@FordAntiTrust

ความคิดเห็นส่วนตัวจากข่าว "ผู้ร่วมก่อตั้ง Android บอก อย่าตื่นตระหนกกับปัญหา fragmentation มากเกินไป"

จากข่าว “ผู้ร่วมก่อตั้ง Android บอก อย่าตื่นตระหนกกับปัญหา fragmentation มากเกินไป

ส่วนตัวผมมองว่า คนพูดไม่ได้รับผลกรรมที่ตัวเองก่อขึ้น เลยได้แต่พูดครับ เพราะจากที่ได้เคยพัฒนาและนั่งฟังคนพัฒนาบ่น ผมและคนเหล่านั้นอยากจะบอกทุกคนว่ามันชวนปวดหัวมากกับการทำให้รองรับมือถือร้อยพ่อพันแม่ แถมเครื่องมือพัฒนาก็แย่มากไม่ช่วยอะไรต้องลงมือเองเยอะ (Android studio อาจเป็นความหวังของการพัฒนา App ในอนาคต)

ส่วนฝั่ง User เป็นเรื่องที่ทำให้ประสบการณ์ในการใช้งานของเค้า “แย่” มากเมื่อเทียบกับ iOS หรือ OS ตัวอื่นๆ ที่มีการควบคุมเรื่องขนาดจอภาพ การจัดวางปุ่ม ฯลฯ อย่างชัดเจน ซึ่งเมื่อไม่มีการควบคุมอย่างดี มันทำให้ความหลากหลายนั้นมากเกิน นักพัฒนาไม่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมในการพัฒนาและทดสอบได้ ซึ่งผมมองว่ามันจะกลายเป็นความซวยแบบไม่รู้ตัว แทนที่จะได้ App คุณภาพดี กลับได้ App คุณภาพแย่เพราะนักพัฒนาเอาเวลามานั่งทำในเรื่องบ้าๆ บอๆ ที่บางครั้งไม่เกี่ยวกับสิ่งหลักๆ ใน App เลย อย่างทำให้ขนาดหน้าจอรองรับได้หลากหลาย ทำงานกับ HW แปลกๆ ไม่ได้ รวมไปถึง App เดียวกัน แต่ทำงานต่างยี่ห้อมือถือ ประสบการณ์ในการใช้งานต่างกัน บาง App ใช้งานกับ CPU ช้าๆ ไม่ได้ แต่บางคนก็ไปดันทุรังทำลงไปได้แต่ก็ใช้งานกระตุกและประสบการณ์ในการใช้งานย่ำแย่ เพราะ User บอกว่า ก็มัน Android เหมือนกันนิ

อันนี้ผมพูดรวมๆ ในเชิง Technical ทั้งหมด เพราะผมหมายถึง Technical ส่วนผู้ใช้เค้าเข้าใจไหมนั้นอีกเรื่อง

ผมจะเล่าเรื่องแม่ผมใช้ Android ให้ฟังสักหน่อย ว่าเรื่องของ fragmentation มันสร้างความชวนปวดหัวให้มากแค่ไหน

ท่านไม่เคยใช้มือถือ Smartphone มาก่อน พอได้ LG Optimus 4x HD มา ก็เลยให้ท่านใช้ คู่มือมีสอนไม่คลอบคลุม แถมหนังสือต่างๆ ที่วางขายก็ไม่มีรุ่นนี้รองรับ แน่นอนว่าผมใช้ไม่ยากหรอก เพราะมีประสบการณ์ ดำน้ำไปสักพักก็ใช้เป็น แต่กับแม่ผม ผมสอนท่านเรื่องอ่านคู่มือการใช้งานให้เป็นหลัก ไม่ว่าอุปกรณ์อะไรผมเน้นแบบนี้เสมอ แต่กับมือถือ android โดยทั่วไป หาคู่มือและหนังสือที่สอนหรือแนะนำ App แบบไม่อ้างอิงยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งได้น้อยมากๆ มันไม่เหมือน iOS, Blackberry หรือ Windows phone ที่ UI นั่นไม่หลากหลายเท่า สองเบื้องต้น ต่อยอดได้ในอนาคต แต่คนใช้ Android เปลี่ยนยี่ห้อหรือรุ่นก็ต้องเปลี่ยนและศึกษาใหม่แล้ว ซึ่งผมว่ามันแย่กับคนใช้งานมากๆ ครับ เพราะเวลามีปัญหาแม่ผมโทรเข้ามาถาม ผมอ้างอิง UI ในหัวผมไม่ได้เลย เพราะ Android ที่ผมมีใช้ก็มี UI และปุ่มกดที่ไม่เหมือนเครื่องที่แม่ผมใช้งาน (ผมใช้ oppo find 3 แถมแพ) บอกกดปุ่มเมนู ปุ่มนั้นนี่ มันอยู่คนละที่ สลับข้างกันบ้าง คือมันไม่มีมาตรฐานตายตัว แต่ส่วนตัวกว่าจะสอนให้แม่ใช้งานได้คล่องก็เป็นอาทิตย์เลยทีเดียว ซึ่งก็ลำบากพอสมควรสำหรับคนไม่ใช่คนที่มีประสบการณ์ด้านไอทีอย่างแม่ผม แน่นอนว่าแม่ผมก็โอเคนะ เพราะ UI ใหญ่ เห็นชัดเจนดี แต่กว่าจะสอนให้ใช้ได้ก็พอสมควร T_T

หวังว่าจะเข้าใจการสื่อที่ผมสื่อนะครับ คนใช้ไม่สนใจ แต่คน Support คนใช้งานรับกรรมครับ คือบางครั้ง fragmentation ของ Android มันอาจจะไม่ใช่แค่ Technical เฉยๆ เท่านั้น แต่มันเป็น fragmentation ที่อยู่บน User Experience ของคนใช้งานระหว่างกันที่ไม่เข้าใจกันและกันด้วย เรือธงแต่ละค่ายคงไม่เท่าไหร่หรอก เพราะแพกว่าจะได้ล่องก็ผ่านไปเกือบปี แต่พวกล่างๆ รุ่นลองเรือธง โดนล่องแพเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว เพราะข้อจำกัดของ HW รุ่นเก่าที่ไม่รองรับความสามารถใหม่ๆ รวมไปถึง App รุ่นใหม่ๆ ที่รองรับและทำงานได้ดีแต่เฉพาะเรือธงที่ขายเท่านั้น ทำให้รุ่นเก่าๆ รุ่นความเร็วต่ำทำงานไม่ได้ไปอย่างน่าเสียดาย T_T

Exit mobile version