ลองเล่น Oppo Find 5

ตัวนี้นำมาลองเล่นประมาณ 1-2 อาทิตย์โดยประมาณได้ เมื่อสักเดือนสองเดือนได้แล้วครับ ขำนำลงรีวิวสักหน่อย เพราะ draft มานานแหละ

ตัว Oppo Find 5 ถือเป็นมือถือที่มีจุดเด่นที่หน้าจอขนาด 1080p (Full HD) ตัวแรกของตลาดในประเทศไทย และพ่วงตำแหน่งให้หน่วยประมวลผลแบบคอร์ดคอร์ ( 4 Core) มีหน่วยความจำหลักที่ 2GB และกล้องถ่ายรูปความละเอียดขนาด 13 ล้านพิกเซลบนมือถือเป็นรุ่นแรกๆ ที่ขายในไทยอีกด้วย เรามาดูกันว่าตัวเครื่องต่างๆ เป็นยังไงกันบ้าง

ในด้านตัวเครื่องนั้นเป็น Polycarbonate แบบชิ้นเดียว (unibody) มาประกอบกับจอภาพ ทำให้เปลี่ยนแบตและหน่วยความจำเพิ่มเติมไม่ได้ แต่แบตที่ให้มานั้นมีขนาดความจุถึง 2,500 mAh ซึ่งเยอะเลยทีเดียว แต่แน่นอนว่าจอภาพระดับ Full HD ยังไงก็ใช้ทรัพยากรและความจุของแบตเยอะเช่นเดียวกัน

จากที่บอกไปแล้วว่าเป็นหน่วยประมวลผลแบบคอร์ดคอร์ ( 4 Core) โดยเลือกใช้ Qualcomm Snapdragon S4 Pro APQ8064 Quad Core ความเร็ว 1.5 GHz มีหน่วยความจำหลักที่ 2GB ซึ่งจากที่ได้ทดลองใช้นั้นตัว Android 4.1 (Jelly Bean) ก็ลื่นไหนดี พบอาการกระตุกบ้างเล็กน้อย โดยใช้งานหนักๆ ตัวเครื่องจะร้อนพอสมควรและแบตหมดเร็วมากขึ้นเยอะพอสมควร (คิดว่าเป็นปรกติสำหรับมือถือ CPU แรงๆ ไปแล้วมั้ง)

สำหรับหน่วยความจำ 16 GB ที่อยู่ภายในตัวเครื่องอาจจะดูน้อยไปสักหน่อย ถ้าเพิ่มเติมหน่วยความจำภายในไม่ได้ ก็น่าจะให้มาสัก 32GB ก็กำลังดีเลยทีเดียว

การเชื่อมต่อไร้สายมีให้มาครบอันนี้เรือธงคงตามมาตรฐานทั่วไปทั้ง 

  • WiFi (802.11b/g/n/a) ที่รองรับ Portable Wi-Fi Hotspot และใช้งานร่วมกับ DLNA ได้
  • Bluetooth 4.0
  • NFC (Near Field Communication)
  • GPS
  • Digital Compass

สำหรับช่องเชื่อมต่อนั้นมี

  • Micro Sim
  • Micro USB 2.0
  • ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm

DSC_5734
DSC_5738 DSC_5748
DSC_5740 DSC_5743
DSC_5750
DSC_5753 DSC_5752

ตัวชูโรงอย่างที่บอกไปแล้วว่าอยู่ที่ตัวจอภาพเป็นหลักเลย ซึ่งจอภาพแบบ IPS Panel ขนาด 5” ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (441 ppi) แบบ Capacitive Multitouch Screen นั้นให้สีสันและความคมชัดที่เด่นมากๆ เมื่อวางเทียบกับมือถือค่ายอื่นๆ เอาง่ายๆ ว่าวางข้างๆ Nokia Lumia 920 ที่ผมใช้งานอยู่ ภาพบนจอ Oppo Find 5 จะสว่างเด่นกว่าพอสมควร (เปิดความสว่างสุด 100%) แต่แน่นอนว่ากินแบตมากกว่าปรกติครับ ><” (คงต้องยอมรับตรงนี้)

DSC_5755 DSC_5758

ในด้านของตัวระบบปฏิบัติการนั้นเป็น Android version 4.1 หรือชื่อรหัส Jelly Bean ครับ

อย่างที่บอกว่าเป็น Android ที่ถูกปรับแต่งมาไม่เหมือนกับค่ายอื่นๆ เยอะพอสมควร แน่นอนว่าหลายๆ อย่างต้องปรับตัวสักหน่อยสำหรับ OS Android ใน Oppo Find 5 ตัวนี้

โดยโทนของไอคอนและสีของไอคอนนั้นจะออกหวานๆ ใครชอบแนวดุดันอาจจะต้องไปโหลดชุด Theme มาเปลี่ยนแปลงเอง แต่ส่วนใหญ่ก็ได้ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ครับ

จากที่บอกไปแล้วในด้านของการตอบสนองของตัว UI นั้นทำได้ดีครับ การควบคุมอาจจะแตกต่างจากเจ้าอื่นๆ นิดหน่อยพวกปุ่ม Back, Home และ Menu ต่างๆ เรียนรู้สัก 1-2 วันก็ชินแล้ว

สำหรับปัญหาที่เคยเจอใน Oppo Find 3 ก่อนหน้านี้ส่วนใหย่ถูกแก้ไขใน Oppo Find 5 ไปแล้วเยอะเหมือนกัน ทั้งเรื่องของ App ตัว Photos ที่โหลดภาพมาทั้งเครื่อง หรืออาการค้างหรือไม่ยอมจำตัว Launcher ที่ตั้ง default ไว้แล้วไม่จำเป็นต้น (แต่ไม่กลับมาแก้ให้ Find 3 บ้างเหรอ)

SCR_2013-03-01-17-33-53 SCR_2013-03-21-00-17-27

SCR_2013-03-21-00-17-50 SCR_2013-03-21-00-17-57 

SCR_2013-03-21-00-18-06 SCR_2013-03-21-00-18-17

ในด้านของกล้องถ่ายรูปนั้นส่วนตัวไม่ได้ทดสอบมากมายนัก เพราะ Oppo Find 3 ทำได้ดีมากอยู่แล้ว และใน Oppo Find 5 ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันครับ ส่วนตัวแล้วไม่ได้เอาไปถ่ายเยอะมากตอนได้เครื่องมา พอมีโอกาสก็เลยถ่ายมาไม่เยอะมาก

แต่จากรูปด้านล่างที่ถ่ายมาให้ดู ผมถ่ายมาในช่วงเย็นเลือกถ่ายเก็บส่วนที่มืดและสว่างเพื่อให้เห็นว่าการเก็บข้อมูลในส่วนมืดและส่วนสว่างนั้นทำได้ดีแค่ไหน สำหรับการใช้ App อื่นๆ ที่ฉลาดมากขึ้นก็ทำให้ได้ภาพที่ดีมากขึ้นกว่า App Camera ที่มากับเครื่องด้วยเช่นกัน

IMG20130321174946094

IMG20130321175236113

IMG20130321175324710

IMG20130321182946242

IMG20130321182922016

IMG20130321210555108

โดนสับเละ จน Oppo Find 3 ออก ROM ตัวใหม่ ICS 4.0.3 (Oppo v. 4.0.9)

หลังจาก 6 เดือนกับ Oppo Find 3 สับแหลก! ไปเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2555 ที่ผ่านมา

มาวันที่ 17 ต.ค. 2555 ทาง Oppo Thailand ก็ออก ROM ของ Oppo Find 3 ตัวใหม่ ICS 4.0.3 (Oppo v. 4.0.9) โดยอัพเกรดได้ผ่าน OTA ได้แล้ววันนี้ (ต้องใช้เป็น Oppo v.4.0.3 ขึ้นไป) โดยไม่ต้อง Wipe ให้เสียเวลา upgrade ได้เลยสบายๆ ข้อมูลไม่หาย จัดไป!!!

SCR_164558_17102012 SCR_234028_17102012

 

SCR_234227_17102012 SCR_234236_17102012

SCR_234507_17102012

6 เดือนกับ Oppo Find 3 สับแหลก!

มารอบนี้เป็นเรื่องราวการใช้งาน Oppo Find 3 ในช่วงเกือบๆ 6 เดือนที่ผ่านมา

ต้องบอกก่อนว่า ผมซื้อเจ้า Oppo Find 3 ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว (ไปซื้อเครื่องที่งานเปิดตัวเลย) แล้วจริงๆ ผมได้จับและเล่นเครื่องก่อนงานเปิดตัว (เพราะได้ลองเครื่อง demo/review) ส่วนตัวตอนนั้นกำลังเล็ง Sony Xperia S แต่กว่าของจะเข้า ของจะมา กว่าจะได้ซื้อนานมาก แล้วพอได้ลองเครื่องเจ้า Oppo Find 3 ผมก็ว่าโอเคนะ จอภาพสวยงาม ความเร็วของเครื่องก็เร็วดีมาก กล้องก็ถ่ายออกมาชัดดีด้วย หน่วยความจำที่ให้มาก็ถือว่าสมราคา แม้วัสดุฝาหลังจะดูแปลกๆ แต่โดยรวมแล้วตัวเครื่องนั้นงานประกอบดีมาก

DSC_8675 DSC_8676

DSC_8687 DSC_8693

ถ้าถามว่าจะให้ติส่วนไหน จริงๆ ต้องบอกว่าคงเป็นฝาหลัง แล้วก็ที่ปิด ช่อง microUSB ที่ดูจะลำบากมากเวลาจะใช้งานสักหน่อย (ผมใช้ไปสักพักรำคาญ เลยดึงออกมันซะเลย)

ซึ่งตอนซื้อผมได้แถมเคส ฟิล์มกันรอยหน้าจอ และแบตก้อนที่สอง มาด้วย คือใช้งานไปสักพักเลยเข้าใจเลยว่าแถมแบตก้อนที่สองนั้นสำคัญมาก เพราะแบตหมดเร็วพอสมควรเลย

สำหรับคุณภาพเสียงจากลำโพงที่ตัวเครื่องนั้นผมว่าทำได้ดีนะ เสียงที่ได้มีแบสออกมาเป็นลูกๆ เลย ดูใส่ใจ และให้ความสำคัญกับลำโพงที่เครื่องโทรศัพท์ดีครับ เปิดฟังเพลงแทนลำโพงตั้งโต๊ะก็พอไหวนะ

สำหรับเรื่องกล้องนั้นการถ่ายรูปทำได้ดีครับ หน่วงๆ บ้าง ก็พอเข้าใจได้ คงเอาไปสู้กับ Samsung Galaxy Nexus ที่ผมเคยได้ลองใช้ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ห่างกันมาก การถ่าย HDR ทำได้ดีเลยแหละ

(ไฟล์รูป Original คลิ้กจากรูปได้เลย)

IMG20120727141114

IMG20120604180622 IMG20120418131556

IMG_20120907_204725 IMG_20120907_204840 (2)

IMG20120907132329 IMG20120805224049

IMG20120517190609 IMG20120826211311

IMG20120824063019

สำหรับสเปคคงหากันไม่ยากนะครับ

SCR_20120517_011853
คะแนน benchmark เครื่องที่ผมมีอยู่

ซึ่งจากที่ใช้มา ตัวเครื่องมันมี Storage อยู่ 3 ส่วน คือ Phone (2GB), Internal storage (16GB) และ microSD Card (ผมใส่ไป 16GB Class 10) จากที่ใช้มาก็ไม่ค่อยได้ใส่อะไรหนักๆ เท่าไหร่ (นอกจาก MV/VDO) แล้วเพลงก็ไม่ได้ใส่ เพราะมี iPod nano กับ iPod Touch ใช้งานแยกต่างหากอยู่แล้ว (ผมมักแยกในเรื่องนี้ เพราะจะได้ทำงานสะดวก และไม่ต้องพะวงเรื่องแต)

SCR_20120625_180825 SCR_20120625_180658

ตัว OS ตอนแรกที่ผมได้มานั้นเป็น Android 2.3.6 (Gingerbread) โดยเป็น version 3.05 (version ของ Oppo ที่เรียกลำดับของ ROM ตัวเอง) ช่วง 1-3 เดือนแรกของการใช้ Oppo Find 3 เป็นไปด้วยความยากลำบากในการใช้งานอยู่พอสมควร ด้วยความที่ ROM ของ Oppo Find 3 นั้นมีปัญหาในเรื่องของการจับสัญญาณ AIS และการติดต่อ Internet จน Connection overflow และทำให้เกิดปัญหาเครื่อง restart อยู่บ่อยครั้ง คือใช้ๆ อยู่ ถ้าเริ่มต่อ Internet ไม่ได้ แล้วดันทุรังใช้งานไป เครื่องจะ restart ทันที!!! ซึ่งเป็นบ่อยมาก วันนึงไม่ต่ำกว่า 10 รอบ (ผมเป็นคนใช้งาน Internet บ่อยมาก) หรือบางครั้งโทรศัพท์อยู่ ก็ดัน Restart ไปซะอย่างนั้น ทำให้การติดต่อสื่อสารเริ่มมีปัญหา ผมบ่นๆ ใน twitter ไปหลายรอบ จนทางทีมงาน Oppo Thai ติดต่อกลับมาเพื่อรับทราบปัญหาและแก้ไข ซึ่งส่วนตัวในตอนนั้นก็ประทับใจในการใส่ใจ จนเริ่มเสถียรตอน Android 2.3.6 version 3.15 ได้ ปัญหาเรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งส่วนตัวก็ประทับใจ

จนทาง Oppo Thai ออก ROM ตัวใหม่ Android 4.0 (Ice Cream Sandwich) โดยเป็น version 4.03 (version ของ Oppo ที่เรียกลำดับของ ROM ตัวเอง) พออัพ ก็งานเข้าเลย เกิดอาการแฮงกระจาย และมีออก version 4.06 ออกมา ก็คิดว่าจะแก้ไขปัญหา ดันมีปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีก งั้นผมลิสรายการปัญหาทั้งหมดเลยแล้วกัน ><”

  1. เครื่องแบตหมดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ 4-5 ชั่วโมงแบตเหลือ 20% (หรือต่ำกว่า) ทั้งๆ ที่ปิด 3G แล้วนะ
    (GPS และ AutoSync ก็ปิด แต่เหมือนตัว Bar ที่ใช้ในการปิดมันจะใช้งานได้บ้างไม่ได้บ้าง เพราะเห็นขึ้น AutoSync ขึ้นมาทั้งที่ปิดไปแล้ว)
  2. เครื่องร้อนกว่าปรกติ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เปิด Apps อะไรด้านหลังเยอะแยะ เกมก็ไม่มีสักเกม
  3. การใช้งานร่วมกับ Apps ที่เชื่อมต่อ Internet ตลอดเวลา หรือพวก Push ต่างๆ โดยเฉพาะ Apps ที่เกี่ยวกับ Chat ทั้งหมดถ้าลง ROM ใหม่ๆ จะโดน Apps ที่จัดการเรื่อง Security (บ้าบอสักตัว) มาคอยปิด Apps หรือ block การเชื่อมต่อไว้ ทำให้ไม่แจ้งเตือน ต้องไปตั้งค่าใน Security ให้ allow เป็นราย Apps ไป (ส่วนตัวผมปิดมันไปเลย) แล้วแบบนี้คนใช้งานทั่วไป ใครมันจะไปรู้ครับ
  4. การกดวางสายตอนโทรศัพท์ชอบค้างไปดื้อๆ ทำให้วางสายไม่ได้ หรือวางสายช้ากว่าที่ควรจะเป็น (กดวางแล้วไม่ยอมวาง บางครั้งต้องถอดแบตออกก็มีมาแล้ว)
  5. ระบบการแจ้งเตือน Data plan ที่ใช้เกิน (data exceed) ไม่มีที่ปิด หรือกำหนด!!! เหมือนมันหายไปตอน Android 4.0 และไม่มีที่ให้ปรับ หรือยกเลิกแจ้งเตือน
  6. เมื่อ restart เครื่อง ในส่วน Notification Bar บอกปิด 3G แต่สัญลักษณ์เชื่อมต่อคือ H หรือเชื่อมต่อ 3G อยู่ ต้องมาไล่ปิด-เปิดใหม่อีกรอบ
  7. Apps “Photos” ที่ให้มากับเครื่องนั้นโดยรวมดี แต่มีปัญหาในการที่มันไปวิ่ง scan หารูปใน directory ของระบบทุกๆ path/mount ของระบบเลย พวกลากเอาทั้ง cache image ของ Apps ต่างๆ มาด้วย ทำให้ใช้งานจริง ไม่ได้ เพราะรกและหาไฟล์รูปจริงๆ ที่มียากมากจนต้องใช้ ES File Explorer และ JustPictures มาใช้แทน
  8. Home Screen/Luncher ถ้าใช้ของตัวอื่นที่ไม่ใช่ของ Oppo จะมีปัญหาชอบ reset ตัวเอง และบางครั้งตอน restart เครื่อง กลับมา ก็จะ reset ไปใช้ของ Oppo (เครื่องมันความจำเสื่อมหรือไง)
  9. Icon ของ App ไร้รสนิยมมาก เป็นมาตั้งแต่ Android 2.3.6 ควรเปลี่ยนหรือทำให้มันเปลี่ยนได้ด้วย ผมรับไม่ได้ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ผมเปลี่ยน Home Screen และต้องมาโหลด Icon pack เสียเงินเพิ่มอีก
  10. ปัญหาเครื่อง restart/reset ตัวเองกลับมาอีกแล้ว รอบนี้ผมไม่ได้ใช้ AIS แต่เป็น dtac ซึ่งสัญญาณ Internet ดีกว่ามาก เพราะงั้นปัญหาเดิมไม่น่าใช่ วางๆ อยู่เฉยๆ มัน restart ไปดื้อๆ เลย หรือโทรศัพท์อยู่ดัน restart ตัวเอง (คุยงานอยู่ด้วยนะ) นี่ถ้าไอ้คนใช้คนนั้นมันกำลังทะเลาะกับสาว มันไม่โดนงอนตายเหรอว่าวางหูใส่ ><”
  11. อยู่ๆ ก็ เกิดอาการเล่นเพลงกระตุก (ไม่เคยเกิดขึ้นตอน Android 2.3.6)
  12. OTA มีเหมือนไม่มี ตอน Android 2.3.6 นั้นผมอัพผ่าน OTA และผ่านเว็บ มีให้โหลดแบบรู้สึกได้ถึงความใส่ใจ แต่ใน Android 4.0 ต้องเข้า ศ. ไปอัพเท่านั้น OTA ไร้การตอบรับ การดาวน์โหลดผ่านเว็บโดนถอดออก
  13. ใน Android 4.0 ในส่วนของ ROM นั้น Oppo Find 3 ไร้การสนันสนุนอย่างเห็นได้ชัด มีการออก ROM มาให้โหลด 2 ตัว ระยะห่างกันประมาณ 1 เดือน และรอบล่าสุดก็เงียบหายไปนานแล้ว (คิดว่าประมาณ 1 เดือนเกือบๆ 2 เดือน) ตอน Android 2.3.6 ออก ROM และแก้ไขปัญหาเกือบทุกอาทิตย์ มีการสนับสนุนที่ดีกว่าในตอนนี้มาก (ตอนนั้นประทับใจมาก) สรุปคือทิ้งคนใช้ Oppo Find 3 ที่เปิดตลาดคุณไปแล้วเหรอ เห็นออก ROM ตัว Oppo Finder รวดเร็วทันใจมาก ส่วนคนใช้ Oppo Find 3 นั่งมองแบบงงๆ นี่เราลูกเมียน้อยหรือไง
  14. การ root หรือ custom ROM ของ Oppo Find 3 มีคนเล่นน้อย เอกสารหายาก คนเริ่มขาย Find 3 ทิ้งกันเยอะ ส่วนตัวผมก็กำลังนั่งคิดว่าจะไปใช้ Pure Google อย่าง Samsung Galaxy Nexus หรือตัวอื่นๆ ที่เป็น Pure Google ที่รองรับ Android 4.1 (หรือ 4.2 ในอนาคต) เพราะรอไม่ไหวกับการสนับสนุนแบบตามมีตามเกิดแบบนี้ (เข้าไปดู Webboard ของ Officialได้คนใช้แนะนำและช่วยเหลือกันเองซะเยอะ)
  15. การอัพ ROM แต่ละครั้งต้อง wipe แบบ all และ erase cache/userdata ทิ้งทั้งหมด แล้วต้องมานั่งลง Apps ใหม่ นั่ง config ใหม่ตลอด (เสียเวลาไป 1 วัน) ตอน Android 2.3.6 ยังดีหน่อย มี patch ให้ แต่ตอน Android 4.0 ต้อง wipe แถมต้องมา erase cache/userdata เองก่อนลง ไม่งั้นจะเจอข้ออ้างว่าที่มันแฮงเพราะคุณไม่ erase cache/userdata ก่อนติดตั้งให่ แล้ว User ที่ไหนมันจะมานั่งทำ ผมเป็น Power User ยังเบื่อเลย ><”

เล่าไม่หมด เอาแค่นี้ก่อนแล้วกัน เยอะมาก ผมเฝ้ารอ ROM ตัวใหม่ของ Oppo Find 3 ที่แก้ไขปัญหา ผ่านเว็บ (ผมไม่มีเวลาไป ศ. หรอกนะ) ผมก็หวังว่าจะไม่หมดความอดทนไปใช้ยี่ห้ออื่นก่อนก็แล้วกันนะ