ดูหนัง "กวน มึน โฮ" วิเคราะห์กันอย่างกับดู "อินเซปชั่น" (สปอย 100%)

ก่อนอื่นผมแนะนำว่าใครดูกวนมึนโฮแล้วผมแนะนำให้ซื้อการ์ตูนกวนมึนโฮมาอ่านเสริมด้วย ไม่งั้นไม่ครบสูตรครับ เพราะคลายปมในหนังหลายอย่างเลยหล่ะ

ต่อจากนี้คือประเด็น และที่ผมลงรวบรวมมาจาก tweet ที่ผม tweet ใน twitter มารวบรวมไว้เพื่อสรุปอีกครั้งนึง อาจจะตรงไม่ตรงบ้าง บางอันก็เป็นความคิดเห็นคนอื่น (จำไม่ได้แล้วว่าเอาจากไหน)

  • ลองนึกดูสิว่าตอนแรกที่เริ่มจีบกัน ทุกคนต่างประดิษฐ์ตัวเองให้สวยหรูที่สุด นานเท่าไหร่กว่าคุณผู้หญิงทั้งหลายจะยอมให้คุณผู้ชาย เห็นหน้าแบบไม่ make up หรือ เห็นพฤติกรรมส่วนตัวแบบ เช่น นั่งแคะขี้มูก!!! หรือผู้ชายเองก็เถอะ นานเท่าไหร่ กว่าจะยอมให้ผู้หญิงเห็นด้านแย่ๆ ของตัวเอง จะกี่ปีที่คบกัน ถ้าต่างฝ่ายต่างยังมีการประดิษฐ์อยู่ ผมว่ามันก็เทียบกันไม่ได้กับ 1 อาทิตย์ที่คบกันด้วยสันดานจริงๆ
  • ในหนังนี่ตกลงผู้ชายเฮงซวยจริง ??? แต่บางทีผู้หญิงก็ชอบคนเลว !!!!
  • ในชีวิตจริง ผู้หญิงอย่างก้อยมีเยอะมาก คบแฟนมาหลายปี ไม่ว่าจะมีข้อเสีย เข้ากันไม่ได้ ไม่เข้าใจ ก็จะคบ แม้ ใคร ๆ จะบอกยังไงก็ไม่ฟัง ไม่เปิดใจ ฉันจะคบ มีคนใหม่ ๆ เข้ามาก็ไม่ดูไม่แลไม่หันเห ทะเลาะกันนึกว่าจะเลิก ก็กลับมาคบนายกร๊วกคนเดิมต่อ เพื่อน ๆ พากันละเหี่ยใจกับความรักแบบนี้ "มันสุขจริง ๆ เหรอแก" สารพัดจะอ้างเหตุผลเพื่อจะคบกับผู้ชายที่เข้ากันไม่ได้แต่ฉันยังรักต่อไป
  • เห็นมาเยอะแล้ว ตอนรักกันบอกว่า รักอยู่เหนือเหตุผล รักไม่ต้องการเวลา พอตอนเลิกกัน เหตุผล ต่างๆ มาเพียบ จัดเต็ม!!!
  • การ ไม่รับโทรศัพท์มันอาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในเวลาเราเหงาหรือสิ้นหวังสุดๆ ในเวลาที่เราต้องการเค้ากลับไม่อยู่ตรงนั้น มันสะเทือนใจเหมือนกัน พูด ตรงๆ กวน มึน โฮ เนี่ย ชะตากรรมของก้อยเกิดจากการไม่รับโทรศัพท์ รับโทรศัพท์ซะก็จบ ใครยังรักใครอยู่ แล้วคิดจะไม่รับโทรศัพท์เค้า ก็คิดดูดีๆ
  • คนที่ดูเหมือนจะโชคร้ายจริงๆ น่าจะเป็นเมย์มากกว่า ที่โดนทิ้งสองรอบ ในต่างบ้านต่างเมือง ต่างภาษา ไม่มีใครให้ระบาย จะมีอะไรที่แย่กว่านี้อีก??
  • มันตลกร้ายและเป็นความบังเอิญอย่างร้ายกาจในหลายเรื่อง ด่างเองก็คงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ความรู้สึกมันคงชัดตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่คงเพราะโปสการ์ด
  • เวลาที่มันเนิ่นนาน มันไม่จำเป็นเสมอไป ว่าเราจะเข้าใจกันมากขึ้น มันอาจจะออกห่างมากขึ้นก็ได้และตัวแปรที่ทำให้ห่าง มันก็มีเยอะ! และการที่เราไม่สามารถให้ความสุขและความสมหวังในเรื่องต่างๆ ได้ให้กับแฟนคนนึงได้ตะหาก ที่น่าเสียใจ
  • รักกันนานขนาดไหนก็ตามถ้าคุณไม่สำรวจเลยว่าคุณไม่เคยเข้าใจซึ่งกันและกันเลย สุดท้ายมันก็จะจบลงไปตามกาลเวลาเท่านั้นเอง และถ้าเค้าบอกเลิกคุณแล้วไปคบกับอีกคนหนึ่ง ไม่มีใครผิด แค่มีคนเสียใจเท่านั้นเอง
  • สิ่งที่ก้อยต้องการในชีวิตทั้งหมดนั้น เธอสามารถหามาได้เองอยู่แล้ว ในแพลนชีวิตทั้งหมดของเธอ ไม่จำเป็นต้องมีเราอยู่เลย บ้านที่เธอต้องการสร้าง ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากเรา เธอแค่สร้างมันขึ้นมา แล้วก็เอาเราไปวางไว้ในนั้น คน อย่างเรา … ที่วันๆ เอาแต่ทำให้เธอ ต้องเหนื่อย ต้องอดทน .. จะมีคุณสมบัติไปอยู่ในนั้นได้อย่างไร .. (บางส่วนจากหนังสือการ์ตูน กวน มึน โฮ)
  • "กูจะแรดแล้วโว้ย" (ญ พูด) กับ "กูจะเหี้ยแล้วโว้ย" (ช พูด) ใครจะแพ้ใครจะชนะ คาดว่า แรดชนะเพราะ เหี้ยคงโดนเหยียบไส้แตก!!!
  • ผู้หญิง อยากแต่งงานมากขนาดที่ไม่สนใจว่าผู้ชายยังไม่พร้อม ขนาดยอมเลิกกับผู้ชายที่ตัวเองรักมากที่สุด เพียงเพราะว่าเขายังไม่พร้อมที่จะแต่งงาน?!
  • ผู้หญิง มักคิดว่าหน้าที่ของผู้ชายคือต้องง้อให้ถึงที่สุด ว่าผู้ชายมันก็มีขีดจำกัด เมื่อง้อถึงจุดหนึ่งแล้วไม่มีผล ผู้ชายทั้งโลกมันจะเลือกใคร
  • ผู้หญิง ชอบถามลองใจ…พอคำตอบไม่ถูกใจก็มางอนเราทุกที ทั้งๆ ที่บางครั้ง ที่ถามเป็นแค่เรื่องสมมติ แต่จริงจังกับคำตอบเหมือนกับมันเกิดขึ้นจริงๆ
  • "ในร้านอาหาร มีใครรู้จักมึงหรือป่าว ในแท็กซี่ เค้ารู้จักเมิงมั้ย บอกรักไปเลย อย่ากลัวและอย่าอาย" คุ้นๆ เหมือนในหนังเรื่องนึง!!!
  • จีบสาวกำลังหวานแล้วไปจ๊ะเอ๋กับแฟนหล่อนโดยที่เรายังไม่รู้มาก่อนว่าเธอมีแฟน แล้ว และหล่อนก็แนะนำเรากับแฟนหล่อนว่า "พี่ชาย" อ้ากกกกก!!!
  • "กูจะแรดแล้วโว้ยย" ประโยคนี้โดนใจมากกกกกกกกกก
  • แต่ผมฟันธงว่าสุดท้าย พระเอกยังลังเลไม่รู้จะเลือกใครระหว่างพี่อ้อยหรือพี่ฉอด แน่นอน
  • กวน มึนโฮ นี่น่าจะใช้เพลง ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ นะ แต่พอดีว่ามีเรื่องอื่นเอาไปใช้แล้ว น่าเสียดายๆๆ เอะ แต่ค่ายเดียวกัน น่าจะพอได้อยู่ อิๆๆ
  • ผู้หญิงชอบพูดว่าไม่มีอะไร ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่ามี …
  • แปดปีไม่มีค่าอะไร จะเลิกมันก็เลิก แต่งงาน ไม่มีค่าอะไร จะเลิกมันก็เลิก มีลูก ก็ไม่มีค่าอะไร จะเลิกมันก็เลิก ฯลฯ ก็คนมันจะเลิกอ่ะคุณ
  • การที่งอน ก็เหมือนจับตัวเองกับความสัมพันธ์เป็นตัวประกัน คนบางคนเขามีกฎ ไม่เจรจากับผู้ก่อการร้ายจับตัวประกันครับ :P
  • สุดท้ายแล้ว “รักต้องการเวลา” อย่างน้อยก็เพื่อจะแสดงว่าเราไม่ได้คิดไปกันเอง? via @lewcpe
  • เฮิร์ตเหรอจร๊าาาาาาาา
  • จะมีประโยคนึงที่กระชากอารมณ์ได้ดีที่สุด ไม่แพ้  “ไม่กินผักทำไมไม่บอก” ใน Seasons Change นั้นคือ “พอเถอะ คุณไม่สงสารฉันเหรอ”

1 thought on “ดูหนัง "กวน มึน โฮ" วิเคราะห์กันอย่างกับดู "อินเซปชั่น" (สปอย 100%)”

  1. โดนใจให้ give
    เรื่องแต่งงานนี้เอ้อ.. ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เป็นพระเอกเราจะไม่ง้อเลยล่ะ
    (ทำจริงก็ไม่รู้ทำได้ปล่าวเพราะผูกผันกันมานานขนาดนั้น)

Comments are closed.