส่วนตัวผมคิดว่า Google คงไม่ได้คิดจะทำแบบนั้น เอาง่ายๆ แค่ต้องมาเปิดจอหลังกล้องตอนถ่ายตลอดเวลาก็กินแบตเป็นว่าเล่นแล้ว บนจอ 4” ขึ้นไป

ซึ่งจากดูก็น่าจะมองออกว่า แค่จำนวนภาพแค่นี้กับการที่เราต้องพกแบตสำรองไปเพื่อถ่ายให้ได้จำนวนเท่ากัน บางครั้ง Android Camera อาจจหนักกว่าเสียด้วยซ้ำ

ประเด็นต่อมาคือ ถ้ากล้องแฮงตอนถ่ายงานสำคัญคงร้องไม่ออก แน่ๆ (ณ ตอนนี้) DSLR ทำขึ้นมาบนพื้นฐานความเสถียรและตรงไปตรงมาของระบบ เพราะปุ่มไม่ต้อง minimalize เน้นตรงไปตรงมา ไม่มีช่างภาพที่ถ่าย DSLR จริงจังมากๆ มากดๆ หลังกล้อง LCD ขนาดใหญ่เพื่อเลือก ISO, F Stop หรือ Speed shutter กับงานที่จริงจังและต้องการการปรับแต่งที่สูงทันทีหรอก เอากล้องนาบดู View finder แล้วต้องปรับพวกนี้ได้จากใน View finder แล้วใช้มือจับๆ ที่กล้องเพื่อปรับแทน มันเร็วและทันต่อเหตุการณ์มากกว่า

จากที่บอกแบบคราวๆ ด้านบน ประเด็นที่ผมกำลังบอกคือ ในปัจจุบันมันยังแทนกันไม่ได้ ถึงจะบอกว่าทำ sensor ขนาดใหญ่ แต่ Electronic Shutter ยังมีข้อที่ต้องระวัง เช่นปัญหา Rolling Effect ที่ยังมีปัญหาอยู่ (ผมว่าคิดในอนาคตคงแก้ไขได้) ต่อมาก็เรื่อง Physic ของแสงระหว่างเลนส์และเซ็นเซอร์ยังเป็นประเด็นอยู่ เพราะมันยังไงก็ได้ไม่เท่ากัน (ภาพเบลอโบเก้สวย หรือภาพคมในระยะอนันก็ยังสู้ไม่ได้ เพราะข้อจำกัดที่ Sensor ขนาด/คุณภาพ Optic) มันมีเรื่องที่ต้องคิดซึ่งเป็นข้อจำกัดที่บางครั้งมันไม่เกี่ยวกับ OS หรือชนิดของกล้องถ่ายรูปเพียงอย่างเดียว แต่คนที่คิดถึง Android Camera คือคนที่คิดถึงภาพของกล้องที่ใช้ OS จากมือถือที่ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า OS ตัวนี้มันก็มีแฮงๆ ค้างๆ กันอยู่เป็นเรืองปรกติและกล้องและเลนส์ที่ให้มาบนมือถือส่วนใหญ่ก็ Sensor เล็กกว่า Compact และเลนส์ก็ไม่ได้ดีมากด้วย

นี่ยังไม่รวมไปถึง RAW File ที่ถ้าเทียบกับคนที่จะเอา Android Camera มาแทน DSLR แล้วนั้น ถือว่าสำคัญมาก เพราะบางครั้งภาพที่ถ่ายอาจสวยที่หลังกล้อง แต่สุดท้ายภาพนั้นอาจต้องถูกเอาไปใช้งานต่อและมีการปรับแต่งภายหลัง การที่ Android Camera ให้ภาพที่เป็น JPEG เพียงอย่างเดียวนั้น สำหรับช่างภาพที่จะเอามาทดแทน DSLR นั้นไม่เพียงพอแน่ๆ

ประเด็นของเรื่องที่เล่ามาอยู่บนพื้นฐานส่วนตัวที่ถ่ายรูปด้วย DSLR อยู่และตอนหลังก็พกแต่กล้องมือถือไปถ่ายรูปตอนเที่ยวเสียมากกว่า แต่ผมยังมองว่า คำตอบมันอยู่ที่ว่าคุณต้องการภาพที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะมีอุปกรณ์หาได้หรือ ต้องการความสะดวกสบายในการเที่ยวและมีภาพที่พอใช้ได้กับการท่องเที่ยวนั้นๆ มากกว่ากัน

Canon ทำกล้องวงจรปิด!!!

ไปอ่านใน Canon Network Camera, Ice Monster ของ @ifew เมื่อเช้าแล้วน่าสนใจแฮะ … คือเมื่อตอนเรียนปีสามเนี่ยผมเคยไปติดตั้งกล้องวงจรปิดให้พ่อผมที่ร้านอาหารของพ่อที่พิษณุโลก (แถวๆ ม.นเรศวรนั้นแหละ) แล้วพบความยุ่งยากว่าต้องมานั่งดูว่ากล้องแต่ละตัวมันเข้ากับชุดการ์ด DVI ของเราได้หรือเปล่า แล้วเจ้าการ์ด DVI เนี่ยมันรองรับกล้องได้กี่ตัว แถมต้องลากสายสัญญาอะไรอีกให้วุ่นวายมากมายเลย –_-‘ แถมไอ้เรื่องที่น่าปวดหัวที่สุดคือการ์ด DVI เนี่ยมันเลือก M/B และ VGA Card ด้วยครับ ใช้รุ่นใหม่ๆ หน่อยก็ไม่ได้ ต้องรุ่นเก่าๆ หน่อยไม่งั้นภาพไม่ขึ้นใช้งานไม่ได้อีก แถมเจ้าระบบไฟล์ที่ได้จากการ์ด DVI มันเป็นไฟล์เฉพาะ อยากเอาออกมาใช้งานทีนึงก็ต้อง Export เป็น Mpeg4 ซึ่งกินเวลานานมาก ขนาดต้องการแค่ 2-3 ชั่วโมงยังใช้เวลา Export 5-6 ชั่วโมงทีเดียว แถมมีขนาดไฟล์ที่ใหญ่มากๆ ด้วย แถมในรุ่นเล็กๆ ยังทำให้ดูผ่านระบบ Network ไม่ได้เสียด้วย ซึ่งลงทุกไปหลายหมื่นอยู่แต่ได้งานในระดับที่พอใช้ได้

ซึ่งมารอบนี้ Canon เข้ามาทำตลาดกล้องวงจรปิดแบบ IP Network Camera แล้วน่าสนใจมากคือต้องบอกก่อนว่าเจ้า IP Network Camera นี่มีมาพอสมควรแล้วหล่ะ เพียงแต่ว่าทำตลาดในวงแคบและไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก แต่มารอบนี้ Canon ทำตลาดให้ผู้ใช้งานตามห้างร้านที่ต้องการกล้องวงจรปิดโดยใช้ความรู้ในด้านการติดตั้งน้อยกว่าตอนผมติดตั้งเมื่อ 4-5 ปีก่อนมากเลยทีเดียว พร้อมระบบควมคุมที่น่าสนใจทีเดียวครับ จากที่ได้อ่านการติดตั้งและคุณสมบัติของมันแล้ว เจ้าตัวซอฟต์แวร์ Network Video Recording นี่ต่อได้ 64 ตัวพร้อมๆ กันได้เลย เลยน่าสนใจมากสำหรับคนที่ต้องการติดตั้งให้ครอบคลุมพื้นที่มากจุด แถมแปลงไฟล์วิดีโอเป็น QuickTime ซึ่งผมไม่แน่ใจว่า QuickTime เนี่ยมันเป็น Mpeg4 หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ไม่แน่ใจอีกว่าเป็น codec H.264 ที่ใช้พื้นที่จัดเก็บไม่มากแบบรุ่นที่ขายกันทั่วไปไหม

52570458[1]

ยืมภาพจาก @ifew มา เดี่ยวไม่เห็นของจริง ;P

ต่อมาเรื่องของ Motion Detection และ Night Mode ที่ถ้าเป็นกล้องแบบเดิมๆ จะอยู่ในรุ่นสูงๆ หรือกล้องเฉพาะงานที่มีราคาแพงเท่านั้น ซึ่งในตัวนี้มีมาให้พร้อมเลยทีเดียวครับ ซึ่งเจ้า Motion Detection นี่น่าจะละเอียดกว่าพวก DVI โดยทั่วไปอยู่พอสมควร เดี่ยวถ้าได้มีโอกาสอัพเกรดตัวกล้องที่ร้านคงได้ลองใช้ดู … (อาจจะไปยุให้บ้านน้าติดตั้งดูก็ดีแฮะ เพราะเห็นว่ากำลังจะติดตั้งอยู่เหมือนกัน)

… แล้วพอลล่าไม่เป็นพรีเซ็นเตอร์เหรอครับ ;P

อ้างอิงข้อมูลอื่นๆ จาก

“พิสูจน์แล้ว แคนนอน Network Camera เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อโลกธุรกิจ…ที่ให้ได้มากกว่าความปลอดภัย”

http://th.syndacast.com/press-releases/277-canon-network-camera.html

http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?p=896214#post896214

http://technology.impaqmsn.com/article.aspx?path=spec&rid=0&id=9772