iPod Nano 1st Gen 2GB แปลงร่างเป็น 6th Gen 8GB บอกตรงๆ ไม่ประทับใจ 6th Gen

ส่วนตัวใช้ iPod Nano 1st Gen 2GB มาตั้งแต่สมัยเรียน ป.ตรี (ปี 3-4 ได้มั้ง) แน่นอนว่าพอเรียนจบก็ปลดระวางลงหลังจะมี iPod Nano 4th Gen 8GB (ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว)

P1000694a

แน่นอนว่าผมชอบ iPod Nano เพราะ click wheel ครับ และที่ใช้อยู่จนทุกวันนี้ (แม้จะไม่มี 4th Gen แล้ว) ก็เพราะมันเล็กเนี่ยแหละ แต่เพราะแบตมันมีปัญหา แล้วมีข่าวเรื่องเคลมเพราะแบตมีปัญหา ซึ่งมันนานมาก ถ้า Apple ปล่อยผ่านไปก็ยังได้ แต่ไม่ปล่อยผ่าน ก็โอเค ผมถือว่าอยากได้ไอ้เจ้าตัวนี้ตัวใหม่ก็น่าจะดี (ความจุเดิมผมก็ยังไหวนะ)

ใช้เวลาในการเคลมประมาณ 1 เดือนกว่าๆ นับจากปลายปีที่แล้ว (ประมาณเดือน ธันวาคม) ถือว่าช้าไหมก็ช้านะสำหรับการเคลมของ Apple โดยปรกติ (ส่วนใหญ่ผมเคลมใช้เวลา 2 อาทิตย์โดยประมาณ) แต่อันนี้ทาง MCC ได้แจ้งผมไว้แล้วอาจจะนานหน่อย 1-2 เดือนโดยประมาณ ผมก็ไม่ได้อะไร เพราะหลังๆ ไม่ได้ใช้อะไร ได้เคลมก็เป็นบุญหัวเท่าไหร่แล้ว (ความรู้สึกลูกค้าคนไทยคงประมาณนี้) ทาง MCC บริการดีครับ โทรแจ้งว่าได้ของและให้ผมเข้าไปรับ ตลอดการส่งและรับเคลมไม่มีปัญหาใดๆ สอบผ่านผมตลอดเวลาเคลมของยี่ห้อ Apple ผ่าน MCC

แต่แล้วมันก็โดนแปลงร่างมาเป็น iPod Nano 6th Gen 8GB ตัวนี้

Pathum Wan-20120203-00544

ตอนแรกที่ไปรับก็ดูสวยดีนะ แต่หลังจากได้ลองใช้ได้ลองพก ยอมรับเรื่องความเล็กว่าโอเคมันเล็กดีนะ แต่ข้อเสียมันเยอะมาก

  • มันหนาขึ้น เพราะคลิปหนีบ ><” (คิดว่าถอดได้แหละ มั้ง)
  • รุ่นนี้มันเล่นวิดีโอไม่ได้ (รุ่นเก่ามันเล่นได้)
  • ไม่มีกล้อง (รุ่น 5th Gen มีกล้อง)
  • การควบคุมใช้การสัมผัสจอภาพซึ่งนิ้วมันไปบังทับ icon มิดเลย มองไม่ออกว่ากำลังเลือกอะไรอยู่ (click wheel เหมาะกว่า)
  • มันเล็กเกินไป เอา Shuffle มาแทนและใช้ body กลับมาเป็นแบบรุ่น 5th Gen จะดีมากๆ
  • การเลื่อนเพลงใดๆ ต้องจับมันขึ้นมามองตลอดเวลา มันน่าเบื่อมากๆ ไม่ได้ต่างจาก iPod Touch ตัวที่ใช้อยู่เลย แค่มันเล็กกว่า แล้วงี้จะมีไว้ทำไม!!!
  • จริงๆ ตัวปุ่มกดด้านบนขวามันทำเรื่อง next song ได้นะ แต่แน่นอนว่ามันปุ่มเดียว มันเลยต้องเลือกระหว่าง next song หรือ play/pause ซึ่งแน่นอนว่าผมเลือกอย่างหลัง
  • ผมคิดว่าเค้าพยายามทำให้มันเล็กเพื่อเอาไปใช้ร่วมกับ Nike+ หรือตอนออกกำลังกายมากกว่า (มัน build-in Nike+ และ FM มาให้) ซึ่งโอเคยอมรับได้ แต่น่าจะเป็นรุ่นเล็กหรือรุ่นใหม่ไปเลยน่าจะดีกว่า บอกตรงๆ เสียความรู้สึก ><”

สรุปรวมๆ แค่ control มันก็ไม่ใช่แล้ว ลองคิดถึงมันอยู่ในกระเป๋ากางเกงแล้วกดเลื่อนเพลงไปๆ มาๆ ลด-เพิ่มความดังของเสียงได้ โดยไม่ต้องเอาออกมาจากกระเป๋าก็แตกต่างกับตัวนี้แค่ไหนแล้ว ><” เฮ้ออออ

ลองเล่นๆ แงะ Backup ของ iOS 4 เพื่อดึงการเก็บข้อมูลพิกัดของผู้ใช้งาน

จากข่าว iOS 4 เก็บข้อมูลพิกัดทุกคนไว้โดยตั้งใจ ก็เลยรู้สึกคันไม้คันมือลองของ เนื้อหาตอนนี้เขียนขึ้นเพื่อเตือนและให้ระมัดระวังตัว เพราะฉะนั้นหวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่อ่าน แน่นอน อุปกรณ์และตัวอย่างทั้งหมด ไม่ได้ jailbreak หรือ hack/crack แต่อย่างใด เพราะส่วนตัวแล้วนั้นผมใช้ iPod Touch 4 อยู่แล้ว และไม่ได้ jailbreak ใดๆ Apps ทุกตัวซื้อทั้งหมด และใช้งานตาม EULA ของ Apple ซึ่งตัว iOS ที่ใช้ก็ือ 4.3.2 ตัวล่าสุด! แน่นอนว่ามันมีข่าว ผมก็ต้องจัดสักหน่อย ดูว่าเป็นอย่างที่เค้าว่ากันว่าไหม

จากแหล่งข้อมูลอ้างอิง ผมใช้ข้อมูลตัวอย่างจากการ Backup เป็นหลักแล้วกัน ถ้าจะให้เข้าไปเอาจากในเครื่องเลย ดูจะเสียเวลาและดูยุ่งยาก ซึ่งแน่นอนว่าเป็นข้อมูลที่เข้าถึงง่ายที่สุดและไม่ได้อยู่ติดตัวผู้ใช้ตลอด ทำให้โดนเอาไปใช้งานได้ทันที!!!! รหัสผ่านไม่ต้องกรอก แต่สามารถเข้าถึงเครื่องที่ iPhone/iPod Touch รุ่นนั้นๆ เคย Sync ไว้กับเครื่องของไว้ ก็จะสามารถนำข้อมูลส่วนนี้และนำไปใช้งานได้ทันที

เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าเอาไปให้ร้านมือถือ upgrade ให้ก็จงระวังให้หนักสำหรับเรื่องตรงนี้ครับ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลาย เพราะมันลากไส้มาตั้งแต่คุณ activate เครื่องในการซื้อครั้งแรกเลย เพราะงั้น ถ้าเราเอาข้อมูลพวกนี้มาทำสถิติก็จะพอบอกได้ว่าบ้านและสถานที่ที่ไปบ่อยๆ นั้นอยู่ที่ไหนบ้าง

เรามาเริ่มกันเลย การเข้าถึงแหล่งข้อมูล Backup นั้นผมอ้างอิง path ของระบบผ่าน Microsoft Windows 7

C:\Users\[Windows's User Name]\AppData\Roaming\Apple Computer\MobileSync\Backup\xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx-yyyymmdd-hhmmss

[Windows’s User Name]
ชื่อ User Name ของ Windows ที่ใช้งานอยู่

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
คือรหัส 40 ตัวอักษรที่ hash ไว้

yyyymmdd-hhmmss
วันและเวลาที่ backup

ใน directory ปลายทาง หาไฟล์ที่ชื่อ

4096c9ec676f2847dc283405900e284a7c815836
เป็นไฟล์ฐานข้อมูลของ SQLite และ “ไม่ได้เข้ารหัส”

ใช้ SQLite Manager ที่เป็น Extension ของ Mozilla Firefox เปิดเอาก็ได้แบบนี้!

Table ในฐานข้อมูลที่ต้องสนใจคือ CellLocation และ WifiLocation ครับ

จะได้ข้อมูลเวลา สถานที่ที่เป็น lat/long ชัดเจนมาก โชคดีที่ผมใช้เป็น Wifi แต่ถ้าเป็นมือถืออย่าง iPhone ก็จะอยู่ที่ CellLocation โครงสร้างก็ไม่แตกต่างกันครับ เอาข้อมูลไป lat/long ไปค้นหาใน Google Maps ได้ทันที จะเขียนโปรแกรม ฯลฯ ก็น่าจะยากสำหรับคนที่ต้องการติดตามตัวครับ!!!

เนื้อหาตอนนี้เป็นการตีแผ่และหวังว่าในอนาคต Apple จะปรับปรุงการเก็บข้อมูลส่วนนี้ให้มีความปลอดภัยมากขึ้น และแจ้งผู้ใช้งานก่อนไม่ใช่อยากจะเก็บก็เก็บโดยไม่ได้บอกผู้ใช้ก่อนแบบนี้

ปล. เนื้อหาบทความนี้อาจจะอายุไม่ยืน ถ้ามีการแจ้งให้ลบบทความจากหน่วยราชการคงต้องลบนะครับ ;P

อ้างอิงจาก http://petewarden.github.com/iPhoneTracker/

หมายเหตุ : วิธีนี้จะใช้ได้ผลใน iOS รุ่นที่ต่ำกว่า iOS 4.3.3 ลงมา

คำถามที่ Apple ต้องนำกลับไปคิดว่าแถบวัดความชื้นเป็นสิ่งยืนยันสิ่งเดียวได้หรือไม่?

จากข่าว แอปเปิลปรับนโยบายเรื่องความชื้นใหม่ มีจุดแดงก็ยังไม่หลุดประกันได้ ผมนั้นไม่เคยได้รับผลกระทบจากกรณีนี้ ส่วนใหญ่ผมจะได้เคลมเสมอๆ แน่นอนว่าในอนาคตมันก็ไม่แน่ว่าผมจะโดนไปด้วยหรือไม่ (ปรกติผมเคลมเพราะแบตฯ เสื่อมเป็นหลัก)

แต่สิ่งที่น่าคิดจากกรณีนี้ ซึ่ง Apple อาจจะต้องนำกลับไปทำการบ้านเพิ่มเติม (และหวังว่าจะมีใครส่งให้เค้าสักหน่อย) คือ

Apple มีแถบวัดความชื้นไว้ตรวจสอบเครื่องตกน้ำ หรือโดนความชื้นมาเกินไป แต่ถ้าเกิดแถบวัดความชื้นไม่ได้คุณภาพล่ะ ผู้บริโภคมีทางตรวจสอบได้ไหมว่าไม่ใช่ความผิดปรกติของแถบวัดความชื้นที่ทำงานผิดพลาดแทน

 

image

รูปจาก http://www.pantip.com/cafe/mbk/topic/T10101050/T10101050.html

ปัญหาภาษาไทยใน iPod nano (4th Gen) ได้ถูกแก้ไขแล้วใน Software Version 1.0.4

จาก อัพเดท Firmware iPod nano (4th generation) แล้วอ่านภาษาไทยไม่ได้ แก้ยังไงดี ? ที่บ่นๆ ไปเมื่อ 16 พ.ย. 51 (November 16th, 2008-10:50 am) ตอนนี้ Apple ได้แก้ไขแล้วในวันนี้ วันที่ 13 ส.ค. 52 อืมมม เกือบ ๆ 9 เดือน !!! กับการแก้ไขปัญหาของ Apple ในครั้งนี้

รายละเอียดใน Release Note มีดังนี้

  1. Fixed issue which resulted in some incorrect daylight savings date settings
  2. Thai song information tags now display properly after syncing iPod nano in disk mode
  3. Other minor bug fixes

คำถามที่อยากถาม Apple ว่าทำไมแก้ปัญหานานจัง มัวทำอะไรอยู่ ? เพราะใน Discussions Board ของ Apple มีการ bug report ไปตั้งแต่ 12 พ.ย. 51 แล้วด้วยซ้ำ ?

[bug report] 1.0.3 firmware wipes out Thai font Display
Posted: Nov 12, 2008 10:42 PM
http://discussions.apple.com/thread.jspa?messageID=8477339

สรุป ใช้ของ Apple ต้องอดทนเนอะ !!!

อัพเดท Firmware iPod nano (4th generation) แล้วอ่านภาษาไทยไม่ได้ แก้ยังไงดี ?

จาก ได้มาแล้ว iPod nano 4thG (8GB) วันนี้เมื่อเช้าได้มี notification ขึ้นมาว่ามี update ตัวใหม่ออกมา มีการ support/fix ดังนี้

  • Support for Apple In-Ear Headphones with Remote and Mic
  • Support for Apple Earphones with Remote and Mic
  • Fixed instability issues when using Nike + iPod Sport Kit
  • Added a setting to turn off Cover Flow when rotating iPod nano and a Cover Flow menu item under the Music menu
  • When Shuffle setting is set to Songs, pressing play on a song in a saved Genius playlist will now follow the Shuffle setting
  • After playing a slideshow with TV out, Cover Flow album art is no longer distorted
  • Waking iPod nano after hibernating no longer distorts photos
  • Other minor bug fixes

แล้วพอ update ไปมันดันอ่านไทยไม่ได้ซะงั้น T_T

เลยลอง iPod 5Rs Troubleshooting Assistant ตามแบบฉบับเดิมของเราก่อนเลย แล้วสำเร็จที่ Reset ครับ

Reset
To reset your iPod:

  1. Toggle the Hold switch on and off. (Slide it to Hold, then turn it off again.)
  2. Press and hold the Menu and Select buttons until the Apple logo appears, about 6 to 10 seconds. You may need to repeat this step.

Tip:
o If you are having difficulty resetting your iPod, set it on a flat surface. Make sure the finger pressing the Select button is not touching any part of the click wheel. Also make sure that you are pressing the Menu button toward the outside of the click wheel, and not near the center.
o If the above steps did not work, try connecting iPod to a power adapter and plug the power adapter into an electrical outlet, or connect iPod to your computer. Make sure the computer is turned on and isn’t set to go to sleep.

ลอง ๆ กันดูนะครับ น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ครับ