ซื้อ Hard Drive ใหม่เสียที หลังจากอึดอัดมานาน

ด้วยเหตุที่ว่า Notebook ผมนั้นมันมีพื้นที่ใช้ส่อยแค่ 40GB และถูกลดลงด้วยหลักเลขฐานสองลงไปอีก (อ่านดูแล้วกัน : พื้นที่ในฮาร์ดดิสค์หายไปไหน ?? มันคือพื้นที่ผีอยู่ หรือว่ามันหายไปจริงๆ !!! ) ซึ่งมันจะเหลือให้ใช้จริงๆ อยู่ประมาณ 38.xx GB เท่านั้น ทำให้อึดอัดมาก แค่ลง Operating System และ Software ต่าง ๆ ก็ใช้พื้นที่ไปแล้วกว่า 16 – 18GB ซึ่งนี้ยังไม่รวมไฟล์เอกสารที่มากมาย ที่ซัดไปเหลือให้ได้ว่าง ๆ เอาไว้วิ่งเล่น และ Defragmemt อีกนิดหน่อย ซึ่งน้อยมาก ๆ จนต้องไปหาซื้อ Hard Drive ใหม่สักที ด้วยราคาที่ถูกลงมากสำหรับความจุ 80GB ทำให้ผมไปคว้ามาซะเลยในราคาค่าตัว 4,000 ถ้วน (ราคาต่างจังหวัดนะ) ซึ่งแพงกว่าแถวกรุงเทพฯ ตามห้างดังต่าง ๆ อยู่ไม่น่าเกิน 300 บาท (คิดซะว่าค่ารถไปกลับยังไม่ถึงเลย ถือว่า ok แล้วกัน) โดยที่ซื้อคือ Seagate® Momentus 5400.3 ST980815A 5,400rpm 80GB ซึ่งเอามาแทนที่ Hitachi® Travelstar HTS424040M9AT00 4,200rpm 40GB ที่ติดมากับ IBM Thinkpad R40 ตัวเก่งของผม ซึ่งการเปลี่ยนก็ง่าย ๆ แค่ถอดน็อต 1 ตัวแล้วก็เลื่อนมันออกมา ขันน็อตที่ยึดอีก 4 ตัว แล้วก็เปลี่ยนเสร็จก็เอาตัวใหม่ใส่แล้วก็ทำขั้นตอนย้อนกลับก็จบ ง่ายมาก ๆ ไม่ยาก แต่ที่ยากคือการเอาข้อมูลใน Hard Drive ตัวเก่ามาใส่ตัวใหม่ ซึ่งคงต้องอาศัย software อย่าง Norton Ghost มาช่วยเล็กน้อย ตามวิชาที่ได้ร่ำเรียนมาจากสำนักประกอบเครื่องตอน ม. 4-6 ที่โรงเรียนเก่า (ประกอบเครื่องและลงโปรแกรม 250 เครื่องภายใน 5 วัน ก็ใช้ Ghost เนี่ยหล่ะเป็นคำตอบ อิๆๆๆ) ซึ่งก้ใช้เวลาอีก 3 – 4 ชั่วโมงในการย้ายข้อมูล รวมไปถึงการ update MFT (Master File Table) ของ File System ของ Windows อีก ครึ่งชั่วโมง โดยใช้การ chkdsk c:/f เพื่อทำการ update MFT เพราะไม่งั้น windows มันจะเอ้อๆ และช้าๆ เพราะ MFT ใน Hard Drive ตัวเก่า กับ ตัวใหม่นั้นมีการอ้างอิงที่มีการคลาดเคลื่อนกันได้ โดยเฉพาะถ้าขนาด Partition ที่มีไม่เท่ากัน ซึ่งอย่างของผม Drive C ที่เก็บ OS ไว้นั้น ตัวเก่ามีขนาด 20GB แต่ตัวใหม่มีขนาด 30GB ทำให้มีพื้นที่บางส่วนที่ MFT ไม่ครอบคลุมแน่นอน โดยสักเกตุได้ง่ายมากก่อนทำ chkdsk c: เฉยๆ มันจะขึ้น MFT error ซึ่งต้องทำการ fix ในส่วนของ MFT ด้วยคำสั่ง chkdsk c:/f ก่อน แล้วถึงจะหาย error ซึ่งจริง ๆ ต้องทำทุกๆ Drive เลยทีเดียว และคราวนี้ก็สมใจสักที มีพื้นที่โล่งๆ ไว้เก็บงานต่าง ๆ ได้มากขึ้น แถมเพลงอีกด้วย

ส่วนตัวเก่านั้นก็ไปซื้อ External Box 2.5" มาใส่ในราคา 190 บาท (ราคาต่างจังหวัด)

รูปต่าง ๆ ถ่ายด้วย Sony Ericsson W700i ย่อรูปเหลือขนาดที่ ~500 x ~500 Pixel

ของใหม่ Sony Ericsson Walkman W700i !!!

อยากได้รายละเอียดของเครื่องนี้อ่านที่ Siamphone.com  และ Thaimobilecenter เอาแล้วกันนะครับ ละเอียดกว่า

นี่เป็นอีกเครื่องที่ผมได้ใช้ Sony Ericsson ซึ่งผมชอบยี่ห้อนี้ตั้งแต่ยังเป็น Ericsson เฉย ๆ ใช้ตัั้งแต่ T29s ซึ่งโดยขโมยไปแล้ว T_T ซึ่ง W700i ที่ผมซื้อมาในราคา 13,500 บาท เครื่องประกันศูนย์ 1 ปี ของแถมในกล่องเพียบเลย

เท่าที่ได้ใช้มา 1 อาทิตย์นี่การตอบสนองของเมนูทำได้ดีมาก และไม่หน่วงเลย (ผิดกับ T630 เครื่องเก่า) โดยที่ที่แตกต่างจาก W800i คือไม่มี Auto Focus (แต่เท่าที่ถ่ายออกมาเทียบกันก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่เลย) และแถม Memory Strick Pro Duo เพียง 256 MB (W800i แถม 512MB) นอกนั้นก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ครับ ตัวเครื่องเหมือนกันหมดเลย แถมพวก Theme, Wallpaper ก็ใช้ของ W800i หรือ K750i ก็ได้เช่นกัน (ขนาด Resolution 176×220 เท่ากันครับ)

เรื่องการใช้งานโดยรวมมีฟังค์ชันที่ดีมาก ๆ แถมไม่ต้องลงโปรแกรมเพิ่มเติมในการช่วยการ Presentation เลย เพราะมีอยู่ในเครื่องแค่ต่อกับ Bluetooth และลงโปรแกรม Sony Ericsson PC Suite ก็สามารถ Sync ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ได้ ใช้ Outlook ในการ Sync ข้อมูลโดยทำได้ดี และสะดวกกว่า T630 ตัวเก่าผมเสียอีก

ส่วนการ Sync ข้อมูลอย่างเพลงนั้นต้องใช้โปรแกรมชื่อ Disc2Phone ของ Sony Ericsson เอาเอง ซึ่งก็ใช้ไม่ยาก แต่มันเป็นเพียงแต่โปรแกรม Sync เพลง ไม่ใช่ Media Center แบบ Windows Media Player หรือ Music Player แบบ iTunes ซึ่งที่มันทำได้คือเลือกเพลงจากเครื่องของเรา และทำการปรับแต่ง bitrate ว่าเราจะ Sync ที่ bitrate เท่าไหร่ แล้วทำการ Sync เพลงใส่เครื่องโทรศัพท์ ซึ่งคล้าย ๆ กับ iTunes ที่ใช้ร่วมกับ iPod Shuffle ที่สามารถตั้งไฟล์ที่ Sync ที่มี bitrate เกิน 128kbps ให้เป็น ACC bitrate 128kbps ได้ แต่ตัว Disc2Phone สามารถตั้งได้ตั้งแต่ 32kbps – 192kbps ซึ่งทำให้มีทางเลือกในการ Sync เพลงได้จำนวนเพลงมากขึ้น และการใส่ข้อมูลนั้นสามารถใส่ข้อมูลอื่น ๆ เช่นไฟล์วีดีโอได้เช่นกัน โดยใส่ไฟล์วีดีโอที่เป็น Mpeg4 และ 3GP เท่านั้น แต่เท่าที่ลอง H.264 นั้นไม่สามารถอ่านภาพได้ ซึ่งก็แปลกใจว่าทำไม ทั้ง ๆ ที่เป็น Mpeg4 เหมือน ๆ กันแต่การ Compression ต่างกัน (แต่เสียงออกนะ)

ในส่วนของการแปลงไฟล์วีดีโอจาก format ต่าง ๆ นั้นเดียวไว้ entry หน้าจะมาบอกตัวโปรแกรมแล้วกันนะครับ แต่ว่าตัวนี้เด็ดมาก แถมเป็น GPL license ด้วย ซึ่งหมายถึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือ crack ให้ปวดใจเล่น (แบบผม)

ของที่แถมมาในกล่องทั้งหมด

แถม Memory Strick Pro Duo ขนาด 256MB พร้อมกับ Adapter

เห็นชัด ๆ ตัวเครื่อง สีสวยกว่า W800i ที่ดูมันออกแนวเด็ก ๆ ยังไงไม่รู้

แถม Bluetooth Hand-set HBH-PV700 มาให้ด้วย

สาย Datalink USB

 Wall-Charge

หัวต่อของ Wall-Charge และสาย Datalink เป็นรุ่นใหม่แบบเดียวกับ W800i

ชุด SmallTalk ที่ผมชอบที่สุดชุดนึงเพราะแยกส่วนของหูฟังและไมค์ออกจากกัน สามารถหาหูฟังอื่น ๆ มาใส่ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนชุดไมค์แต่อย่างใด ทำให้เอาหูฟังที่เราคุ้นเลยกันอยู่มาเสียบฟังได้เลย ;)

ได้มาแล้ว Harry Potter And The Goblet Of Fire: 2 Disc Special Edition

วันนี้เห็น VCD Harry Potter And The Goblet Of Fire เลยว่า DVD น่าจะออกแล้ว เลยไปที่ร้าน แล้วปรากฎว่าออกมาแล้ว รู้สึกว่ามันจะมีชุดเดียวในร้านด้วย คงเพราะคนไทยตามต่างจังหวัดโดยส่วนใหญ่ ชอบดูภาพยนต์จากแผ่น VCD มากกว่า แต่ราคาที่ซื้อมาก็ 480 บาท ซึ่งถูกกว่าราคาข้างกล่องที่จากราคา 590 บาท

ประเภท : ภาพยนตร์ต่างประเทศ
แนว : Action
นักแสดง : Daniel Radcliffe , Rupert Grint , Emma Watson
ผู้กำกับ : Mike Newell
ค่าย : Warner Home Video
ระบบเสียง : English 5.1 Dolby Digital , Thai 5.1 Dolby Digital
บทบรรยาย : Bahasa , English , Thai
จอภาพ : Widescreen
เวลา : 157 นาที
จำนวนแผ่น : 2
วันวางจำหน่าย : 4 เม.ย. 2549

เรื่องย่อ แฮร์รี่ฯ ถูกเลือกเป็นตัวแทนเข้าแข่งขันในการประลองเวทไตรภาคี ของพ่อมด ในระหว่างนั้นเอง สาวกแห่งจอมมาร ลอร์ดโวลเดอมอร์. ได้ส่งคลื่นความกลัวปกคลุมทั่วประชาคมพ่อมดและ.แม่มดด้วยตรามารของเขาบนท้องฟ้าที่งานแข่งขัน ควิดดิช เวิลด์คัพ แต่สำหรับแฮร์รี่แล้ว นี่ไม่ใช่ข่าวที่รบกวนจิตใจจนทำให้เขาต้องวิตกกังวลอย่างเดียวเท่านั้น เขายังจะต้องหาคู่ควงเพื่อไปงานเลี้ยงเต้นรำวันคริสต์มาสของฮอกวอตส์ อีกด้วย

ปล. สำหรับคนที่อยากดูภาพใหญ่ให้คลิ้กที่รูปได้เลย เดี่ยวมันจะโชว์ภาพใหญ่ให้ครับ

ประสบการณ์ในการใช้งาน Microsoft Wireless Notebook Optical Mouse 4000

หลาย ๆ คนคงรู้อยู่แล้วว่าผมนั้นเป็นคนที่ใช้เมาส์ยี่ห้อ Microsoft มาแต่ไหนแต่ไร ในหลาย ๆ ตอนของ Weblog ผมก็ได้พูดถึง Microsoft Mouse มาพอสมควร แต่วันนี้จะมาพูดถึง Microsoft Wireless Notebook Optical Mouse 4000 กันครับ ซึ่งเมาส์ตัวนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ Laptop ครับ ตัวเล็กแต่เหมาะมือครับ แรก ๆ อาจจะจับยากหน่อยแต่พอใช้ไปสักพักจะเริ่มชินและใช้งานได้คล่องขึ้นครับ

ด้านบน


ด้านซ้าย


ด้านขวา


ด้านหลัง


ด้านล่าง จะมีที่เก็บเสาสัญญา


เสาสัญญาตัวนี้จะมีขนาดไม่ใหญ่มากครับ ส่งสัญญาได้ประมาณ 1 เมตรกว่า ๆ (แต่ทดลองแล้วได้เกือบ ๆ 2 เมตรครับ)


ขนาดเมื่อเทียบกับมือ


ช่องใส่แบตฯ ครับ

ผมได้ใช้เมาส์ตัวนนี้มาได้เกือบ 3 อาทิตย์แล้ว ในด้านความแม่นยำมีสูงมาก ซึ่งตาม spec คือ 1,000 dpi ครับ ซึ่งสูงกว่าเมาส์ตัวเก่าผมถึง 2 เท่า (Wheel Mouse Optical และ IntelliMouse Optical ได้อ่านจากคนที่ได้ทดสอบน่าจะอยู่ประมาณ 400dpi – 500dpi ครับ และ Wireless IntelliMouse Explorer 2.0 อยู่ที่ 600dpi ครับ) ในตอนแรก ๆ ที่ได้ใช้จะดูว่ามันเคลื่อนที่ได้เร็วมาก และเมื่อปรับระดับการเคลื่อนที่ของตัว Cursor ให้เหมาะสมกับการใช้งาน จะรู้ได้เลยว่าต่างจากตัวเก่าที่ความแม่นยำมากครับ (อาจจะน้อยกว่าบางยี่ห้อที่อยู่ระดับ 1,xxxx – 2,xxxx dpi) ครับ

จริงๆ แล้วอยากได้ Microsoft Wireless Notebook Laser Mouse 6000 มากกว่า แต่ด้วยว่างบไม่พอเลยเอาัตัวนี้ก็พอ แต่ก็ถือว่า ok ในระดับราคา 1,800 บาทครับ

โดย Feature ของมันก็มี

  • Microsoft® High Definition Optical Technology อย่างที่บอกไปแล้วครับว่ามีความละเอียดระดับ 1,000 dpi ครับ
  • Ergonomic Design อันนี้ออกแบบให้เหมาะสมกับมือ และการใช้ครับ ซึ่งทำให้ไม่เมื่อยมือครับ
  • Wireless Freedom เป็นแบบไร้สาย
  • Customizable Buttons มี Software (ไม่ขอเรียกกว่า Driver เพราะว่าเราเสียบแล้วเจอเลย แต่ถ้าต้องการความสามารถมากขึ้นก็ต้องลง Software ไปแทน) แถมมาด้วยครับ สามารถปรับแต่งการใช้งานได้หลากหลาย และสามารถปรับการใช้งานแต่ละปุ่มได้ว่าในแต่ละโปรแกรมที่เราใช้นั้นปุ่มแต่ละปุ่มจะมีหลายที่อะไรบ้าง (อันนี้ผมหล่ะชอบมาก)
  • Comfortable in Either Hand ใช้ได้ทั้งมือซ้ายและขวา
  • Rubber- Sided Grip ตัวเมาส์นั้นใช้แผ่นยางเป็นส่วนประกอบเพื่อการยึดเกาะกับมือไม่ให้หลุดมือได้ง่าย
  • Cutting-Edge Design
  • Smart Receiver ตัวส่งสัญญาที่เล็กและเก็บได้ง่าย แถมยังหาสัญญาเมาส์ให้เองด้วย
  • Laptop/Notebook Portable เหมาะสำหรับ Laptop
  • Longer Battery Life อันนี้แหละที่ชอบมากสำหรับ Mouse Microsoft ซึ่งเป็นสิ่งที่ยี่ห้ออื่นสู้ไม่ได้ครับ อย่างตัวเก่าที่เป็น Wireless ก็ใช้แบตฯ ได้นานถึง 3 เืดือนกว่า ๆ (ใช้งานหนักมาก) ซึ่งถือว่าอึดมากครับ ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นไม่เกิน 2 สัปดาห์คงหมด
  • Scroll side to side เป็น Wheel Scroll แบบ 4 ทิศทางครับ ใช้สะดวกมาในการจัดการเอกสาร, ท่องอินเตอร์เน็ต และทำงานต่าง ๆ ที่ต้องใช้พื้นที่จอที่ล้นออกมาจนต้องใช้ Scroll bar ครับ
  • Magnify อันนี้ไว้สำหรับ Zoom ดูข้อความหรือรูปภาพโดยไม่เสียรายละเอียดครับ เหมาะสำหรับคนที่ชอบอ่านข่าว หรือหนังสือบน Computer ครับ ทำงานเหมือนแว่นขยายครับ