ลบ Lenovo Customer Feedback Program ออกจากเครื่องยี่ห้อ Lenovo บางรุ่น (ซอฟต์แวร์เก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานโดยไม่แจ้งลูกค้า)

จากข่าว พบเครื่องแบบ Refurbished ของ Lenovo สาย ThinkPad มีการติดตั้งซอฟต์แวร์ส่งข้อมูล และ Lenovo collects usage data on ThinkPad, ThinkCentre and ThinkStation PCs เพราะมีการตรวจสอบพบว่าเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานโดยไม่แจ้งลูกค้า

ทำให้ต้องมาตรวจสอบเครื่องตัวเองสักเล็กน้อยแล้วพบว่า เครื่อง Lenovo ThinkPad R420 ที่ใช้งานอยู่ มีซอฟต์แวร์ตามข่าวจริง และไม่ใช่เครื่อง refurbished แต่เป็นเครื่องมือหนึ่ง ที่ซื้อจากร้านค้าปลีกของ Lenovo โดยตรง (อายุ 4 ปีเกือบๆ 5 ปีแล้ว)

2015-09-26_142631

โดยซอฟต์แวร์ดังกล่าวชื่อ Lenovo.TVT.CustomerFeedback.Agent.exe โดยอยู่ที่ C:\Program Files (x86)\Lenovo\Customer Feedback Program จากการตรวจสอบจะมี Library ที่ Lenovo ใช้งานอยู่ด้วยที่ C:\Program Files (x86)\Lenovo\MetricCollectionSDK  โดยโปรแกรมจะทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูล และมีการส่งข้อมูลกลับไปยัง Lenovo เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมผู้ใช้งานโดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่ามีการติดตั้งและเก็บข้อมูลอะไรบ้าง

วิธีการนำออกจากเครื่องนั้นยุ่งยากและไม่ตรงไปตรงมา เพราะไม่สามารถนำออกได้ผ่านทาง Program and  Features ใน Control Panel ได้ ส่อพฤติกรรมน่าสงสัยหนักขึ้นไปอีก

จากการตรวจสอบเอกสารบนเว็บของ Lenovo พบเนื้อหาที่เพิ่งถูกนำขึ้นไปในหัวข้อ Lenovo systems may include software components that communicate with servers on the internet – All ThinkCentre, All ThinkStation, All ThinkPad โดยมีวิธีการนำออกซึ่งยากสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปพอสมควร

วิธีการนำออก

เปิด Command Promplt (Administrator mode)

2015-09-26_145743

พิมพ์คำสั่ง

schtasks /Delete /tn "Lenovo\Lenovo Customer Feedback Program" /f
schtasks /Delete /tn "Lenovo\Lenovo Customer Feedback Program 64" /f
schtasks /Delete /tn "Lenovo\Lenovo Customer Feedback Program 64 35" /f

มันเป็นคำสั่งไปลบตัว Lenovo Customer Feedback Program ออกจาก Task Scheduler

ตรวจสอบได้ผ่าน Administrative Tools -> Task Scheduler -> Task Scheduler Library -> Lenovo

2015-09-26_145345

พอไม่มีอยู่ใน Task Scheduler แล้ว จึงไปลบ folder ทั้งสองตัวทิ้งอีกรอบหนึ่ง

  • C:\Program Files (x86)\Lenovo\Customer Feedback Program
  • C:\Program Files (x86)\Lenovo\MetricCollectionSDK

2015-09-26_150057

ทำเสร็จแล้วก็ restart เครื่อง ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการนำมันออกจากเครื่อง

แบรนด์ ThinkPad กำลังหลงทาง! Adaptive Keyboard ปี 2014 เป็นการปรับเปลี่ยนที่ “ห่วยแตก” ที่สุด

เป็น blog เรื่องใหม่ใน Lenovo Blogs รับปี 2014 ที่ทำให้เหล่าผู้ใช้งานและแฟนๆ ThinkPad ต้องส่ายหน้าอีกครั้ง หลังจากส่ายหน้ารับไม่ได้มา 2 ปีติด และนี่คือปีที่ 3 กับ Adaptive Keyboard ตัวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปพร้อมกับ ThinkPad X1 Carbon รุ่นปี 2014 โดยส่วนตัว ThinkPad X1 Carbon ไม่มีอะไรน่าสนใจมากนัก นอกจากจอภาพ 14 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1440 pixel แบบ IPS ในราคาสุดโหดที่เริ่มต้น $1,299

New_ThinkPad_X1_Carbon_Adaptive_Keyboard

ประเด็นที่น่าสนใจ และสร้างความผิดหวังให้กับผมคือ Adaptive Keyboard นั่นเอง การออกแบบใหม่ที่ไร้ซึ่งจุดมุ่งหมายเพื่อใช้งานจริงได้อย่างสะดวกสบาย กลุ่มเป้าหมายที่ใช้งานที่แบรนด์ ThinkPad วางไว้ ไม่ได้รับความสะดวกอย่างที่สุด เรามาดูกันว่าทำไมถึงกล่าวขนาดนี้ (เท่าที่จะสามารถหาภาพและสังเกตได้)

  1. การตัดปุ่ม function keys F ออกไปทั้งหมด สร้างความไม่สะดวกอย่างมากกับกลุ่มผู้ใช้งาน ThinkPad ที่ต้องทำงานหลากหลาย Operating System และ applictaion เก่า-ใหม่มากมาย ซึ่งยังคงใช้งาน function keys F อยู่มากมาย
  2. การตัดปุ่ม Fn key ออกและใช้ adaptive key ไปแทนที่ function keys F แทน ดูเหมือนสะดวก แต่นั่นทำให้การตั้งค่าต่างๆ บน ThinkPad เมื่อใช้กับ Operating System อื่นๆ ที่ไม่ใช่ Windows นั้นมีปัญหา เพราะ Operating System อื่นๆ ก็ใช้ Fn key ร่วมกับปุ่มอื่นๆ มีปัญหา
  3. การตัด CapsLock ออกและแทนที่ด้วย Home/End keys ทำให้ความต่อเนื่องในการทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ สลับกับโน๊ตบุ๊ค หรือคีย์บอร์ดอื่นๆ ทำได้ยากจนสร้างความสับสน
  4. ยังคงถอดเอาปุ่ม TrackPoint ออกไป สร้างความไม่สะดวกอย่างที่สุด
  5. การเอา Backspace key กับ Delete key มาไว้ใกล้กัน ดูเหมือนดี แต่ใช้งานไม่สะดวกอย่างมาก ทำให้กดพลาด และใช้สลับกันได้ง่าย
  6. การย้ายปุ่ม ~/` มาอยู่ตรงบริเวณระหว่าง Alt – Ctrl ด้านขวา, การปรับขนาดปุ่ม dash (-) และปุ่มเครื่องหมายเท่ากับ (=) ให้เล็กกว่าปุ่มอื่นๆ สร้างความปวดหัว ใช้งานยากให้กับ programmer และผู้ใช้งานที่เป็น system administrator อย่างมาก

สุดท้ายการปรับเปลี่ยนครั้งนนี้ เป็นการปรับเปลี่ยนที่ “ห่วยแตก” ที่สุดนับตั้งแต่เปลี่ยนรูปแบบคีย์บอร์ดมาหลังปี 2012 ที่เปิดตัว ThinkPad X1 AccuType keyboard และผมเชื่อว่า ThinkPad กำลังหลงทาง และผมจะไม่ซื้อแน่นอน! (10 เหตุผลที่ผมจะไม่ซื้อ ThinkPad เครื่องต่อไป)

อ่านความหลังของคีย์บอร์ดที่ผมเชื่อว่าคนใช้ ThinkPad จะบอกกับทุกคนว่า มันคือ “คีย์บอร์ดที่ดีที่สุดในโลกของโน็ตบุ๊ค” ได้ที่ กว่าจะมาเป็น ThinkPad X1 AccuType keyboard! (ThinkPad Keyboard V.2012)

lenovo-x1-carbon-20141_2040_verge_super_wide

lenovo-x1-carbon-20142_2040_verge_super_wide lenovo-x1-carbon-20147_2040_verge_super_wide

lenovo-x1-carbon-20149_2040_verge_super_wide lenovo-x1-carbon-201410_2040_verge_super_wide

รูปจาก

– Products – Lenovo Blogs – Lightweight and Virtually Indestructible: Introducing the New ThinkPad X1 Carbon

– The Verge – With the X1 Carbon, Lenovo refines its best ultrabook

เรื่องมากก็ตายรัง

การเป็นคนที่เรื่องมากในการเลือก Notebook เครื่องหลัก ทำให้ตัวเลือกถูกบังคับให้ใช้ ThinkPad แน่ๆ แล้ว เพราะตัวเลือกอื่นในตลาดยังหามาจอบโจทย์ตัวเองได้ยากมาก เพราะความต้องการภาคบังคับมันคือ

  • มีช่องใส่ HDD 2.5″ ได้ 2 ช่อง (bay หรือเอา optical drive ออกแล้วใส่ HDD ตัวที่สองได้ เพื่อทำ SSD+HDD)
  • รองรับ WWAN ใส่ SIM ได้ทันทีเพื่อ online ผ่าน 3G/4G จาก Notebook ได้
  • จอภาพ anti-glare ขั้นต่ำ 14 นิ้ว
  • port VGA และ Gigabit ethernet
  • มี Trackpoint

ตัวเลือกเพิ่มเติมของเครื่องรุ่นต่อไป

  • จอภาพต้อง Full HD 1080p แบบ IPS
  • ใส่ RAM ได้ไม่ต่ำกว่า 16GB และเพิ่มได้ทะลุ 32GB

ส่วนคีย์บอร์ดนี่มันภาคบังคับอยู่แล้ว แต่ก็อย่างที่รู้ๆ กัน แต่เอาเหอะ ถือว่าทำใจมาได้ปีสองปีแหละช่างมัน ><“

คาดว่าตัวเลือกในปีหน้าคงเป็น T450 และสั่งประกอบแบบ CTO จาก US เอาแล้วกัน เพราะคาดว่า Lenovo ประเทศไทยคงไม่เอา Full HD แบบ IPS มาขายแน่ๆ T_T

Lenovo เปิดตัว ThinkPad T440s อัลตร้าบุ๊กสำหรับธุรกิจที่มาพร้อม Intel Haswell และหน้าจอระดับ Full HD

หลังจากปล่อย ThinkPad T431s ออกมาหลายเดือนก่อนหน้านี้และเสียวิจารณ์ในแง่ไม่ดีอย่างมากมาย ในวันนี้ Lenovo ก็ปล่อย series ที่ 4 ในสาย T Series ออกมาแก้ข้อผิดพลาดในหลายๆ ซึ่งเป็นสายของ 4th generation Intel Core (Haswell) เสียที โดยรุ่นที่ประเดิมก่อนคือรุ่น ThinkPad T440s ผ่านหน้าเว็บของ lenovo.com (โดยที่ 4 ในหลักสิบคือGeneration ของ Intel Core)

lenovo-laptop-thinkpad-t440s-front-1

คุณสมบัติคราวๆ คือ

  • ความหนาน้อยสุดที่ 21mm และมีน้ำหนัก 1.62kg
  • คีย์บอร์ดแบบ AccuType keyboard แบบใหม่ที่ปรับปรุงดีขึ้นในเรื่องการแบ่งกลุ่มปุ่ม function key
  • เปลี่ยนจากสีดำสนิทตามแบบฉบับที่มีมายาวนานกว่า 20 ปีเป็นสีดำกราไฟต์
  • ใช้ Carbon fiber ร่วมกับ magnesium ในการทำฝาหลัง
  • บานพับแบบปรกติเป็น Drop Down Hinge ตามสมัยนิยม
  • TrackPad ตัวใหม่ที่ใหญ่มากขึ้นตามแบบ ThinkPad X1 และเป็น Buttonless แบบเดียวกับ Macbook Pro
  • Trackpoint แบบ Buttonless และปุ่มกดถูกซ้อนอยู่ที่บริเวณด้านบนของ TrackPad
  • ตะขอที่ขอบจอด้านบนถูกนำออกไปและใช้แม่เหล็กแทนแบบเดียวกับ ThinkPad X1
  • จอภาพ 14 นิ้วแบบ IPS Panel ความละเอียดขนาด HD+ (1,600×900) หรือ Full HD (1920 x 1080)
  • ไม่มี ThinkLight
  • ไม่มี Optical drive
  • ออกแบบแบตเตอรี่เป็นแบบ Power Bridge Battery คือมีแบตภายในตัวเครื่องขนาด 3 cell และแบตภายนอกทำงานร่วมกันสามารถถอดเปลี่ยนได้ทำให้สามารถถอดแบตเปลี่ยนต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง
  • ให้ NFC, SD Card reader และ Smart card reader
  • มี VGA Port และ mini DisplayPort
  • มี Dual noise-canceling microphones และ Dolby Speakers with Home Theater v4 มาให้ในตัว
  • ให้ USB 3.0 มา 3 ports
  • มี 720p HD Webcam

สำหรับรุ่น CPU ของ Intel ที่จะนำมาใส่ ใช้ RAM เท่าไหร่ มี HDD/SDD ขนาดไหน หรือราคาขายอยู่ที่เท่าไหร่บ้างนั้น ยังไม่มีข้อมูลในขณะนี้

lenovo-laptop-thinkpad-t440s-overhead-keyboard-2

lenovo-laptop-thinkpad-t440s-keyboard-zoom-6

10 เหตุผลที่ผมจะไม่ซื้อ ThinkPad เครื่องต่อไป

คาดว่าจะเป็นโพสสุดท้ายเกี่ยวกับของเรื่อง ThinkPad ตัวล่าสุดที่เพิ่งออกมาแล้ว (คงไปเขียนเรื่องอื่นต่อ) เพราะด้วยเหตุผลว่า T Series นั้นเป็นรหัสรุ่นที่ถือเป็น Flagship ของ ThinkPad มาอย่างยาวนาน และการออกแบบรุ่น ThinkPad T431s นั้นเป็นการประกาศอย่างชัดเจนว่าต่อไป ThinkPad จะเป็นอย่างไรต่อไป แถมใน New T431s Illustrates How ThinkPad Loyalists, Techies and the People Will Define Future Design  ที่อยู่ใน Official Blog ก็โดนสับเละจากความคิดเห็นกว่าร้อยความคิดเห็น (ณ วันที่โพส)

ด้านล่างคือมุมมองของ “สาวก” ใจสลายแบบผม แน่นอนว่าทุกอย่างบนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการเฝ้ามองของคนที่เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาที่ได้ใช้ ThinkPad มาเกือบ 10 ปี รวมถึงคนรอบข้างอีกหลายคนที่ใช้งานมาก่อนผมอีกหลาย generation ซึ่งหลายๆ คนก็ได้ทิ้ง ThinkPad ไปใช้ยี่ห้ออื่นก่อนหน้านี้แล้ว (ช่วงปี 2012 ที่ผ่านมา)

  1. ThinkPad กำลังเป็น Macbook Pro สีดำ
    คนซื้อ ThinkPad เพราะความเป็น ThinkPad มีความเป็น Engineering นำหน้า Design มีแนวคิดที่แตกต่างจากการออกแบบของ Apple และนั้นคือสิ่งที่ ThinkPad แตกต่าง และคนส่วนใหญ่ซื้อ ThinkPad เพราะความแตกต่าง แต่ในตอนนี้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา วิธีคิดแบบนี้ใช้ไม่ได้อีกต่อ และนั้นก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องซื้อ ThinkPad มาใช้เพราะไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างจากยี่ห้ออื่นๆ ทั้งๆ ที่ Lenovo ประกาศชัดว่าตัวเองจะเป็นคู่แข่งกับ Apple ในตลาดบน แต่ในความเป็นจริง คือพยายามตามงานและลอกแบบ Apple มาขายลูกค้าด้วยเหตุผลในด้านการแบบ ซึ่งนั้นเองคือสิ่งที่ “ผิด” และผลักกลุ่มคนที่ต้องการความแตกต่าง หาทางเลือกที่ดีกว่าจากยี่ห้ออื่นๆ แทน เช่น Dell Latitude, Sony Vaio หรือ Toshiba Portégé มาใช้งานแทน
  2. คีย์บอร์ดแบบ 6 แถว (6 rows Keyboard)
    มันเป็นความเลวร้ายที่สุดของการออกแบบในช่วง 2 ปีหลังของ ThinkPad (2012 – 2013) แม้ว่าสัมผัสในการพิมพ์จะยังอยู่ดี แต่การนำไปใช้งานสำหรับ System Admin และ Programmer นั้นกลับแย่ลงอย่างมาก เพราะการจัดวางปุ่มบางปุ่มนั้นอยู่ชิดกันเกินไป หรือปุ่มที่ถูกใช้งานบ่อยๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ Fn Key ร่วมด้วย แต่ในคีย์บอร์ดรุ่นใหม่กลับต้องใช้ และนั้นทำให้เกิดการสะดุดในการใช้งานอย่างมาก แถมมันทำงานร่วมกับ OS อื่นๆ ได้ลำบาก เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้ซื้อไปใช้กับ Windows เท่านั้น แต่ใช้งานร่วมกับ Linux หรือ Unix ด้วย อีกทั้งมันทำให้การใช้งานร่วมกับ Desktop Computer เป็นเรื่องยาก เพราะการจัดวางตัวปุ่มต่างๆ นั้นทำให้สลับไป-มาระหว่าง Desktop และ Notebook นั้นมีประสบการณ์ในการใช้งานที่ไม่สมานกัน และนั้นเป็นเหตุผลเดียวกับที่ keyboard ของ Apple ทั้ง Desktop keyboard ใน iMac และ Notebook keyboard ใน Macbook Pro นั้นมีขนาดและการจัดวางที่เหมือนกัน เมื่อ Lenovo เลือกทางนี้แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะซื้อ ThinkPad มาใช้งาน
  3. นำปุ่ม Physical ของ TrackPoint ออกไป
    มันเป็นการออกแบบที่ไร้สาระและทำให้ตอนใช้งานจริงนั้นผู้ใช้ต้องทำงานโดยย้ายย้ายมือออกจาก keyboard อย่างแน่นอน เพราะโซนด้านบนของ TouchPad นั้นเป็นส่วนที่ถูกนำมาเป็น gesture command ของ Windows 8 และนั้นทำให้การใช้ top zone มาแทนที่ Physical Button ทำงานผิดพลาดได้ง่ายมากขึ้น
  4. รูปแบบ Bento Box ที่หายไป
    การออกแบบเครื่องแบบ Bento Box ทำให้จอภาพยังคงความแข็งแรง และทนต่อแรงกดทับจากการใส่กระเป๋าได้ดีมาก แต่ตอนนี้มันได้หายไปแล้ว
  5. แบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนไม่ได้
    การถอดแบตเตอรี่ไม่ได้ใน Business Notebook เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้อย่างรุนแรง เพราะแบตเตอรี่เป็นส่วนที่แตกต่างและเป็นเหตุผลที่ผมไม่ซื้อ Macbook Air มาใช้ รวมไปถึงไม่แนะนำใครให้ซื้อ ThinkPad X1 มาใช้งาน เพราะสุดท้ายผู้ใช้งานก็ต้องการเปลี่ยนมันได้ง่ายๆ ถ้ามันมีปัญหา เสื่อม หรือต้องการซื้อแบตเตอรี่ก้อนที่ 2 เพื่อทำงานได้ยาวนานมากขึ้นโดยไม่ต้องชาร์จไปด้วย และนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้ Notebook แบบถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ยังขายได้สำหรับคนทำงานด้านธุรกิจ เพราะทำให้เค้าทำงานอย่างยาวนานระหว่างการเดินทางได้
  6. จอภาพที่ไม่มีการพัฒนาและไม่ใช่จอแบบสัมผัส
    นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจอภาพของ ThinkPad ไม่มีการเปลี่ยนแปลง Resolution มาอย่างยาวนาน ซึ่งในอดีต ThinkPad เคยเป็นผู้นำในด้านจอภาพที่มีความละเอียดสูง ตัวอย่างเช่น ThinkPad T43p ที่จอภาพขนาด 14.1″ ที่ความละเอียด 1400×1050 pixels หรือ 15.0″ FlexView LCD (IPS panel) ความละเอียด 1600×1200 pixels แต่นั้นคือ IBM ThinkPad รุ่นปี 2005 และนี่ปี 2013 ผ่านมา 8 ปี ThinkPad T431s กลับไม่มีพัฒนาการในด้านนี้ที่แต่กลับเป็นผู้ตามในตลาดแทน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับจอภาพมือถือสมัยใหม่ก็มีความละเอียดมากกว่าจอภาพ ThinkPad T431s ไปแล้ว และจอภาพขั้นต่ำที่ ThinkPad ที่ขายในปัจจุบันต้องเป็นผู้นำคือ 1080p หรือ Full HD เป็นอย่างน้อยด้วยซ้ำไป ซึ่งแน่นอนว่า ThinkPad ถูกขายพร้อมกับ Windows 8 ที่เป็นระบบปฎิบัติการตัวล่าสุดของ Micrsoft ที่ชูจุดเด่นด้านการใช้งานร่วมกับจอภาพแบบสัมผัส จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ขายมาพร้อมกับจอภาพแบบสัมผัสถ้าอยากให้ ThinkPad เป็นผู้นำด้านเทคโนโลียีจอภาพและทำงานร่วมกับ Windows 8 ได้ดี
  7. ไฟสัญลักษณ์ที่ไร้รสนิยมและไฟแสดงผลการทำงานอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่องที่หายไป (Indicator LED Panel)
    มันเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราทราบว่ตอนนี้เครื่องยังทำงานได้ดีอยู่หรือไม่โดยไม่จำเป็นต้องกดปุ่มใดๆ เพื่อให้ระบบปฎิบัติการแสดงผล Onscreen indicator ซึ่งการเอาออกไปทำให้ผู้ใช้งานไม่ทราบว่าอะไรทำงานไม่ทำงาน และแทนที่ด้วยไฟสีแดงที่จุดตัว i บนตัวสัญลักษณ์ ThinkPad ที่ไร้ประโยชน์และดูแลรักษายาก และดูไร้รสนิยม (นึกถึงจุดสีแดงกระพริบตอน Standby ดูซิว่ามันจะเหมือนผีกระสือแค่ไหน ><“)
  8. การนำ ThinkLight ออกจากการออกแบบตัวเครื่อง
    ใน ThinkPad Edge และ ThinkPad X1 นั้นไร้เงาจากไฟส่องคีย์บอร์ดจากขอบจอภาพด้านบน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สำหรับ Business Notebook ที่ต้องใช้ทำงานได้ตลอดการเดินทางแล้วนั้น มันไม่ได้ถูกใช้งานเพียงแค่ส่องลงมาที่คีย์บอร์ดเท่านั้น แต่ยังใช้งานในการส่องเอกสารต่างๆ ได้ด้วย และการนำมันออกไปทำให้การเลือกใช้ในการเดินทางยาวนานนั้นต้องมีภาระในการซื้อไฟฉายส่องเอกสารเพิ่มเข้ามา เพราะ Keyboard Backlit ทดแทนในเรื่องการนำมาส่องเอกสารไม่ได้นั้นเอง
  9. งานประกอบ ความทนทานของเครื่อง และ ศ. บริการที่แย่ลง
    ThinkPad ในปัจจุบันนั้นผ่าน Military Grade มากกว่ารุ่นเก่าๆ ในอดีต สำนักรีวิวให้คำชมมากมาย แต่นั้นเหมือนเป็นการติดภาพในอดีตเสียมาก เพราะงานประกอบและสัมผัสในการใช้งานที่ผู้ซื้อได้รับกลับไม่ได้เป็นไปตามคำโฆษณาที่พูดไว้เช่นเดียวกับ ThinkPad ในอดีต เพราะเครื่องที่ขายในช่วง 2-3 ปีให้หลังเหมือนกำลังกินบุญเก่าที่เคยทำไว้อยู่มาก มันออกแบบมาทนทานน้อยลง มีเหตุให้ต้องเข้า ศ. บริการมากขึ้น อีกทั้ง ศ. บริการที่เคยให้บริการอย่างดีและทำงานอย่างมืออาชีพในอดีตนั้น ในปัจจุบันกลับก็ได้รับการร้องเรียนในด้านการบริการที่ไม่ดี หรือมีมาตรฐานการเคลมประกันที่หลากหลาย รวมไปถึงการเบิกอะไหล่ที่ยากขึ้นในอาการเสียที่เกิดจากความไม่ทนทานของตัวชิ้นส่วนที่นำมาประกอบเช่น บานพับ หรือจอภาพที่เกิดอาการช้ำจนกลายเป็น Bright dot เนื่องจากการที่ฝาหลังจอทนแรงกดทับได้น้อยลง เป็นต้น และนั้นเป็นเหตุผลที่ต้องถามกลับไปผู้ออกแบบ ThinkPad ว่า “roll cage” ในรุ่นใหม่ๆ ที่เคยคุยว่าทำให้เครื่องทนทานขึ้นนั้นแต่ยังคงทำให้บางลงได้ เป็นแค่ราคาคุยเท่านั้น? (เรื่องคำบ่นเหล่านี้สามารถหาได้ตาม official forum ของ Lenovo หรือ forum ของ ThinkPad Fan ได้ทั่วไป)
  10. การกลับด้านของสัญลักษณ์ของ ThinkPad ที่ฝาหลังเครื่อง
    มันไม่ใช่เรื่องรูปแบบการใช้งาน แต่มันเป็นสัญลักษณ์และเป็นการบอกกับผู้ใช้งาน ThinkPad ว่า Lenovo ออกแบบโดยไม่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้อีกต่อไป แต่เป็นการออกแบบเพื่อส่งเสริมแบรนด์มากกว่า ซึ่งนั้นคือ “การปิดฉาก 20 ปีของ ThinkPad ที่ใส่ใจการออกแบบเพื่อคนใช้งาน ” เพราะผู้ออกแบบ ThinkPad ในยุคแรกนั้นให้เหตุผลตั้งแต่เริ่มต้นว่า “การทำสัญลักษณ์กลับด้านโดยที่หันตัวสัญลักษณ์ไปทางผู้ใช้งาน เพื่อให้อ่านง่ายมากกว่าป่าวประกาศต่อคนที่พบเห็น เพราะต้องการใส่ใจต่อผู้ใช้งานมากกว่าส่งเสริมแบรนด์ของตน”

ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นเหตุผลที่รวบรวมจากหลายๆ แหล่ง รวมไปถึงส่วนตัวผมด้วยว่า “ทำไม ThinkPad ถึงไม่น่าซื้ออีกต่อไปสำหรับผมในตอนนี้” เพราะเหตุผลเหล่านี้เป็นเหตุผลหลักๆ เท่านั้น และแน่นอนว่าเครื่องในอนาคตนั้น ThinkPad ไม่ใช่ตัวเลือกเดียวอีกต่อไป (กว่า 10 ปี) แต่มีทั้ง Dell Latitude, Sony Vaio หรือ Toshiba Portégé เข้ามาเป็นตัวเลือกร่วมด้วยแล้วในตอนนี้ คงต้องดูกันต่อไปว่าจะเปลี่ยนใจหรือไม่ เพราะเครื่องที่ผมใช้อยู่อย่าง ThinkPad T420 ยังเหลือประกันอยู่ 450 กว่าวัน ซึ่งอาจหมายถึงผมยังอยู่กับ ThinkPad ไปอย่างน้อยๆ 2 ปี เพราะปรกติผมใช้ Notebook จนหมดประกัน 3 ปีและใช้ต่อไปอีกอย่างน้อย 3 เดือนก่อนหาซื้อเครื่องใหม่อีกครั้ง

แบรนด์ไม่ใช่ของเราครับ เพราะงั้น ทำได้แค่บอกและเลือกที่จะ “ใช้” หรือ “ไม่ใช้” บนเหตุผลของแต่ละคน แต่ละช่วงเวลา ซึ่งผมก็ทำได้แค่นั้น