อ่ะอ่า …….. อย่าๆๆ อย่าเพิ่งด่า ที่จั่วหัวแบบนี้ ใจเย็นก่อน อ่านให้จบ
ดื่มน้ำเย็นสักแก้ว แล้วอ่าน เดี่ยวจะเส้นเลือดในสมองแตกตาย แทนเล่นเกมส์แล้วช็อคตาย
จาก Can games kill? และจากข่าวการตายของคนเล่นเกมส์บ้าระห่ำ 48 ชั่วโมง up …… แล้วช็อคตายห่า หน้าร้านเกมส์
หลายๆ สื่อโทษ เกมส์ และรวมถึงหลายๆ คน โทษ เกมส์ รวมถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดจากการนำพาของเกมส์ ไม่ว่าจะความรุนแรง หรื่อข่าวด้านอื่นๆ
ผมว่าโดยธรรมชาติของมนุษย์ ไม่ยอมโทษ ตัวเองหรอก ว่าตัวเองผิด ชอบโบ้ย ให้คนอื่นผิด หรือแม้แต่สังคมเองก็ตามที ที่มักจะหาแพะ มารองรับความผิดที่ตนเองก่อขึ้น
ในเรื่องของเกมส์เป็นตัวอย่างที่ดี ของคนที่ใช้กระบวนความคิด ในการแก้ไข และหาเหตุผลมาเสนอ และบ่งบอกความผิด ในรูปแบบที่ผิดวิธีไปอย่างมาก
ในเรื่องการจัด Rating เกมส์เป็นเรื่องที่ดี จริงๆ แล้วในเรื่องราวแบบนี้ควรจะมีการจัดไว้ในทุก ๆ สื่อ ไม่เว้นแม้แต่เกมส์ หรือภาพยนต์ต่าง ๆ
แต่ด้วยบ้านเมืองเราในปัจจุบัน ตัวบทกฎหมาย มีไม่ครอบคลุมเนื้อหา และปัญหาของสังคม รวมถึง ผู้ใช้กฎหมาย ไม่มีความแข็งแรง ทั้งในด้านจิตใจ และจิตสำนึก ที่จะต่อกร ต่อความไม่อยุติธรรมของสังคม และจิตใจของวงการธุรกิจที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเท่าใดนัก
สิ่งหนึ่งที่คนไทยบางกลุ่มซึ่งกลุ่มนี้เป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของสังคมไทย และรวมถึงแนวรวม ของสังคมที่ชอบทำอะไร ตามๆ กัน มักอ้าง สิทธิมนุษยชน อ้าง ความเป็นเสรีภาพ
โดยสิ่งที่อ้าง และกล่าวอ้าง มักเป็นสิ่งที่ขัดต่อบทกฎหมาย และตัวบทกฎหมายก็มักจะตีความได้มากมาย และไม่เฉพาะเจาะจงลงไปมากนัก ทำให้เกิดการตีความที่ผิดต่อวัตถุประสงค์อย่างร้ายแรง
ประชาธิปไตย เป็นเสรีภาพ ที่ไม่ควรอยู่เนื้อกฎหมายสูงสุดของรัฐนั้นๆ แต่เราชาวไทยโดยทั่วๆ ไป คิดว่าเสรีภาพ นั้นคือการทำอะไรก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำ คือแบบนี้มันง่ายเกิน จนมักง่าย ทำอะไรก็ไม่ดูหรอกว่า มันทำได้หรือเปล่า อยากจะทำก็ทำ อยากจะเอามาเข้ามาในประเทศ ก็ทำ ขอให้ได้เงิน เป็นพอ
นี่ปี ค.ศ. 2005 หรือ พ.ศ. 2548 ไม่ใช่ปี พ.ศ. 1700-2400 นะครับ ใครจะ ใคร่ค้าม้า ก็ค้า จะค้ายาเสพติดก็ค้า บ้านเมืองมีกฎหมาย มากมายเพื่อยับยั้ง ความคิดที่หลุดโลก หลุดจากศีลธรรมต่างๆ
ที่หลายมาทั้งหมด ในเรื่องของการใช้ตัวบทกฎหมาย ก็อยากให้เข้าใจว่า การแก้ปัญหาในเรื่องของเกมส์นั้น ควรแก้ที่ตัวบุคคล ในเมื่อคนเล่นมีเสรีภาพในการเล่น ถ้ามีการจัด rating เกมส์แล้ว อายุถึงตามกฎหมาย ก็ปล่อยมันไป ผมถือว่าโตๆ กันแล้ว มันจะเล่นเกมส์ตายห่า ยังไงก็ช่างมัน เพราะเรื่องแบบนี้ผมถือว่ามันเป็นสิทธิโดยชอบธรรมของบุคคลที่ไม่ควรไปกำจัดสิทธิของเค้า
แต่ถ้า คนเล่นคือเด็ก ที่ยังไม่มีอาุยุเกิน 20 ปี และเกมส์ที่เล่นมี rating ที่ไม่เหมาะกับเค้า ก็ควรจะมีการสั่งหยุด หรือห้ามไม่ให้เล่น
เพราะในต่างประเทศ ในหลายประเทศที่ไม่ค่อยมีปัญหา (หรือเปล่าหว่า -_-”) เค้ามีการกำหนด rating เกมส์ รวมถึงสื่ออื่นๆ ไว้ชัดเจนว่าใครควรซื้อ และควรเล่น รวมถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองในความรับผิดชอบสูง ที่จะไม่ซื้อ หรือจัดหา สื่อที่ไม่เข้ากับอายุของเด็กที่ต่ำกว่า 20 ให้เด็กที่อายุไม่ถึง 20 เล่น
กล่าวคือ ผู้ใหญ่ไม่ให้เด็กเล่น หรือเด็กเสพสื่อที่ไม่เหมาะเหล่านั้น มีจิตใจที่ดี ไม่ยอมต่อคำออดอ้้อนของเด็ก และเป็นทั้งสังคม เด็กมันจะไปเอาสื่อพวกนี้มาจากไหนได้ มีการกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน และเคร่งครัด ไม่เหลวแหลก แหกกฎ มีการกำหนดระยะเวลาในการเล่นของแต่ละบุคคลเอง ตามแต่ครอบครัวจะกำหนด เป็นการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย จริงๆ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ครอบครัวด้วยเช่นกันนะ ถ้าสอนมาดี มันก็ไม่มีปัญหาหรอก ทำให้มีวินัยในตนเองของเด็กในนั้นมีมากขึ้น และมากพอ และจากการฝึกจากส่วนนี้ โตขึ้นก็จะเคารพคนอื่นๆ ไม่แหกกฎตามมา
แต่ก็จนแล้วจนรอด มันก็มีไอ้พวกบ้า ชอบพูดว่า “กฎมีไว้แหก” ผมหล่ะอยากจะกระทืบ หรือชกปากมันซักที ไม่รู้ว่ามันเอาความคิดนี้มาจากไหน (น่าจะภาพยนต์ต่างๆ) คือถ้ามันคิดแบบนี้ผมว่ามันไม่ทำตามกฎจารจร เห็นไฟแดง มันก็ผ่า เห็นผู้หญิงสวยๆ มันก็ไล่ข่มขื่น มั้ง ……. บ้าไปแล้ว …. แล้วบ้านเมืองมันจะสงบสุขได้ไหม
เอ้าๆๆ ออกทะเลอีก ผม -_-”
เรื่องเกมส์ต่อดีกว่า ……….. ;)
คือ ถ้าเราใช้กฎหมายมาควบคุม มัน ok นะ แต่ ……..
คนใช้กฎหมาย และคนในสังคม ต้องร่วมมือ แต่ ……..
ถ้าคนที่เล่น คนที่เสพสื่อเหล่านี้ ไม่มีจิตสำนึก ไม่มีวินัยในการบริหารความพอดีในตนเอง
“มันก็ไม่มีประโยชน์”
เพราะเรื่องราวเหล่านี้ มันอยู่ที่คนที่อยู่ต้นทางของปัญหา คือ บุคคล ที่กระทำ นั้นคือคนเล่น คนเสพสื่อ
เช่น ผมถ้าจะเล่นเกมส์ ถ้าช่วงผมบ้าๆ ตอนช่วง ม.3 ได้มั้ง ผมเล่นวันนึง ไม่ต่ำกว่า 18 ชม. ต่อวัน บางครั้งไม่ได้้นอน 2 – 3 วัน กินนอนอยู่ที่ร้านเกมส์ (ไม่รู้ตรูรอดช็อคตายมาได้ไง -_-” คงเพราะออกกำลังกายแตะฟุตบอลด้วยมั้ง) ต่อมาสัก ม. 4 – 6 เริ่มรู้ว่าผลการเรียนตกต่ำสุดขีด เร่ิมปรับตัว หันหลัง แขวนเมาส์ไป ไม่ได้เล่นมากมาย คือเล่นพอสนุก อาทิตย์ละ 3 – 4 ชั่วโมง ตามแต่ใจจะไคว้ขว้า หุๆๆ เริ่มๆ จัดระเบียบตัวเอง ไม่ต้องมีใครบอก (แต่ตอนบ้าๆ ไม่รู้หรอก โดนแม่ ว่าเช้า ว่าเย็น 5555)
เรื่องแบบนี้ถ้าแก้ได้ มันต้องแก้ที่คนเล่น บุคคลที่เสพนั้นหล่ะ จริง ป่ะ ;)
ถ้าคนมันตายเพราะเล่นเกมส์ ก็เพราะว่ามันฆ่าตัวตายเอง (ดันโง่ เล่นเกินขนาด เหมือนคนเสพยา) ไม่ใช่เกมส์ ไปฆ่ามัน เพราะเกมส์มันคงไม่มีมีด ออกมาปาดคอ หรือตัดขั่วหัวใจ ให้ช็อคตายห่า หรอก
ตอนผมเรียนอยู่ที่เมกา เวลาไปดูหนัง แค่ซื้อตั๋วเขาก็ตรวจบัตรแล้วครับ ว่าอายุถึงรึป่าว ในกรณีที่เราจะดูหนัง พวก SAW หรือที่ติดเรท แถมมีตำรวจหรือเจ้าหน้าที่คอยยืนรออยู่หน้าทางเข้าโรงอีกที เมืองไทยไม่มี (แต่หนังที่เข้ามาในเมืองไทย ก็ถูกตัดอะไรหลายๆ อย่างออกไปแล้ว) เหมือนวิธีการนั้นจะใช้ได้ผล แต่หลังจากที่ DVD ออกมา (โดยเฉพาะพวก UNCUT หรือ UNCENSORED Edition) ก็ไม่สามารถควบคุมได้อยู่ดี ผมว่าข่าวที่เด็กทำตามเกมส์เนี่ย มันดูที่เกมส์อย่างเดียวไม่ได้นะ คนที่ทำแบบนั้นได้ มันต้องมีปัจจัยมากกว่าแค่เกมส์แน่ๆ เช่นเรื่องการเลี้ยงดู ปัญหาทางบ้าน หรืออะไรอย่างอื่นๆ อีกมากมาย ถามว่าคนที่ไม่เล่นเ้กมส์เลย จะไม่ทำแบบนี้รึป่าว มันก็ไม่ใช้ เพราะเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่คนทำ เหมือนที่ฟอร์ดบอกอะครับ