@FordAntiTrust

การปรับตัว

หายไปกว่า 2 อาทิตย์ เพราะต้องเข้าฝึกงาน ซึ่งก็จากตอนที่แล้วคงรู้กันหมดแล้วว่าฝึกงานที่ไหน ;)

ต่างที่ ต่างถิ่น ต่างความคุ้นเคย ทำให้รู้สึกตัวเองดู เหงา ๆ แต่เพราะมนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวเก่ง เราก็ควรจะปรับตัวให้เข้ากับอะไร ๆ ให้มากขึ้น และก็เช่นกัน ก็ควรจะปรับตัวกับแนวคิด ใหม่ ๆ ที่เข้ามาในชีิวิตด้วย (แต่ที่แน่ ๆ หอพักที่อยู่ตอนนี้มันไม่มีน้ำอุ่นให้อาบ เหมือนหอเก่าที่มหาวิทยาลัย ทำให้จ้ากกก ทุกครั้งที่อาบน้ำ T_T)

เมื่อมาถึง สิ่งแรกคือได้เข้าฟังการสอนของพี่เดฟ แค่ช่วงเวลา สั้น ๆ ก็ได้แนวคิดมากมาย ถึงแม้บางอย่างเรารู้แล้ว แต่บางอย่างก็ไม่รู้ แต่เมื่อเราเอามาเชื่อมโยงกับสิ่งที่รู้มาก่อน มันก็ทำให้เรามองอะไรชัดขึ้นอีกเยอะ ซึ่งตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ ก็ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ในหลาย ๆ อย่าง ซึ่งก็พวกการเริ่มหันมาสนใจภาษาพวก Functional Programming มากขึ้น ลองเล่น Haskell แล้วนำแนวคิด ต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกับ Imperative Language มาศึกษาดู ตอนนี้ก็เกือบอาทิตย์แล้วก็เริ่มมองภาพชัดเจนมากขึ้น ซึ่ง Functional Programming นั้น เรามักจะมีให้เห็นบ้างในภาษา SQL (SQL เป็นภาษาที่คุณลักษณะทั้ง object-oriented, functional และ procedural) และแนวคิดใน Functional Programming ก็เอาไปร่วมกับการทำ Lexical/Semantic Analysis ใน Compilers วิชานี้ก็เรียนมาและทำให้เข้าใจได้เลยว่าการทำ Compilers มันยากแสนยากยังไง แค่ทำให้มันบวกกันตามลำดับชั้นการคำนวณก็มึนแล้ว แถมตอนสอบให้มีการดัก if-else และนอกรอบก็ลองทำ loop ต่าง ๆ ดู สนุกสนานกันไป -_-‘

แต่ที่เด็ดโคตร ๆ คือการเอา Haskell มาอธิบายวิชา Data Structure ซึ่งเขียนได้สั้น, กระชับ และเข้าใจได้ง่าย ในเชิงคณิตศาสตร์ ซึ่งช็อคกันหลาย ๆ อย่างที่สุด…. มากเพราะบางอย่างที่เราเขียนในภาษา C โดยใช้เวลาเขียนยาว ๆ และใช้เวลานาน กลับใช้เวลาสั้นอย่างน่าใจหายใน Haskell ซึ่งเป็นภาษา Functional Programming ทำให้เราได้แนวคิดมาตอบโจทย์ หลาย ๆ อย่างได้เยอะดี ท่าทางต้องศึกษากันต่อไป

ต่อมาก็ตามด้วยศึกษาภาษา Ruby ซึ่งก็ไม่ยาก เพราะได้อิทธิพลมาจาก Python ซึ่งก็เคยทำ e-book มาก่อนหน้านี้แล้ว (หาใน blog นี้ไม่น่าจะยากนะครับ) ซึ่งจากที่ได้ลองเรียนรู้รูปแบบภาษาแบบคราว ๆ ก็ถือว่าเป็นภาษาที่เรียบง่าย อ่านแล้วรู้สึกเหมือนเขียนนิยาย และตรงไปตรงมา และที่ชอบที่สุดคือมันเป็น Dynamic Typing ซึ่งทำให้อะไร ๆ มันพัฒนาได้ง่ายมาก ซึ่งต้องบอกตามตรงว่าผมเขียนโปรแกรมมิ่งได้สนุกเพราะ PHP ที่เป็นภาษา Dynamic Typing ทำให้เราใส่ไอเดียต่าง ๆ ลงไปแทนที่เราต้องมาคิดว่า Type มันจะถูกต้องหรือเปล่า ถึงแม้ว่าผมเรียนรู้การเขียนโปรแกรมจากภาษา c ก็ตาม แต่มันก็ทำให้ผมเข้าใจว่าการที่เราทำง่าย ๆ นั้น ทำให้เราสนุกกับการเขียนโปรแกรมมากขึ้นเยอะ โดยจากไล่ ๆ ดูตัวภาษา Ruby แล้วก็ทำความเข้าใจอะไร ๆ ไม่ยาก แล้วก็พยายามศึกษา Rails Framework ในแบบเส้นขนานกันไป ทำให้การสร้าง Web Application ต่าง ๆ นั้น ๆ ง่ายขึ้นมาก ๆ งานที่เราต้องทำอะไร ๆ นาน กลับทำได้ง่าย ๆ ภายในเวลาไม่นาน ซึ่งมันถือเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก ๆ เลย ซึ่งคาดว่าจะเอามาใช้แทน PHP ในการพัฒนา Web Application ในอนาคตนี้แน่นอน (หา Web Hosting ให้ได้ก่อน ตอนนี้ -_-‘)

Exit mobile version