/*p0rt80 BKK*/ – PHP Day

ด้วยความร่วมมือจาก Narisa.com, ThaiAdmin.org, Blognone.com, ThaiThinkPad.com และ ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เราขอเชิญเพื่อนๆ ชาว Dev และเพื่อน ๆ ใน Community (คุณนั่นแหละ) และบุคคลที่สนใจ มาพบปะสังสรรค์แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ในงาน /* pOrt80 BKK */ ซึ่งเป็นงานที่ว่ากันด้วยเรื่องการพัฒนา App โดย PHP และ Open source ต่าง ๆ เพื่อใช้ในงานประจำวันของเรา นอกจากเพื่อน ๆ ที่อาสาเป็น Speaker ในงานเช่น คุณสมเกียรติ ปุ๋ยสูงเนิน : [Narisa.com: Up1] คุณมหศักดิ์ พิจิตรธรรม (ZCE:214599205) : [Narisa.com : Zelda] เรายังได้เชิญตัวแทนจาก Zend Technologies ประเทศสิงคโปร์ มาพูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับ Framework, Roadmap และได้เชิญผู้คร่ำหวอดในวงการ PHP ที่ตั้งบริษัทของตัวเองจนประสบความสำเร็จมามาแบ่งปันประสบการณ์ว่าท่านเหล่า นั้นทำได้อย่างไร อีกทั้งยังมี คุณวสันต์ ลิ่วลมไพศาล ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Blognone.com มาแชร์ความรู้ในการเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายกว่าด้วย PHP Data Object พร้อมด้วยกูรูจาก Ford AntiTrust มาเล่าเรื่องราวของ PHP Performance with APC + Memcached

ในงานไม่ใช่จะแต่สาระเพียงอย่างเดียว ยังมีความบันเทิงพบปะเพื่อนใหม่ พร้อมรับของที่ระลึก
ให้กลับบ้าน มาเถอะครับ กระชับวงล้อม ขยับเข้ามาช่วยกันสร้างชุมชนที่มีแต่มิตรภาพกันครับ

งานนี้เหมาะกับใคร ?

  • ผู้สุงวัยชาว PHP ที่ต้องการถ่ายทอดประสบการณ์
  • ชาว PHP ที่ต้องการหาอะไรใหม่ ๆ มาช่วยให้งานดูดี
  • มือใหม่ บุคคลที่สนใจ
  • นักศึกษาที่กำลังหาแนวทางในการทำ Senior Project หรือ กำลังงงว่าจะไปทางไหนดี
  • ชาว Dev ไม่มีที่จะไปและไม่มีใครชวนไปไหนในวันอาทิตย์

วันและสถานที่จัดงาน

วันอาทิตย์ ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553
เวลา 9.00 ถึง 17.15 น. (ลงทะเบียนเวลา 9.00 ถึง 9.30 น.)
ชั้น 38 บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย)

ค่าใช้จ่ายและการลงทะเบียน

ฟรี! ตลอดงานครับ มาแต่ตัวกับหัวใจ เราเตรียมอาหารกลางวันรสดี กาแฟรสเลิศ ของเสริฟในยามว่าง เราเตรียมไว้ให้ตลอดงานครับ ร่วมลงทะเบียนเข้างานเพื่อรับของที่ระลึกเก๋ ๆ ได้ที่นี่ครับ

หัวข้อภายในงาน

  • PHP Roadmap
    โดย Mr. Rama Yurindra, Zend Technologies Representative, Singapore
  • ธุรกิจสิบล้านกับงาน PHP แบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ จากคนคอเดียวกัน
    ว่าสามารถสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จจาก PHP ได้อย่างไร

    โดย คุณศุภโชติ กาญจนกรทอง ผู้ก่อตั้งบริษัท 2Fellows Network and Design
  • Exploring a power of SQL Server and PHP
    โดย คุณฟูเกียรติ จุลนวล (Narisa.com: Fuju)
  • สร้างระบบ e-commerce ด้วย CodeIgniter
    โดย คุณสมเกียรติ ปุ๋ยสูงเนิน (Narisa.com: Up1)
  • PHP in Enterprise
    โดย คุณมหศักดิ์ พิจิตรธรรม (ZCE:214599205) : (Narisa.com : Zelda)
  • PHP Performance with APC + Memcached
    โดย Ford AntiTrust (Web Developer/Consultant, Database Consultant, Ubuntu Implementer, Blogger and Photographer)
  • เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายกว่าด้วย PHP Data Object
    โดย คุณวสันต์ ลิ่วลมไพศาล ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Blognone.com
  • Update Web Platform Installer และ Resource ฟรี ๆ
    จาก ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย)

    โดย คุณสงวน ธรรมโรจน์สกุล

รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้ที่ http://www.microsoft.com/thailand/seminar/FY11Q1_port80bkk/

“สะบายดี 2 ไม่มีคำตอบจากปากเซ” (สปอย 100%)

  • กลุ่มเป้าหมายของหนังน่าจะเป็น ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ !!!
  • ภาคนี้หนังดูเรื่อยๆ เช่นเคย น่าเสียดายคือภาพไม่สวยเหมือนภาคแรก แต่อยู่ในมาตรฐานที่ผมยอมรับได้
  • หนังไม่ค่อยพาเที่ยว พาสัมผัสวัฒนธรรม ขนมธรรมเนียมเหมือนภาคแรก
  • เรย์แสดงได้ดีไม่บกพร่องใดๆ แต่บทเรื่องนี้ไม่ค่อยส่งเท่าไหร่ ก็เลยได้มาแค่นี้
  • สะบายดี 2 เหมาะกับคนชอบหนังโรแมนติก สบายๆ ง่ายๆ ไม่ติดหรูหรา ยิ้มได้ตลอดเรื่อง ถ้าใครชอบความรักแบบสังคมเมืองที่มีแต่ความหวือหวา ก็ไม่แนะนำ
  • ภาคนี้ คำลี่ ไม่ได้ถูกสร้างให้เป็นตัวแทนของแม่หญิงลาว ที่ต้องเรียบร้อย งดงาม อ่อนช้อย พูดเพราะ ไม่มีจริต เหมือนสอนไพรวัลย์ ในภาคแรก และสอนไพรวัลย์ในภาคแรก คือภาพของผู้หญิงในอุดมคติของหนุ่มไทยส่วนใหญ่ ซึ่งหาแทบไม่ได้ในยุคปัจจุบัน ซึ่งมันตรงกับจริตของชายหนุ่มคนไทย ทำให้สอนไพรวัลย์ภาคนี้ จับต้องได้และไม่สูงเกินเอื้อม และแน่นอนว่ามันคือภาพคล้ายกับผู้หญิงที่หนุ่มไทยส่วนใหญ่เจอะเจอในทุกวันนี้!!!
  • ภาคนี้บทของ เรย์ ทำให้ภาพผู้ชายไทยสำหรับแม่หญิงลาวอ่อนด้อยลงไปเยอะ!!! เพราะจากที่อนันดา ทำไว้ซะหรูงานนี้เหมือนสาวลาวสวนกลับความทะเล้นของหนุ่มไทยเข้าอย่างจัง ภาคนี้ทำให้ เรย์ คือภาพตายตัวของหนุ่มหรือผู้ชายไทยที่เค้าพบเจอเสมอๆ สำหรับสาวลาวจริงๆ แต่อนันดา ไม่ใช่เลย อนันดา คือภาพสร้างที่แทบจะหาไม่เจอ
  • ดูๆ ไปภาพของคู่พระนางจะสลับกันระหว่างสองภาคแฮะ … ภาคต่อไปคาดว่าจะลงตัว!!! คงจะเป็นหนุ่มเรียบร้อยกับสาวเรียบร้อย หรืออาจจะได้เจอหนุ่มและสาวที่ทันกัน (แบบกวน มึน โฮ!!!) อืมมม น่าสนใจมากๆ
  • แน่นอนครับ ภาคนี้อย่างที่บอก ภาพหนุ่มไทยต่อสาวลาว เป็นคน "ไม่เต็ม" ไปซะแล้ว
  • เป็นหนังที่ดูแล้วมีความสุข มีความเชื่อมโยงกับภาคแรกได้อย่างเนียนๆ มีหลายฉากที่นำไปสู่ภาคแรกได้อย่างมีเหตุผล
  • มีลูกเล่นลูกฮาที่สะอาดสะอ้านไม่หยาบคาย แต่ทำให้หัวเราะได้…. เหมาะกับทุกวัยเลย หนังเรื่องนี้
  • ถ้าไม่ได้ดูภาคแรก ดูภาคสองก็ไม่งง แต่พอดูภาคนี้จบ คุณคงอยากหาภาคแรกมาดูต่อเลย เพราะมันเชื่อมกัน ^^
  • ถ้าดูภาคนี้แล้วจะรู้เลยว่าทำไมผู้กำกับถึงใส่บทในภาคแรกให้เด็กมันเตือนอนันดาว่าไม่ให้เมา
  • ทั้งสองภาค (อาจหมายรวมถึงภาค 3) ที่ไม่ต้องมีบทเลิฟซีนก็ทำให้รู้สึกว่านางเอกกับพระเอกรักกันได้ มีฉากเดียวมั้งที่นางเอก-พระเอกสัมผัสแขนนางเอกแค่ 3 วินาที!!!
  • อยากไปหาคำตอบบ้างจัง ^^
  • และแน่นอน ภาคนี้ก็ยังไม่มีคำตอบ!!! แล้วเจอกันกับ "สะบายดี วันวิวาห์"

ดูหนัง "กวน มึน โฮ" วิเคราะห์กันอย่างกับดู "อินเซปชั่น" (สปอย 100%)

ก่อนอื่นผมแนะนำว่าใครดูกวนมึนโฮแล้วผมแนะนำให้ซื้อการ์ตูนกวนมึนโฮมาอ่านเสริมด้วย ไม่งั้นไม่ครบสูตรครับ เพราะคลายปมในหนังหลายอย่างเลยหล่ะ

ต่อจากนี้คือประเด็น และที่ผมลงรวบรวมมาจาก tweet ที่ผม tweet ใน twitter มารวบรวมไว้เพื่อสรุปอีกครั้งนึง อาจจะตรงไม่ตรงบ้าง บางอันก็เป็นความคิดเห็นคนอื่น (จำไม่ได้แล้วว่าเอาจากไหน)

  • ลองนึกดูสิว่าตอนแรกที่เริ่มจีบกัน ทุกคนต่างประดิษฐ์ตัวเองให้สวยหรูที่สุด นานเท่าไหร่กว่าคุณผู้หญิงทั้งหลายจะยอมให้คุณผู้ชาย เห็นหน้าแบบไม่ make up หรือ เห็นพฤติกรรมส่วนตัวแบบ เช่น นั่งแคะขี้มูก!!! หรือผู้ชายเองก็เถอะ นานเท่าไหร่ กว่าจะยอมให้ผู้หญิงเห็นด้านแย่ๆ ของตัวเอง จะกี่ปีที่คบกัน ถ้าต่างฝ่ายต่างยังมีการประดิษฐ์อยู่ ผมว่ามันก็เทียบกันไม่ได้กับ 1 อาทิตย์ที่คบกันด้วยสันดานจริงๆ
  • ในหนังนี่ตกลงผู้ชายเฮงซวยจริง ??? แต่บางทีผู้หญิงก็ชอบคนเลว !!!!
  • ในชีวิตจริง ผู้หญิงอย่างก้อยมีเยอะมาก คบแฟนมาหลายปี ไม่ว่าจะมีข้อเสีย เข้ากันไม่ได้ ไม่เข้าใจ ก็จะคบ แม้ ใคร ๆ จะบอกยังไงก็ไม่ฟัง ไม่เปิดใจ ฉันจะคบ มีคนใหม่ ๆ เข้ามาก็ไม่ดูไม่แลไม่หันเห ทะเลาะกันนึกว่าจะเลิก ก็กลับมาคบนายกร๊วกคนเดิมต่อ เพื่อน ๆ พากันละเหี่ยใจกับความรักแบบนี้ "มันสุขจริง ๆ เหรอแก" สารพัดจะอ้างเหตุผลเพื่อจะคบกับผู้ชายที่เข้ากันไม่ได้แต่ฉันยังรักต่อไป
  • เห็นมาเยอะแล้ว ตอนรักกันบอกว่า รักอยู่เหนือเหตุผล รักไม่ต้องการเวลา พอตอนเลิกกัน เหตุผล ต่างๆ มาเพียบ จัดเต็ม!!!
  • การ ไม่รับโทรศัพท์มันอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในเวลาเราเหงาหรือสิ้นหวังสุดๆ ในเวลาที่เราต้องการเค้ากลับไม่อยู่ตรงนั้น มันสะเทือนใจเหมือนกัน พูด ตรงๆ กวน มึน โฮ เนี่ย ชะตากรรมของก้อยเกิดจากการไม่รับโทรศัพท์ รับโทรศัพท์ซะก็จบ ใครยังรักใครอยู่ แล้วคิดจะไม่รับโทรศัพท์เค้า ก็คิดดูดีๆ
  • คนที่ดูเหมือนจะโชคร้ายจริงๆ น่าจะเป็นเมย์มากกว่า ที่โดนทิ้งสองรอบ ในต่างบ้านต่างเมือง ต่างภาษา ไม่มีใครให้ระบาย จะมีอะไรที่แย่กว่านี้อีก??
  • มันตลกร้ายและเป็นความบังเอิญอย่างร้ายกาจในหลายเรื่อง ด่างเองก็คงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ความรู้สึกมันคงชัดตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่คงเพราะโปสการ์ด
  • เวลาที่มันเนิ่นนาน มันไม่จำเป็นเสมอไป ว่าเราจะเข้าใจกันมากขึ้น มันอาจจะออกห่างมากขึ้นก็ได้และตัวแปรที่ทำให้ห่าง มันก็มีเยอะ! และการที่เราไม่สามารถให้ความสุขและความสมหวังในเรื่องต่างๆ ได้ให้กับแฟนคนนึงได้ตะหาก ที่น่าเสียใจ
  • รักกันนานขนาดไหนก็ตามถ้าคุณไม่สำรวจเลยว่าคุณไม่เคยเข้าใจซึ่งกันและกันเลย สุดท้ายมันก็จะจบลงไปตามกาลเวลาเท่านั้นเอง และถ้าเค้าบอกเลิกคุณแล้วไปคบกับอีกคนหนึ่ง ไม่มีใครผิด แค่มีคนเสียใจเท่านั้นเอง
  • สิ่งที่ก้อยต้องการในชีวิตทั้งหมดนั้น เธอสามารถหามาได้เองอยู่แล้ว ในแพลนชีวิตทั้งหมดของเธอ ไม่จำเป็นต้องมีเราอยู่เลย บ้านที่เธอต้องการสร้าง ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากเรา เธอแค่สร้างมันขึ้นมา แล้วก็เอาเราไปวางไว้ในนั้น คน อย่างเรา … ที่วันๆ เอาแต่ทำให้เธอ ต้องเหนื่อย ต้องอดทน .. จะมีคุณสมบัติไปอยู่ในนั้นได้อย่างไร .. (บางส่วนจากหนังสือการ์ตูน กวน มึน โฮ)
  • "กูจะแรดแล้วโว้ย" (ญ พูด) กับ "กูจะเหี้ยแล้วโว้ย" (ช พูด) ใครจะแพ้ใครจะชนะ คาดว่า แรดชนะเพราะ เหี้ยคงโดนเหยียบไส้แตก!!!
  • ผู้หญิง อยากแต่งงานมากขนาดที่ไม่สนใจว่าผู้ชายยังไม่พร้อม ขนาดยอมเลิกกับผู้ชายที่ตัวเองรักมากที่สุด เพียงเพราะว่าเขายังไม่พร้อมที่จะแต่งงาน?!
  • ผู้หญิง มักคิดว่าหน้าที่ของผู้ชายคือต้องง้อให้ถึงที่สุด ว่าผู้ชายมันก็มีขีดจำกัด เมื่อง้อถึงจุดหนึ่งแล้วไม่มีผล ผู้ชายทั้งโลกมันจะเลือกใคร
  • ผู้หญิง ชอบถามลองใจ…พอคำตอบไม่ถูกใจก็มางอนเราทุกที ทั้งๆ ที่บางครั้ง ที่ถามเป็นแค่เรื่องสมมติ แต่จริงจังกับคำตอบเหมือนกับมันเกิดขึ้นจริงๆ
  • "ในร้านอาหาร มีใครรู้จักมึงหรือป่าว ในแท็กซี่ เค้ารู้จักเมิงมั้ย บอกรักไปเลย อย่ากลัวและอย่าอาย" คุ้นๆ เหมือนในหนังเรื่องนึง!!!
  • จีบสาวกำลังหวานแล้วไปจ๊ะเอ๋กับแฟนหล่อนโดยที่เรายังไม่รู้มาก่อนว่าเธอมีแฟน แล้ว และหล่อนก็แนะนำเรากับแฟนหล่อนว่า "พี่ชาย" อ้ากกกกก!!!
  • "กูจะแรดแล้วโว้ยย" ประโยคนี้โดนใจมากกกกกกกกกก
  • แต่ผมฟันธงว่าสุดท้าย พระเอกยังลังเลไม่รู้จะเลือกใครระหว่างพี่อ้อยหรือพี่ฉอด แน่นอน
  • กวน มึนโฮ นี่น่าจะใช้เพลง ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ นะ แต่พอดีว่ามีเรื่องอื่นเอาไปใช้แล้ว น่าเสียดายๆๆ เอะ แต่ค่ายเดียวกัน น่าจะพอได้อยู่ อิๆๆ
  • ผู้หญิงชอบพูดว่าไม่มีอะไร ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่ามี …
  • แปดปีไม่มีค่าอะไร จะเลิกมันก็เลิก แต่งงาน ไม่มีค่าอะไร จะเลิกมันก็เลิก มีลูก ก็ไม่มีค่าอะไร จะเลิกมันก็เลิก ฯลฯ ก็คนมันจะเลิกอ่ะคุณ
  • การที่งอน ก็เหมือนจับตัวเองกับความสัมพันธ์เป็นตัวประกัน คนบางคนเขามีกฎ ไม่เจรจากับผู้ก่อการร้ายจับตัวประกันครับ :P
  • สุดท้ายแล้ว “รักต้องการเวลา” อย่างน้อยก็เพื่อจะแสดงว่าเราไม่ได้คิดไปกันเอง? via @lewcpe
  • เฮิร์ตเหรอจร๊าาาาาาาา
  • จะมีประโยคนึงที่กระชากอารมณ์ได้ดีที่สุด ไม่แพ้  “ไม่กินผักทำไมไม่บอก” ใน Seasons Change นั้นคือ “พอเถอะ คุณไม่สงสารฉันเหรอ”

คำว่า "รู้จัก"

คุณ "รู้จักชื่อ" ..แล้วคุณ "ผูกพันธ์" กับเค้ามั้ย?

ถ้าคุณ "ไม่รู้จักชื่อ" ..แล้วคุณ "ผูกพันธ์" กับเค้ามั้ย?

แล้วถ้าระหว่าง "รู้จักชื่อ" กับ "รู้จักตัวตน" ..อย่างไหนสำคัญกว่ากัน?

จริงๆ แล้วคำว่า "รู้จัก" ..มันคือ รู้จักอะไรกันแน่??

"ชื่อ" ..มันก็แค่สิ่งที่ใช้เรียก "ตัวตน" สิ่งสำคัญที่สุดที่เราจะ "รู้จัก" ใครซักคนมันคือ "ตัวตน" ต่างหาก

ในเมื่อเรารู้จักตัวตนของเค้า และมี "ชื่อสมมุต" ที่ใช้เรียกเค้า แล้วชื่อจริงๆ ของเค้า ..มันจะสำคัญอะไร?

ใครมีแฟน หรือเคยมีแฟนคงเข้าใจคำว่า "ตัวเอง", "เค้า", "หมูอ้วน", "ที่รัก", "แมวน้อย", "กระต่ายขาว" ฯลฯ

ผมจึงคิดว่า คุณ "รู้จักชื่อ" ..แล้วคุณ "ผูกพันธ์" กับเค้ามั้ย? …