โดนกันไป

  • 9aum @FordAntiTrust ถ้าโดน BSA จับก็ผ่อนได้นะ ผ่อนค่าปรับไง โดนเรียกค่าเสียหาย 3 แสน อาจจะได้ผ่อนเดือนละ แสนเศษ จำนวน 3 เดือน พร้อมดอกเบี้ยด้วย
  • 9aum @FordAntiTrust เดี๋ยวหลายๆ คนในนี้ก็จะได้ประสบการณ์จริงจาก BSA อยู่แล้วไม่ต้องพึ่งบทความ ที่เขียนไว้ 3 ปีแล้วหรอก
  • 9aum @FordAntiTrust โดนๆ กันซะบ้างก็ดี ความรู้สึกเจ็บปวดปลายปี ที่จะต้องบอกพนักงานว่า ปีนี้เราไม่มีโบนัส เพราะเราโดนจับ software เถื่อน ก้าก
  • 9aum @FordAntiTrust พนักงานก็จะถามอ้าวแล้วความผิดกูหรอใช้ com ในบริษัทมึงเนี่ย …. แล้วก็งูกินหางอีก
  • 9aum @FordAntiTrust พนักงานย้อนถาม อ้าวในสัญญาตอนสมัครงานไม่มีบอกนิ ว่า บริษัทนี้ใช้ software เถื่อน แบบนี้ไม่แฟร์

อืมมม ไม่มีอะไร เอามาจดเป็นโน็ตไว้ครับ

ผมไม่ได้สู้เพียงลำพัง

ผมไปอ่านจากหลาย ๆ ที่ก็เจอเรื่อง Photoshop CS4 ของผมมาแล้วครับ ครับ ยังมีคนคิดอย่างผมอยู่อีกหลายคนและเยอะอยู่เหมือนกัน หวังว่ามันมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อไปในอนาคต

สิ่งที่ห้ามพูดในสังคมคน IT ของไทยตอนนี้ ?

ไม่ใช่เรื่องว่าอยู่ พธม. นบก(ช). รัฐบาล หรือฝ่ายค้าน หรือเรื่องการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ แต่เป็นเรื่อง

ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์

จั่วหัวพูดถึงทีไร เว็บไม่แตกก็ร้อนกันไปเป็นแถบ ๆ

ข่าว บทความ หรือกระทู้ต้องร้อนเป็นไฟ UIP และ Pageview พุ่งพรวด ขึ้นสูงมิดเพดานยิ่งนัก แถมทำ SEO ได้ดีเป็นเยี่ยมทีเดียว

มันเป็นเรื่องที่คนทำถูกต้อง ต้องหลบ ๆ ไว้ พูดความภูมิใจส่วนตัว ที่ทำถูกต้องไม่ได้ ต้องเก็บไว้ภูมิใจกับมันคนเดียว

เอาเรื่องต่าง ๆ มาเปรียบเทียบให้เห็นภาพไม่ได้ เดี่ยวหาว่าแดกดัน ดูถูก และประชดประชันคนอื่นเค้า ไม่ควรทำ ควรอยู่สงบ ๆ

พูดแค่ว่ามาใช้ซอฟต์แวร์ถูกต้อง ถูกลิขสิทธิ์กันเถอะ แล้วไส้หัวไป ไม่ต้องเสนอหน้ามาแสดงความคิดเห็นอีก

เพราะทุกคนไม่มีเงินอย่างเมิง ทุกคนไม่ได้ปรับตัวได้อย่างเมิง แบบพวก progammer เก่ง ๆ (เก่งไปหมด)

เดี่ยวคนอื่นจะหมั่นไส้เอา หาว่าบ้านรวย มีตังซื้อของแท้ (แต่ไม่มีตังจะยาไส้)

แต่ทำไมเพื่อนกูเวลาจะเอาเงินเลี้ยงสาว มันต้องมายืมตังกูด้วยวะ –_-‘

ไม่รวยหรอกครับ ผมเรียนจบมา ผมติดลบ เป็นหนี้กู้ยืม เอาเงินมาเรียนตอน ป.ตรี ครับ

ตอนนี้ยังต้องหาเงินใช้หนี้เค้าเดือนนึงก็หลายอยู่ ไม่ใช้ก็ไม่ได้ คนค้ำประกันเดือดร้อน ผมไม่หน้าด้านไม่ใช้หนี้เค้าหรอก

ชีวิตมันก็ไม่ได้มีอะไรมาก ตอนนี้ก็ได้แต่ปลงกับเรื่องพวกนี้ จนบางครั้งก็คิดว่า “กูทำไปเพื่ออะไรวะ” ทำไปก็โดนด่า

แต่สุดท้ายเราก็ได้คำตอบว่า “กินไม่ได้แต่ก็มีความสุข” เหมือนเสพงานศิลป์ราคาเป็นล้านอะไรแบบนั้นหล่ะวะ (จะได้สบายใจ)

ไม่ต้องกลัว เดี่ยวมันลามไปเรื่อง หนัง เพลง ฯลฯ อีกแน่นอน ผมเชื่อแบบนั้น และมันก็จะจบตรงที่ว่า ไม่เกิดอะไรขึ้น

แค่มาบ่น ๆ แล้วก็จบไป เหมือนกับสายลมที่พัดผ่านมา แล้วก็จากไปรู้แค่ว่ามันผ่านมาให้เย็นผิว

แต่ไม่ได้รู้ว่ามันอาจจะเป็นสายลมสุดท้ายชีวิตก็ได้ ทำใจและเริ่มปลง

 

ปล. อาจจะเพราะคนสมัยนี้อดทนต่ำ อยากได้มันต้องเดี่ยวนี้ ทันทีทันใด รอไม่ได้ เอาเร็วเข้าว่าใครจะตายไม่สน ได้ฟังเพลงในวิทยุ ซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ เพิ่งออก หนังใหม่เพิ่งเข้าโรง ต้องได้ฟัง ได้ดู ได้ลงก่อนเพื่อน เดี่ยวตามโลกไม่ทัน กลัวล้าสมัยไปหมด เอาสบายแดกด่วนเข้าว่าอดทนน้อย โลกมันถึงได้วิบัติกันแบบนี้หล่ะมั้ง ความอดทนของคนมันน้อยลงจริง ๆ หว่ะ เฮ้อ …

ปล2. วันนี้ขอเขียนรูปแบบเด็กแนว Hi5 บางแล้วกัน ;P

กฎการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม

จาก ซอฟท์แวร์ก๊อปปี้ ดีจริงหรือ? ทำให้ผมคิดถึงเรื่องนึงได้คือ “กฎการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม

คนเราไม่สามารถที่จะได้อะไรมาโดยไม่เสียบางสิ่งบางอย่างไปเป็นการแลกเปลี่ยน

จากการ์ตูนเรื่อง “แขนกลคนแปรธาตุ” หรือ Full Metal Alchemist

ความหมายมันได้จริง ๆ นะสำหรับช่วงนี้

ปล่อยวาง และเดินต่อไป

เร่งรีบอย่าเร่าร้อน ให้รู้ผ่อนให้รู้เพลา
รู้หนักและรู้เบา อย่าเร่าร้อนเอาแต่อารมณ์

ถูกต้องหรือต้องถูก อย่าได้ผูกเป็นเงื่อนปม
อาทรทุกข์ระทม ความต้องถูกที่ผูกใจ

ความถูกมีกี่ชนิด และความผิดมีกี่ไฉน
ล้วนแต่กำหนดไป ตามสมมุติมนุษย์มนา

ความถูกก็มีฤทธิ์ และความผิดก็มีค่า
ล้วนแต่กำหนดมา เป็นสิ่งคู่ให้รู้ไว้

ความถูกอยู่ที่จิต และความผิดอยู่ที่ใจ
ปล่อยวางก็สุขไว ไม่ปล่อยวางก็กังวล

ปล่อยวางก็ว่างเบา จิตของเรามิร้อนรน
รู้ชัดในเล่ห์กล ของโลกาห้าประการ

สรรพสิ่งสรรพสัตว์ ย่อมวิบัติอันตรธาน
เปลี่ยนแปรไม่แน่ไม่นาน เป็นสัจจะกาลแห่งโลกา

แม้นในใจมนุษย์ สิ่งสมมุตินั้นแหละหนา
เปลี่ยนแปรทุกเวลา ตามธรรมดาประสาใจ

ใจคนก็ใจเขา เหมือนใจเรากระไรได้
ยึดมั่นกันทำไม ปล่อยวางเถิดประเสริฐเอย

สมณะเพาะพุทธ จันทเสฏโฐ ธรรมบรรยาย
ณัฐวุฒิ เกิดสุภาพ รวบรวมและเรียบเรียง

จาก http://www.tipinasia.info/writer/view.php?id=605

วันนี้ไม่มีอะไรเท่าไหร่ บ่น ๆ ไร้สาระไปเรื่อย ๆ ครับ

พอดีว่าวันนี้นั่งสงบสติอารมณ์ตัวเอง หลังจากกลับมาจากที่ทำงาน ช่วงนี้จิตมันเกิด ใจไม่สงบยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก อาจจะเพราะช่วงนี้ร่างกายไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่ และเรื่องไร้สาระหลาย ๆ เรื่องจนรู้สึกเบื่อ ๆ เลยต้องหาที่สงบสติตัวเองอยู่บ่อยครั้ง

รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรได้น้อยลงกว่าตอนเรียนอยู่มหาวิทยาลัยมาก ถึงมากที่สุด ไม่ถึง 1 ใน 5 ของตอนมหาวิทยาลัย ทำให้คิดถึงตอนอยู่มหาวิทยาลัยเหมือนกันนะ ความคิดไอเดียมันพวยพุ่งออกมา และเต็มไปด้วยสิ่งที่อยากลองอยากทำ แต่พอมาทำงานมันมีตัวประกอบเพิ่มเติมหลายอย่างที่ต้องทำก่อนเสมอ ยังมีไอเดียเต็มหัวที่อยากทำ แต่ไม่มีโอกาสได้ทำ และคาดว่าอีกไม่นานคงได้ทำมันสักที อีกไม่นาน …