มาดูความสามารถของ Mobile Device Manager ที่แต่ละ platform ให้มา

ผมเคยได้ใช้ประโยชน์จาก Mobile Device Manager มาครั้งนึงตอน ประสบการณ์ทำ Tablet ตกบน Taxi แล้วได้คืน ช่วงตุลาคม ปีที่แล้ว วันนี้มาแนะนำ 4 ค่ายหลักๆ กันอีกสักรอบ และมาดูทิศทางในอนาคตว่าจะพัฒนาต่อไปอย่างไร

ถ้าเทียบความสามารถของระบบ Mobile Device Manager หรือบางคนเรียกว่า Find My Phone ของแต่ละ platform มือถือ (ที่แถมมาให้ในแต่ละ platform) ทั้ง Android, iOS, Windows Phone และ BlackBerry นั้น ต้องบอกว่า ของ iOS ทำออกมาได้ค่อนข้างครบกว่าค่ายอื่นๆ Android และ Windows Phone นี่แทบจะเหมือนกัน ส่วน BlackBerry นี่ได้ข้อดีจากระบบเก่าๆ ที่มีมาก่อนทุกค่ายเลย คือไม่ได้ปรับปรุงอะไรเยอะ แค่คงเดิมจากระบบ Enterprise เฉยๆ (ตัดโน้นนี่บ้างนิดหน่อย)

แต่แม้ Android จะมีทัดเทียมเท่าค่ายอื่นๆ แต่ก็มีบางฟังค์ชั่นที่ต้องไปเปิด Android Device Manager ใน Phone administrator (Settings) เพื่อใช้งาน Remote Lock และ Remote Erase ได้ ซึ่งในค่ายอื่นๆ นั้น ทั้งสองฟังค์ชันนี้เปิดให้เลย (ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะ iOS) ซึ่งใน Android ดูจะเปิดใช้งานยุ่งยากเสียหน่อย ผู้ผลิตมือถือบางค่ายก็เลยเปิดมาให้เป็นค่าเริ่มต้น (ง่ายต่อคนซื้อ) เพราะหากไม่ทำแบบนี้ Android Device Manager จะ Remote Lock และ Remote Erase จากบนเว็บไม่ได้

มาดูกันว่า 4 ค่ายหลักนั้น ให้สามารถของ Mobile Device Manager ในระดับคนซื้อทั่วไปแบบไม่เสียเงินเพิ่มเติมมีอะไรกันบ้าง (ข้อมูล ณ เดือน 6 ปี 2014)

Android Device Manager – https://www.google.com/android/devicemanager
– Locate
– Remote Ring
– Remote Lock
– Remote Erase

Find My iPhone – https://www.icloud.com
– Locate
– Remote Ring
– Remote Lock
– Remote Erase
– Remote Activation Lock
– Display Message
– Notifed status

Windows Phone Find My Phone – https://www.windowsphone.com
– Locate
– Remote Ring
– Remote Lock
– Remote Erase

BlackBerry Protect – https://protect.blackberry.com
– Locate
– Remote Ring
– Display Message
– Remote Lock
– Remote Change Device Password
– Remote Erase

แน่นอนว่าในอนาคตทุกค่ายคงทำตามข้อกำหนด Smartphone Anti-Theft Voluntary Commitment ที่เพิ่มเติมเข้ามาของ CTIA คือ 
– Remote Erase (สั่งลบข้อมูลจากระยะไกล)
– 911 Emergency call only (สั่งให้โทรไป 911 ได้อย่างเดียว)
– Reactivation and authorized factory reset only (ปลดล็อคเครื่องให้ใช้การได้เมื่อผู้ใช้พบมือถือ และป้องกันการคืนค่าจากโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต)
– Restored from the cloud (กู้คืนข้อมูลจากกลุ่มเมฆหากเครื่องถูกสั่งล้างข้อมูลไปก่อนหน้านี้)

ซึ่งหลายๆ ฟังค์ชั่นบางผู้ผลิตก็ใส่ไว้ให้แล้ว บางอย่างก็ยังใหม่อยู่ บางฟังค์ชันในขณะนี้ก็ถูกใส่ไว้ใน 3rd party software (แต่ต้องจ่ายเงินซื้อ) สำหรับเราๆ ก็รอการพัฒนากันต่อไปเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลภายในเครื่อง และการติดตามเวลาหายหรือถูกขโมยต่อไป

* CTIA (CTIA – The Wireless Association): สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจเครือข่ายไร้สายของสหรัฐ ผลงานขององค์กรนี้เยอะ ใกล้ๆ ตัวก็อย่างออกประกาศว่า “โทรศัพท์มือถือทุกเครื่องจะต้องใช้ช่องต่อหูฟังแบบ 3.5 มม. และช่องต่อโอนถ่ายข้อมูลและชาร์จไฟเป็น microUSB” นั้นเอง

** คำอธิบายศัพท์ฟังค์ชันด้านบน
Locate แสดงที่อยู่ล่าสุด
Remote Ring ให้ส่งเสียงออกมาจากการสั่งงานจากระยะไกล
Remote Lock ล็อคเครื่องจากการสั่งงานจากระยะไกล (หากไม่มีรหัส มักจะมีการตั้งรหัสให้)
Remote Erase สั่งให้ลบข้อมูลทั้งหมดจากการสั่งงานจากระยะไกล
Remote Change Device Password เปลี่ยนรหัสผ่านก่อนเข้าเครื่องใหม่ด้วยการสั่งงานจากระยะไกล
Remote Activation Lock ล็อคเครื่องเพื่อบังคับให้ใช้ชื่อบัญชีหลักของเครื่องพร้อมรหัสผ่าน เพื่อปลดล็อคให้ใช้งานได้อีกครั้ง โดยเป็นการสั่งงานจากระยะไกล และและป้องกันการคืนค่าจากโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
Display Message ส่งข้อความไปแสดงหน้าเครื่อง
Notifed status  ส่งอีเมลแจ้งว่าสถานะเครื่องและที่อยู่ล่าสุด

ลูกค้า Windows Phone ได้พื้นที่บน SkyDrive เพิ่มอีก 20GB เป็นเวลาหนึ่งปี!

เพื่อแสดงความขอบคุณแก่ลูกค้า Windows Phone เราจึงขอมอบที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติม 20 GB บน SkyDrive ให้คุณฟรีเป็นเวลาหนึ่งปี ความจุของที่เก็บข้อมูลดังกล่าวจะเพิ่มจากที่เก็บข้อมูลฟรี 7 GB ใน SkyDrive ที่ลูกค้าทั้งหมดได้รับในปัจจุบัน

image

วิธีการก็ไม่ยาก กด link ในเมล จะมี Redeem code อยู่

https://skydrive.live.com/options/ManageStorage?redeemCode=VX9WP-F4NRR-PVJY7-6R7D2-V8PHP

ของผมได้คือ VX9WP-F4NRR-PVJY7-6R7D2-V8PHP

ไม่แน่ใจว่าใช้ได้ครั้งเดียวหรือเปล่า ใครใช้ Windows Phone ก็ลองดูครับ

เข้าไปหน้า Manage storage ให้กด link ชื่อ Redeem SkyDrive Code แล้วกรอกรหัสที่ได้ (ผมไม่แน่ใจว่ารหัสตัวเดียวกัน หรือสุ่มแต่ละคน)

2013-12-21_134536

กด Redeem ก็จะได้พื้นที่เพิ่มมาอีก 20GB ระยะเวลาใช้ 1 ปีตามภาพ

2013-12-21_134315

ประสบการณ์ทำ Tablet ตกบน Taxi แล้วได้คืน

เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่าน ดันไปทำ Tablet ตกบนรถ Taxi ผมไหวตัวทัน เลยรีบโทรเข้าไปยิกๆ แต่ไม่มีใครรับ เลยนึกเรื่องของ Location History และ Android Device Manager ออก เลยใช้ ทั้งสองตัวมาช่วยไว้ ซึ่งพระเอกของงานคือ Android Device Manager ผมใช้การดึง locate เครื่อง แต่ไม่ติด ไม่สามารถติดต่อหรือรับสัญญา GPS ได้ ผมเลยส่งคำสั่ง Ring ไปที่ Tablet ปลายทางแล้วโทรศัพท์ซ้อนกลับเข้าไป เพราะเครื่องผมเปิดโหมด Silent ไว้ โทรศัพท์เข้าไปเฉยๆ ปลายทางจะไม่ได้ยินเสียง ดีที่พี่ Taxi เค้าเก็บไว้ได้ และตกลงขับเอามาส่งให้ เลยช่วยค่ารถกับค่าเสียเวลาพี่เค้าไปพอสมควร แต่บทเรียนนี้ทำให้ต้องระมัดระวังมากขึ้นว่าอย่าหิ้วของเยอะๆ แล้วอย่าเบลอบน Taxi เพราะไม่ได้โชคดีแบบนี้ตลอดเวลาหรอก ><“

ซึ่งจากกรณีที่ทำ Tablet ตก อยากบอกคนที่มี Smartphone และ Tablet ไม่ว่าจะเป็น Android, iOS และ Windows phone ที่ใส่ SIM ได้ว่า ให้ไปลงทะเบียนและศึกษาการใช้งานระบบติดตามเครื่อง (Find) ล็อค (Lock) และส่งสัญญาณลบข้อมูลทั้งเครื่อง (Remote erase/wipe device) ไว้ด้วย เพราะทั้ง iOS, Android และ Windows phone มีความสามารถนี้ให้บริการเราอยู่แล้ว

Android – https://www.google.com/android/devicemanager
iOS – https://www.icloud.com
Windows phone – https://www.windowsphone.com

2013-10-26_000158

2013-10-26_002802

ถ้า Windows RT และ Windows Phone สามารถทำงานได้บน H/W ที่ Android ทำงานได้?

จาก [ลือ] ไมโครซอฟท์ให้ซัมซุงกับหัวเหว่ยใช้ Windows Phone กับ Windows RT ฟรี, ซัมซุงทำ Galaxy Tab ดูอัลบู๊ตอยู่ 

ส่วนตัวมองว่ามันเป็นการบุกเข้าฐานที่มั่นของศัตรูได้เร็วและง่ายที่สุด บนมือถือและเครื่องที่ทุกคนมีและคุ้นเคย ผมว่าไม่ได้สิ้นหวัง แต่มันคือการใช้กลยุทธเดียวกับ Windows เมื่อก่อนที่เป็น IBM Compatible เราอาจจะได้เห็นมือถือ Android ที่ติดสัญลักษณ์ Windows RT หรือ Windows phone compatible ก็ได้ ซึ่งเป็นงานถนัดของ Microsoft อยู่แล้วซึ่งเป็นประสบการณ์ที่สั่งสมมาจาก Windows Desktop ในอดีตที่สามารถติดตั้ง driver บน H/W แปลกๆ ได้ร้อยพ่อพันแม่ งานนี้รอดูว่าจะเป็นจริงได้แค่ไหนกัน

รวมสิ่งที่เปลี่ยนแปลง ปัญหาและทางแก้ไข (บางส่วน) ที่เจอหลังจากติดตั้ง Windows Phone 8 Update 3 (preview) ในรอบ 12 ชั่วโมง

  1. แยกเสียงเตือนระหว่าง Text/IM, voicemail, email และ remiders ออกจากกันแล้ว
  2. มีระบบ driving mode สำหรับ pair อุปกรณ์แล้วปรับให้ยกเลิกการรับสาย หรือ auto reply text ได้
  3. เพิ่มระบบ screen rotation lock มาใน Settings แล้ว
  4. ปุ่มปิด app ผ่าน app switcher
  5. การกด shift ในคีย์บอร์ดภาษาไทยได้รับการแก้ไขให้ unshift เองอัตโนมัติโดยไม่ต้องกด shift อีกครั้งแล้ว
  6. หลังอัพเดทตัวคีย์บอร์ดทับช่องสนธนาใน Line
    Q: เกิดจากการกะระยะในตัวคีย์บอร์ดกับตัว app ของ Line ผิดพลาดเอง แม้จะปิด Suggest text แล้วก็ตาม
    A: รอ Line แก้ไข เพราะ Skype, Whatsapp, Facebook chat หรือ IM+ Pro ไม่พบปัญหานี้
  7. เพิ่ม Facebook Account ใน Setting ของ Windows phone 8 update 8 แล้วขึ้น error code 0x85fbe196
    Q: เกิดจากตัว Facebook connect ใน Windos Phone 8 update 3 ตัวล่าสุดไม่รองรับ Login Approvals (2-Factor Authentication)
    A: การแก้ไขคือ ไปที่ Security ที่ facebook.com แล้วยกเลิก Login Approvals เสียก่อน แล้วจึงเปิดอีกครั้งหลังจากเพิ่ม Facebook Account และ sync เสร็จสิ้น
    อ้างอิงจาก http://support.microsoft.com/kb/2762064
  8. Connect facebook chat จาก People Hub ไม่ได้!
    Q: ปัญหานี้เกิดจากเปิด battery saver อยู่
    A: ทางแก้ไขคือ ให้ทำการ turn off ตัว battery saver ตามวิธีด้านล่าง
    – ไปที่ settings แล้วเลือก battery saver อยู่ ให้เข้าไปที่ advanced
    – ให้คลิ้กเลือกตัวเลือกอื่นๆ สักตัวแล้ว back กลับมาเพื่อบันทึกค่าใหม่ แล้วกลับไปเลือกเดิมอีกครั้ง
    – แล้วเลือก turn off ตัวเลือก battery saver
    – ทำการ reset เครื่อง 1 รอบ
    – ไปที่ People hub เลือก set chat status เป็น offline แล้ว back บันทึกออกมา แล้วกลับเข้าไปเลือก available อีกรอบ จะ online ได้

ส่วนอื่นๆ ที่ไม่ได้ลองเพราะไม่รองรับเช่น

  1. Tiles แบบ 6 columns (เหมือนยังไม่มีในอัพเดทนี้ หรือไม่ก็เพราะใช้ได้เฉพาะจอ 1080p ซึ่งยังไม่มีตัวไหนในตลาดมี)
  2. Screen reader บน Mobile Accessibility for Windows Phone 8
  3. Internet Sharing ที่ pair ผ่าน Bluetooth