Review – Lenovo ThinkPad EDGE 11”

เป็นครั้งแรกที่ผมได้ใช้ ThinkPad EDGE Series อย่างจริงจัง ส่วนใหญ่จะจับๆ เล่นๆ ตาม Shop เสียมากกว่า แต่ครั้งนี้ผมได้นำมาใช้งานก่อนงานเปิดตัวในวันที่ 27 ตุลาคม 2553 ถึง 4 วันด้วยกัน

ท้าวความก่อนว่า Lenovo ได้เปิดตัว ThinkPad EDGE Series และ X100e (e ที่ผมคิดว่ามาจากคำว่า EDGE นั้นเอง) โดยเป็นการแบก Class ออกมาเป็น 2 ส่วนคือ EDGE Series และ Classic Series โดยที่ EDGE Series ออกมาเพื่อรองรับในกลุ่มตลาดธุรกิจที่เน้นความสดใส ออกแนววัยรุ่นมากกว่า Classic ที่หลายๆ คนมองว่าแก่และดูล้าสมัย (อันนี้ผมก็เฉยๆ นะ แต่ EDGE มันก็สวยไปอีกแบบ และไม่ได้มีแต่สีดำที่หลายๆ คนบอกเชย)

โดยใน ThinkPad EDGE 11” Type 0328-23U ตัวนี้แม้จะมีขนาดเล็ก เบา แต่ขุมพลังด้านในไม่ได้เล็กตาม และแน่นอนว่ามันไม่ใช่ Netbook แต่คือ Notebook ขนาดเล็ก

a5

โดย EDGE Series นั้นออกแบบมาโดยที่ไม่ได้เอาทุกความสามารถของ Classic Series มาทั้งหมด เนื่องจากคิดใหม่ทำใหม่ EDGE เน้นสวยและดูทันสมัยมากกว่า ไม่ได้อนุรักษ์นิยมแบบรุ่นพี่ซึ่งแน่นอนว่ามันมีแตกต่างหลักๆ คือ…

Read more

การตกแต่งภาพ

ผู้หญิงทุกคนสวยโดยธรรมชาติ การตกแต่งคือทำให้ผู้หญิงนั้นดูเป็นคนมีสุขภาพดี อะไรที่ไม่มีมาตอนกำเนิดก็ลบออก อะไรที่ควรมีตามวัยควรให้มี…แต่ความที่ไม่เข้าใจของคนแต่งภาพคือ เอารูปคนแก่ 80 ปี ลบรอยเหี่ยวย่นออก มันก็เลยดูว่าไป รพ. ยันฮี มา หรือแต่งให้ผิวเนียนจนเหมือนกับว่าไม่เปียกน้ำ ก็ดูแล้วไม่ธรรมชาติเหมือนกัน

อ้างอิงจากพี่ขจร ที่นำคำพูดของอาจารย์โชติ

เรื่องการห้ามเอากล้องเข้าโรงหนัง

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตอนแรกก็หงุดหงิดแฮะ … จริงๆ หงุดหงิดตั้งแต่สมัยห้ามเอา Notebook เข้าไปแหละ!!!! แต่หลังๆ Notebook ก็ปล่อยผ่านไป (ใครจะบ้าเอางานเข้าไปทำ หรือเอากล้อง webcam ถ่ายหนังฟร่ะ!)

ต่อมาสักปีเกือบๆ 2 ปี นี้ผมถ่ายรูปผมก็เจอเหตุการณ์ห้ามเข้ากล้องเข้าโรงหนังอยู่ครั้งนึง โชคดีที่วันนั้นผมหาที่ฝากที่ปลอดภัยกว่าการฝากกับเจ้าหน้าที่ของโรงหนังได้ เลยรอดตัวไป คืออย่างน้อยๆ ก็ไว้ใจได้กว่าเจ้าหน้าที่แน่นอน

หลังๆ ถ้าไปดูหนัง ผมจะไม่เอากล้องไปเลย ไม่อยากนั่งเครียดในโรงหนัง กังวลว่าออกมาจะเป็นยังไง เค้าจะขนย้ายเป็นไหม ตกแตกจะว่าไง แล้วถ้าหายหล่ะใครจะรับผิดชอบ ทำให้ผมเข้าโรงหนังน้อยลงพอสมควรเลย

คือผมไม่ค่อยชอบมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอะไรกับเจ้าหน้าที่ของโรงหนัง เท่าไหร่เพราะรู้ว่าเจ้าหน้าที่ก็มีหน้าที่ของเขา และก็ไม่ใช่หน้าที่อะไรของเขาที่จะต้องรู้ว่าอุปกรณ์ลักษณะแบบนี้รุ่นนี้ มันถ่ายวีดีโอได้หรือไม่ได้ เค้าคิดแค่ว่ามันคือกล้อง ห้ามเข้า ก็จบๆ ไป คือผมพยายามเข้าใจเค้านะว่าบางคนแค่เอาตัวรอดให้พ้นเดือนก็ยากลำบากแล้วหล่ะ

อาจจะเพราะผมเคยทำงานด้านบริการคล้ายๆ แนวๆ นี้มาก่อนบ้าง แม้จะไม่คล้ายกัน แต่ก็หาเงินเองอยู่ตอนเรียน เลยพอทำให้เข้าใจว่าทุกครั้งที่เรามีเรื่อง ตัวเราเองก็จะสร้างปัญหา สร้างความเหนื่อยใจหนักใจให้กับเจ้าหน้าที่เค้าเช่นกัน

ผมเข้าใจว่าเราก็รักกล้องของเรา รักของของเรา กล้องเราหายของเราจะทำยังไง?
และแน่นอนเค้าก็รักหน้าที่การงานของเขา ถ้าเจ้าหน้าที่ปล่อยผ่านไป แล้วเขาโดนไล่ออกคุณจะทำยังไง?

สรุปพบกันครึ่งทางอันไหนที่มันเป็นข้อห้าม ต้องฝากไว้ เราไม่เอาไปก็จบ ถ้าเราเอาไป ก็ต้องรับความเสี่ยงกันเอง เพราะถือว่าก็รู้ๆ กันอยู่ (แต่บางที่ไม่มีป้ายบอกแฮะ …)

มีหนังหลายเรื่องที่ผมไม่มีเวลาไปดู และเวลาที่ว่างกลับมีกล้องติดต่อไปซะชิบ … ผมก็รอแผ่นเอาง่ายดี ^^

ผมยังหลอนกับข้อความในบัตรรับฝากของตามห้างต่างๆ อยู่ครับ

หากสูญหายทางห้างจะไม่รับผิดชอบ

เห็นแล้วเซงสุดๆ

BarcampBangkhen (บาร์แคมป์บางเขน)

คาดว่าผมจะโดดการไปเที่ยวประจำปีกับบริษัทเพราะงานนี้แหละ ^^

แล้วเจอกันวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ณ อาคารนานาชาติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

http://www.barcampbangkhen.org/

posterBCBK

อารมณ์เสียกับการขอ Statement (รายการเดินบัญชีย้อนหลัง) ของธนาคาร!

วันนี้ตอนเช้าก่อนมาทำงาน ผมไปขอ Statement ย้อนหลัง 3 เดือนที่ ธนาคาร ก. โอเคนะตอนนั้นบอกเก็บค่าธรรมเนียม 100 บาท ผมยินดีเพราะถือว่าเป็นส่วนที่ไม่ได้ขอกันบ่อยๆ ผมก็ให้ไป

รับใบเสร็จเสร็จก็รอ … คือตอนนั้นพนักงานทำหน้า งงๆ  ว่ารอทำไม -_-"

ผมก็คิดในใจ “อ้าวว ไหน Statement !!!”

สุดท้ายพนักงานบอกว่า “Statement ให้ไปเอาที่สาขาที่เปิดบัญชีไว้นะครับ”

หืออออ …. เสียเงินค่าธรรมเนียมไม่พอผมต้องเสียเวลาและค่ารถไปเอาที่สาขาต้นทางอีก!!! นี่ถ้าบัญชีผมเปิดที่เชียงใหม่ ไม่ต้องไปรับที่เชียงใหม่เลยเหรอไงเนี่ย คือ ….. บริการลูกค้าจริงๆ นะครับ –_-"

คือไม่ใช่อะไรหรอกนะ อย่างน้อยๆ ก็จะจัดส่งจดหมายถึงบ้านอะไรก็ยังดีนะ เพราะไอ้ที่เก็บไปเนี่ยมันคืออะไร ค่า query statement ออกจาก database อย่างเดียวเลยเหรอครับ หรือว่าไง? แพงกว่า query ข้อมูลของ cloud database อย่าง Amazon อีกนะเนี่ย!!!

ใช้ระบบไอทีได้ดีมากเลยครับท่านธนาคารทั้งหลาย ไม่รู้จะร้องไห้หรือยังไงดี อยากปิดบัญชีจริงๆ ให้ตายเหอะ ….

แถมเป็นทุกธนาคารเหมือนไม่มีทางเลือกจริงๆ มันน่าจะมีมาตรฐานกว่านี้หน่อยไหมว่าอะไรยังไง

พอทวีตไปใน twitter ก็มีหลายๆ ท่านบอกว่าบางธนาคาคิด 200 บาทก็มี บางคนก็บอกมีอัตราแบบคิดตามจำนวนเดือนที่ขอด้วยนะ ขอเยอะๆ อย่าง 24 เดือนนี่คิด 500 บาทต่อครั้ง!!!!

มานั่งคิดๆ ดู ทำงานวันหนึ่งสำหรับบางคนยังไม่พอจ่ายค่าขอ Statement ธนาคารเลย!!!!

รายได้จากค่าธรรมเนียมของธนาคาร ปีนึงไม่ต่ำกว่ายี่สิบกว่าเปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดดีไม่ดี บางธนาคารและบางปี รายได้ค่าธรรมเนียมอาจจะสูงกว่ารายได้สินเชื่อด้วยซ้ำ!!!

ผมเลยไม่แปลกใจที่ รายได้ของ ธ. ที่ได้กำไรเยอะที่สุดคือค่าธรรมเนียมกระดาษกับข้อมูลเกือบเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานไทยจริงๆ ครับ