ลองเล่นๆ แงะ Backup ของ iOS 4 เพื่อดึงการเก็บข้อมูลพิกัดของผู้ใช้งาน

จากข่าว iOS 4 เก็บข้อมูลพิกัดทุกคนไว้โดยตั้งใจ ก็เลยรู้สึกคันไม้คันมือลองของ เนื้อหาตอนนี้เขียนขึ้นเพื่อเตือนและให้ระมัดระวังตัว เพราะฉะนั้นหวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่อ่าน แน่นอน อุปกรณ์และตัวอย่างทั้งหมด ไม่ได้ jailbreak หรือ hack/crack แต่อย่างใด เพราะส่วนตัวแล้วนั้นผมใช้ iPod Touch 4 อยู่แล้ว และไม่ได้ jailbreak ใดๆ Apps ทุกตัวซื้อทั้งหมด และใช้งานตาม EULA ของ Apple ซึ่งตัว iOS ที่ใช้ก็ือ 4.3.2 ตัวล่าสุด! แน่นอนว่ามันมีข่าว ผมก็ต้องจัดสักหน่อย ดูว่าเป็นอย่างที่เค้าว่ากันว่าไหม

จากแหล่งข้อมูลอ้างอิง ผมใช้ข้อมูลตัวอย่างจากการ Backup เป็นหลักแล้วกัน ถ้าจะให้เข้าไปเอาจากในเครื่องเลย ดูจะเสียเวลาและดูยุ่งยาก ซึ่งแน่นอนว่าเป็นข้อมูลที่เข้าถึงง่ายที่สุดและไม่ได้อยู่ติดตัวผู้ใช้ตลอด ทำให้โดนเอาไปใช้งานได้ทันที!!!! รหัสผ่านไม่ต้องกรอก แต่สามารถเข้าถึงเครื่องที่ iPhone/iPod Touch รุ่นนั้นๆ เคย Sync ไว้กับเครื่องของไว้ ก็จะสามารถนำข้อมูลส่วนนี้และนำไปใช้งานได้ทันที

เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าเอาไปให้ร้านมือถือ upgrade ให้ก็จงระวังให้หนักสำหรับเรื่องตรงนี้ครับ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลาย เพราะมันลากไส้มาตั้งแต่คุณ activate เครื่องในการซื้อครั้งแรกเลย เพราะงั้น ถ้าเราเอาข้อมูลพวกนี้มาทำสถิติก็จะพอบอกได้ว่าบ้านและสถานที่ที่ไปบ่อยๆ นั้นอยู่ที่ไหนบ้าง

เรามาเริ่มกันเลย การเข้าถึงแหล่งข้อมูล Backup นั้นผมอ้างอิง path ของระบบผ่าน Microsoft Windows 7

C:\Users\[Windows's User Name]\AppData\Roaming\Apple Computer\MobileSync\Backup\xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx-yyyymmdd-hhmmss

[Windows’s User Name]
ชื่อ User Name ของ Windows ที่ใช้งานอยู่

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
คือรหัส 40 ตัวอักษรที่ hash ไว้

yyyymmdd-hhmmss
วันและเวลาที่ backup

ใน directory ปลายทาง หาไฟล์ที่ชื่อ

4096c9ec676f2847dc283405900e284a7c815836
เป็นไฟล์ฐานข้อมูลของ SQLite และ “ไม่ได้เข้ารหัส”

ใช้ SQLite Manager ที่เป็น Extension ของ Mozilla Firefox เปิดเอาก็ได้แบบนี้!

Table ในฐานข้อมูลที่ต้องสนใจคือ CellLocation และ WifiLocation ครับ

จะได้ข้อมูลเวลา สถานที่ที่เป็น lat/long ชัดเจนมาก โชคดีที่ผมใช้เป็น Wifi แต่ถ้าเป็นมือถืออย่าง iPhone ก็จะอยู่ที่ CellLocation โครงสร้างก็ไม่แตกต่างกันครับ เอาข้อมูลไป lat/long ไปค้นหาใน Google Maps ได้ทันที จะเขียนโปรแกรม ฯลฯ ก็น่าจะยากสำหรับคนที่ต้องการติดตามตัวครับ!!!

เนื้อหาตอนนี้เป็นการตีแผ่และหวังว่าในอนาคต Apple จะปรับปรุงการเก็บข้อมูลส่วนนี้ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น และแจ้งผู้ใช้งานก่อนไม่ใช่อยากจะเก็บก็เก็บโดยไม่ได้บอกผู้ใช้ก่อนแบบนี้

ปล. เนื้อหาบทความนี้อาจจะอายุไม่ยืน ถ้ามีการแจ้งให้ลบบทความจากหน่วยราชการคงต้องลบนะครับ ;P

อ้างอิงจาก http://petewarden.github.com/iPhoneTracker/

หมายเหตุ : วิธีนี้จะใช้ได้ผลใน iOS รุ่นที่ต่ำกว่า iOS 4.3.3 ลงมา

Firefox จิ้งจอกไฟ ผยองเดช ท้าชน IE หมัดดาวเหนือ …..

มันจะอะไรกันหนักหน่า โลกนี้มันจะหาความสงบไม่มีกันเลยเหรอ ……… อย่างวันนี้ข่าวเรื่องเด็กตกรถเมล์ อีกแล้ว ทำไมช่างเป็นสิ่งที่หดหู่เช่นนี้

เราฝากอะไรไว้กับสังคม หรือผู้ให้บริการทัั้งภาครัฐบาล และเอกชนบ้าง ซึ่งทั้งๆ ที่มันน่าจะเป็นบริการที่ดีเยี่ยม แต่กลับได้ผลกลับมาตรงกันข้ามแบบสุดขั่ว ……

แต่เอาเหอะ เข้าเรื่องของเราดีกว่า ตอนนี้ผมเริ่มปลงๆ กับสิ่งเหล่านี้แล้ว หล่ะ



เมื่อวันที่ 9 ที่ผ่านมาเราได้ต้อนรับ Web Browser “Firefox” ที่ได้ออก Version 1.0 สักทีหลังจากใช้ รุ่นที่ไม่เต็มบาทด้านตัวเลข แต่ประสิทธิภาพ เซงหน้าไอ้พวกเกินบาทอย่าง IE ไปหลายขุม ……. ทั้งด้าน Stable หรือ Security
โอ้วววววววว มันเป็นสวรรค์สำหรับคนใช้งานจริงๆ …….

ส่วนแบ่งของ Web Browser “Firefox” บนโลกจะอยู่ที่ 6% ก็ตาม แต่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย ……

จน Microsoft ต้องออกมากล่าวตอบโต้ที่ Security Roundtable Discussion ที่ Sydney เมื่อพฤหัสที่ผ่านมาก Ben English ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่าย Security and Management Product ของ Microsoft กล่าวว่าใน “rigorous code reviews” และบอกว่า Browser ทุกๆ ตัวก็มีความปลอดภัยพอๆ กัน หรือไม่ได้น้้อยหน้าใครเลย

“Because IE is ubiquitous, you hear a lot more about it, but I don’t think that Internet Explorer is any less secure than any other browser out there,” นาย English กล่าว

โอ้ววววว พระเจ้าจอร์จ ……..

ท่านช่างกล่าวได้ เบี้ยงเบนเกินไปหรือไม่ และยังตามด้วยนาย Steve Vamos ตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ Microsoft สาขา Australia ว่า “เข้าไม่เชื่อว่าส่วนแบ่งทางการตลาดของ IE จะถูก Firefox แย่งไปจาก IE ดั่งที่ Mozilla Foundation ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ Firefox browser”

“Steve Vamos, Microsoft Australia’s managing director, agreed, saying he does not believe IE’s market share is under attack following the recent high-profile debut of the Mozilla Foundation’s Firefox browser”

ซึ่งก็อย่างที่บอกหล่ะครับ ตอนนี้ IE โดนโจมตีมากมาย จากเหล่า Hacker, Spyware , Virus และอีกหลากหลายรูปแบบ

ช่างน่าเศร้าหนักที่คนใช้อินเตอร์เน็ตบ้านเราก็ยังใช้ IE อยู่เพราะว่ามันสะดวกกว่า ทำงานได้ง่ายกว่า (อันนี้ไม่แน่) และมันติดมากับ Windows มันเลยได้ส่วนแบ่งไปจาก Browser อื่นๆ ได้ง่ายดาย

ผมว่า เราน่าจะเอาอะไรจากการแข่งขันพวกนี้มาใช้ให้มาก เราทุนคนใช้สิ่งง่ายๆ กันเคยตัว คิดเองกันไม่เป็น ลำบากหน่อย ผมว่าชีวิตมันน่าจะดีขึ้นมากนะ …….

อยากให้ลอง Firefox แล้วจะรู้ถึงสิ่งที่เรียกว่า “ความปลอดภัย” มันเป็นแบบไหน ……

เดี่ยวมาบ่นต่อแล้วกันไม่ไหวแล้วนอนก่อนดีกว่า ………

ref : Microsoft says Firefox not a threat to IE